ย้อนรอยก่อนถึงวันรับกรรม...‘บังฟัต’-แก๊งทมิฬ’ฆ่าโหดยกครัว8ศพ‘ผญบ.บัติ’
28 มี.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.กระบี่ ว่า ในวันนี้(28 มี.ค.) ศาลจังหวัดกระบี่ จะมีการพิจารณาตัดสินคดีที่ นายซูริก์ฟัต บ้านนบวงศ์สกุล หรือ “บังฟัต” กับพวกรวม 8 ราย ตกเป็นผู้ต้องหาในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันปล้นทรัพย์ ซ่องโจร และข้อหาอื่นๆอีกหลายข้อหา ซึ่งความผิดสูงสุดมีโทษถึงประหารชีวิต หลังก่อคดีสะเทือนขวัญสังหารหมู่ครอบครัวนายวรยุทธ สังหลัง หรือ “ผู้ใหญ่บัติ” ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ โดยมีผู้เสียชีวิตรวม 8 ราย ในจำนวนนี้มี ด.ญ 3 ราย อายุเพียง 4 ขวบ 8 ขวบ และ 12 ปีรวมอยู่ด้วย นอกจากนั้นยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 3 คน
สำหรับคดีดังกล่าวเกิดขึ้นในคืนวันที่ 10 ก.ค.60 เมื่อกลุ่มคนร้ายเป็นชาย 6-7 คน แต่งกายชุดลายพรางคล้ายทหาร พร้อมอาวุธครบมือ อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ มาขอตรวจค้นบ้านเลขที่ 14/3 ม.1 ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ ซึ่งเป็นบ้านของนายวรยุทธ จากนั้นได้จับคนในบ้าน 11 คน คุมตัวใส่กุญแจมือ และปิดบังใบหน้า ใช้อาวุธปืนจ่อยิงอย่างโหดเหี้ยม ไม่เว้นแม้กระทั่งเด็ก ทำให้มีผู้เสียชีวิต 8 ราย บาดเจ็บสาหัส 3 ราย หลังก่อเหตุคนร้ายได้หลบหนีไป
คดีนี้เป็นที่สะเทือนขวัญแก่คนทั้งประเทศ แม้แต่สื่อในต่างชาติยังให้ความสนใจ โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ได้ลงมาบัญชาการคลี่คลายคดีด้วยตนเอง พร้อมระดมนักสืบมือดีของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมสืบสวนติดตามจับกุมกลุ่มคนร้าย พร้อมลั่นวาจาว่าคนร้ายที่ลงมืออย่างโหดเหี้ยมครั้งนี้ มีโทษสถานเดียว คือ...
ประหารชีวิต!!!
จนกระทั่งวันที่ 16 ก.ค.60 หรือเพียง 5 วันหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดีได้จับกุมหัวหนัาแก๊งที่ก่อเหตุในครั้งนี้ คือ นายซูริก์ฟัต บ้านนบวงศ์สกุล หรือ “บังฟัต” กับพวกรวม 8 ราย ประกอบด้วย 2.นายประจักษ์ บุญทอย 3.นายธนชัย จำนอง 4.นายอรุณ ทองคำ 5.นายธวัฒชัย บุญคง 6.นายอับดุลเลาะ ดอเลาะ 7.นายคมสรรค์ เวียนนนท์ และ 8.น.ส.ชลิดา สังขโชติ ภรรยาน้อยของบังฟัต โดยจับกุมได้ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต และพังงา
จากการสอบสวน “บังฟัต” ยอมรับว่าเป็นผู้ลั่นไกสังหารโหดสมาชิกในครอบครัว “ผู้ใหญ่บัติ” ทั้งหมด 11 คนเพียงผู้เดียว โดยอ้างว่าแค้นที่ถูก “ผู้ใหญ่บัติ” ข่มขู่เอาชีวิตทั้งครอบครัว และมีการท้าทายกันไปมา จากกรณี “ผู้ใหญ่บัติ” นำโฉนดที่ดินของพ่อตา และญาติ รวมทั้งของชาวบ้านไปจำนองกับ “บังฟัต” ซึ่งทำธุรกิจรับจำนำรถยนต์และจำนองที่ดิน
จากนั้นมีจดหมายจากธนาคารว่าที่ดินทั้งหมดกำลังจะถูกธนาคารยึด “ผู้ใหญ่บัติ” จึงรวบรวมเงินเพื่อนำไปไถ่ถอนคืน แต่เมื่อ “บังฟัต” ได้รับเงินแล้วกลับไม่ยอมคืนที่ดินให้ เพราะเอาที่ดินไปจำนองกับธนาคารแล้ว “ผู้ใหญ่บัติ” จึงเดินเรื่องฟ้องร้อง จนเกิดการขู่ฆ่าถึงขั้นเอาชีวิตยกครัวกันทั้ง 2 ฝ่าย นอกจากนี้ “บังฟัต” ยังสารภาพว่าวางแผนลอบสังหาร “ผู้ใหญ่บัติ” มาถึง 3 ครั้ง แต่ไม่สำเร็จอีกด้วย
นอกจากนี้ในการสอบสวน “บังฟัต” ยังอ้างว่าไม่ได้ตั้งใจฆ่าถึง 8 ศพ แต่เหตุที่ออกมาเช่นนั้นเพราะ...
ผิดแผน!!!
“บังฟัต” อ้างว่า “แผนสังหารโหด” เริ่มจากเขาเรียกพวกลูกจ้าง ลูกน้อง ที่รับจ้าง บางคนทำสวนยางพารา รวม 6 คน มาร่วมงาน บอกว่าจะมา “ทวงหนี้” เงินกู้ 3 ล้านบาท และให้ค่าจ้างคนละ 1 พันบาท โดยให้ทุกคน “สวมรอย” เปลี่ยนชุดเป็นเครื่องแบบลายพราง เพื่อความสะดวกเมื่อเดินทางผ่านด่านตรวจ และให้ “ทีมฆ่า” เรียกตัวเองว่า “ผู้พัน” ขณะที่ลูกน้องที่ก่อเหตุก็เรียกกันว่า “จ่า” และ “ผู้กอง”
หัวหน้าทีมสังหารผู้นี้ อ้างว่า เดิมตั้งใจฆ่าแค่ “ผู้ใหญ่บัติ-เมีย” เท่านั้น จึงสวมหมวกไอ้โม่งคลุมหน้าตาป้องกันไม่ให้คนในบ้านจำหน้าได้ แต่เกิด “ผิดแผน” เพราะเมื่อไปถึงกลับไม่พบ “คู่อาฆาต” ทำให้คนในบ้าน “จำหน้า” ได้
กระทั่งเมื่อ “ผู้ใหญ่บัติ” กลับเข้าบ้าน จึงให้ลูกน้องล็อกตัวเอาไปพูดคุย และระหว่างนั้น “เหยื่อ” จำเขาได้ จึงเป็นที่มาให้เขาตัดสินใจ “ฆ่าปิดปาก” ทั้งหมด แบบ “ยกครัว” โดยใช้ปืน .38 ของผู้ใหญ่บัติลั่นไกทีละคน ไม่เว้นแม้แต่ผู้หญิงหรือเด็ก
จากนั้นเขาได้ “อำพรางคดี” ด้วยการให้ลูกน้องคุมผู้ใหญ่บัติไปขังไว้ในรถ พร้อมให้เซ็นใบโอนรถยาริส และให้โทรศัพท์ไปยืมเงินเพื่อนให้โอนเข้าบัญชี 5 แสนบาท ด้วยหวังจะให้คดีออกมาในรูปของ “ผู้ใหญ่บัติ” เกิดความเครียดจากหนี้สิน จึงลงมือสังหารคนในครอบครัวเอง
แต่เมื่อ “ผู้ใหญ่บัติ” กลับเข้าบ้าน ภาพที่เห็น คือ ความสูญเสียคนในครอบครัว เขาจึงฮึดสู้กับ “บังฟัต” ก่อนที่ปืนจะหล่น และหนึ่งในลูกน้องที่มาด้วย จึงยิงใส่ผู้ใหญ่บัติจนเสียชีวิต เพื่อ “จัดฉาก” ว่าผู้ใหญ่บัติฆ่าตัวตาย หลังยิงครอบครัว
จากนั้น “แก๊งทมิฬ” จึงหลบหนี โดยนำรถยาริสของ “ผู้ใหญ่บัติ” ไปด้วย ก่อนจะเผาอำพรางที่ จ.พังงา
อย่างไรก็ดี เมื่อ ผบ.ตร.นำทีม “นักสืบพระกาฬ” ลงมาสืบสวนคดีด้วยตนเอง สุดท้าย...
“แก๊งทมิฬโหด” ก็หนีไม่พ้นเงื้อมมือกฎหมาย!!!
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี