สลด เพื่อนสนิทชวนกันไปนั่งเล่นกระต๊อบกลางสวนปาล์ม อยู่ๆ คว้ามีดฟันหน้าเพื่อนดับอนาถ ก่อนชิ่งจักรยานยนต์หลบหนี สุดท้ายไม่รอด ตร.ตั้งปมสังหาร คาดโรคประสาทกำเริบและเมากัญชาประสาทหลอน
27 มี.ค.61 เมื่อเวลา 17.10 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลาประมาณ 17.30 น. ของวันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ภิญโญ พ่วงทอง รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่า มีชายวัยรุ่นใช้อาวุธมีดฟันเข้าที่คิ้วเพื่อนสนิทของตนเองเป็นแผลฉกรรจ์และเสียชีวิตคาที่ เหตุเกิดที่บริเวณกระต๊อบภายในสวนปาล์ม ติดกับแม่น้ำแควน้อย หมู่ 2 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ
จากนั้นจึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.จุมพล เลขสุนทรากร ผกก.สภ.ทองผาภูมิ พ.ต.ท.นิพนธ์ เลิศพลรัตน์ รอง ผกก.สส.สภ.ทองผาภูมิ พ.ต.ท.เกียรติศักดิ์ วิเศษสิงห์ รอง ผกก.ป.สภ.ทองผาภูมิ พ.ต.ต.อรุณ สังข์เทพ สวป.สภ.ทองผาภูมิ ร.ต.อ.อัมพร ดอกแก้ว รอง สว.สส.ฯ ร.ต.อ.วีระชัย กลิ่นเกสร รอง สวป.พร้อมกำลัง และแพทย์เวร รพ.ทองผาภูมิ รวมทั้งเจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยกาญจนบุรี
ที่เกิดเหตุ พบศพชายวัยรุ่นนอนเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่กับพื้นดินที่อยู่ภายในกระต๊อบ นุ่งกางเกงขาสั้นแบบสามส่วน สภาพศพถูกของมีคมฟันเข้าที่บริเวณเหนือคิ้วซ้ายเป็นแผลฉกรรจ์ จำนวน 1 แผล เป็นเหตุทำให้เสียชีวิต ทราบชื่อต่อมาคือ นายอริย์ธัช หรือทัช ทองอินทร์ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18/17 หมู่ 1 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี หลังจากเจ้าหน้าที่ชันสูตรพลิกศพเบื้องต้นแล้วเสร็จ จึงนำไปที่ รพ.ทองผาภูมิ เพื่อรอส่งต่อไปผ่าพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวช ระหว่างนั้นเมื่อครอบครัวและญาติของผู้เสียชีวิตมาพบศพต่างรู้สึกเศร้าโศกเสียใจเป็นอย่างมาก
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุมีพลเมืองดีพบผู้ตายนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์มากับ นายขจรศักดิ์ หรือ แบงค์ อ๊ะนา อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 78/4 หมู่ 1 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เข้ามานั่งเล่นภายในสวนปาล์มตรงจุดเกิดเหตุ ต่อมาพลเมืองดีคนดังกล่าว เห็นนายขจรศักดิ์ วิ่งเข้ามาหาเพื่อขอความช่วยเหลือ นำร่างของผู้ตายส่งโรงพยาบาล แต่เมื่อมาถึงก็พบว่านายอริย์ธัช ได้เสียชีวิตแล้ว ส่วนนายขจรศักดิ์ที่เป็นเพื่อนสนิทกับผู้ตาย ได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
เจ้าหน้าที่จึงมั่นใจว่าผู้ลงมือก่อเหตุ คือ นายขจรศักดิ์ จึงเร่งสืบสวนและออกติดตามหาเพื่อจับกุมตัวมาดำเนินคดี จนกระทั่งทราบว่านายขจรศักดิ์ ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีเข้ามาในพื้นที่อำเภอเมืองกายจนบุรี เพื่อมาหาญาติที่อาศัยให้กับห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง จึงประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.จว.กาญจนบุรี ช่วยกันสกัดจับ และสามารถช่วยกันจับกุมตัวได้ในช่วงเวลาประมาณ 23.00 น. จากนั้นจึงคุมตัวไปสอบสวนที่ สภ.ทองผาภูมิ ทันที
สุดท้าย นายขจรศักดิ์ได้ยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุทำร้ายเพื่อนสนิทจนเสียชีวิตจริง ก่อนเกิดเหตุระหว่างที่ผู้เสียชีวิตนอนเล่นอยู่บนเปล ระหว่างนั้นนายขจรศักดิ์ ได้พยายามพูดคุยกับนายทัช แต่นายทัชก็ไม่ยอมพูดด้วย และเมื่อถามเรื่องอะไรนายทัชก็ตอบไม่ตรงประเด็น ทำให้นายขจรศักดิ์เกิดความโมโห และใช้อาวุธมีดฟันเข้าที่คิ้วของเพื่อนอย่างแรง ทำให้นายทัชได้รับบาดเจ็บ ดิ้นรนด้วยความเจ็บปวดจนเปลขาด และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
หลังก่อเหตุผู้ต้องหาได้ไปขอความช่วยเหลือจากพลเมืองดีที่กำลังเก็บผลผลิตปาล์มอยู่ แต่เมื่อมาถึงก็พบว่านายทัช ได้เสียชีวิตแล้ว จากนั้นนายขจรศักดิ์ จึงได้นำอาวุธมีดที่ใช้ก่อเหตุไปโยนทิ้งลงไปในร่องดินที่ลึกลงไป แล้วขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป แต่สุดท้ายเจ้าหน้าที่ก็สามารถจับกุมตัวได้
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อเวลา 12.00 น. วันนี้ คณะเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทองผาภูมิ ได้คุมตัวนายขจรศักดิ์ มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บริเวณจุดเกิดเหตุแล้ว ซึ่งทางญาติของผู้ต้องหา แจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบว่า นายขจรศักดิ์มีอาการทางโรคประสาท และมีบัตรไปรักษาที่โรงพยาบาลจิตเวชมาก่อน อีกทั้งยังต้องกินยาระงับโรคประสาทอยู่เป็นประจำ แต่ที่ผ่านมานายขจรศักดิ์ ไม่ได้กินยาระงับประสาทมาหลายวันแล้ว ซึ่งอาจจะทำให้โรคประสาทกำเริบขึ้นมา เป็นเหตุให้ทำร้ายเพื่อนสนิทจนเสียชีวิต
แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบยาเสพติดประเภทกัญชาตกอยู่จำนวนหนึ่ง อาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทั้งคู่มานั่งสูบกัญชา จนเกิดประสาทหลอนก็เป็นได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเร่งหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี