ภายหลังที่ กรมส่งเสริมสหกรณ์ ทำข้อตกลงกับธนาคารกรุงไทยในการพัฒนาระบบบริหารจัดการทางการเงินให้สหกรณ์และสมาชิกสหกรณ์ เพื่อให้เข้ากับยุคดิจิทัลและนวัตกรรมทางการเงินแบบไร้เงินสด โดยเชิญชวนให้สหกรณ์ที่สมัครใจเข้าร่วมโครงการ พัฒนาระบบธุรกรรมทางการเงิน ด้วยการทำบัตรเงินสด e-Money หรือบัตรเติมเงินแทนการถือเงินสดให้กับสมาชิกสหกรณ์ หรือที่เรียกง่ายๆ ว่า Co-Op Member Card ซึ่งบัตรดังกล่าวจะใช้แทนเงินสด สหกรณ์สามารถโอนเงินกู้ เงินปันผลและจ่ายค่ารับซื้อผลผลิตจากสมาชิกได้ใส่ไว้ในบัตร และสมาชิกสามารถนำบัตรนี้ไปกดเงินสดได้ที่ตู้ ATM ของธนาคารทุกแห่ง ซึ่งการกดเงินจากตู้ ATM ดังกล่าว จะคิดค่าบริการอัตราเดียวกับ ATM ทั่วไป โดยธนาคารกรุงไทยจะคิดต้นทุนค่าบัตรเพียงใบละ 50 บาทใช้ได้ 5 ปี และไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี
นอกจากนี้ บัตรเงินสด Co-Op Member Card สมาชิกสหกรณ์สามารถนำบัตรดังกล่าวไปใช้ในการ ซื้อสินค้า เช่น ปัจจัยการผลิต ทั้งปุ๋ย ยา เมล็ดพันธุ์ และสินค้าอุปโภค-บริโภคที่ร้านค้าของสหกรณ์ ซึ่งสหกรณ์สามารถบริหารเงินสดได้แบบ Online โดยไม่ต้องสำรองเงินสดจำนวนมากไว้ที่สหกรณ์และสามารถจ่ายค่าผลผลิตและเงินกู้ให้กับสมาชิกได้ทันท่วงที รวมทั้งสามารถตรวจสอบข้อมูลได้ผ่าน KTB Corporate Online ซึ่งสมาชิกจะเกิดความสะดวกในการรับบริการจากสหกรณ์ ประหยัดเวลาและประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาที่สหกรณ์
นางสาวพนิตตา ทองเล็ก ผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์กรมศุลกากร จำกัด กรุงเทพมหานคร หนึ่งในผู้เข้าร่วมการประชุมรับฟังการชี้แจงความร่วมมือ ในการพัฒนาระบบบริหารจัดการทางการเงินสหกรณ์ระหว่าง กรมส่งเสริมสหกรณ์ กับธนาคารกรุงไทย เปิดเผยถึงประโยชน์ของโครงการบัตรเงินสด Co-Op Member Card ร่วมกับธนาคารกรุงไทยว่า โครงการนี้เป็นประโยชน์กับสมาชิกสหกรณ์ เป็นก้าวแรกของการพัฒนาระบบธุรกรรมทางการเงินสหกรณ์ในอนาคต เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล ซึ่งบัตรนี้เหมาะสำหรับให้บริการแก่สมาชิกที่อยู่ห่างไกลสหกรณ์และเดินทางไม่สะดวก เพราะเมื่อสหกรณ์โอนเงินเข้าบัตรเงินสด Co-Op Member Card แล้ว สมาชิกสามารถนำบัตรไปกดเงินกับตู้เอทีเอ็มได้ทุกธนาคาร ซึ่งเป็นความปลอดภัยทั้งกับสหกรณ์และสมาชิก สิ่งที่สหกรณ์และสมาชิกที่ได้รับประโยชน์ คือ 1.สหกรณ์ไม่ต้องมีต้นทุนสูงในการที่ทุกสัปดาห์ต้องนั่งรถไปเบิกเงินจากธนาคารมาหลายล้านบาทเพื่อมาจ่ายเงินกู้หรือเงินปันผลให้สมาชิก 2. ไม่ต้องเสี่ยงไปหิ้วเงินสดมาโดยจ้างตำรวจนั่งรถไปด้วย 3. ลดต้นทุนในการทำธุรกรรมทางการเงินของสหกรณ์
“ขอเสนอให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ สนับสนุนการพัฒนาระบบธุรกรรมการเงินในรูปแบบบัตรเงินสด Co-Op Member Card ให้กับสหกรณ์ 3 ประเภทคือ สหกรณ์การเกษตร สหกรณ์ร้านค้าและสหกรณ์บริการอย่างกว้างขวาง โครงการนี้เป็นประโยชน์จริงๆ เพราะสหกรณ์กับสมาชิกต้องมีการทำธุรกรรมซึ่งกันและกัน ซึ่งคาดหวังว่าในอนาคตขบวนการสหกรณ์จะร่วมกันพัฒนาระบบศูนย์กลางทางการเงิน เชื่อมโยงกันเหมือนในต่างประเทศที่มีการพัฒนาระบบการเงินและการบริการทางอิเล็กทรอนิกส์ เช่น เกาหลี ญี่ปุ่น ซึ่งมีชุมนุมสหกรณ์ของประเทศนั้นทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางทางการเงิน ซึ่งจะทำให้เงินทุกบาทหมุนเวียนอยู่ในระบบสหกรณ์” ผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์กรมศุลกากร จำกัด กล่าว
นายกฤษณา สร้อยแสง ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรรัตนบุรี จำกัด จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสหกรณ์ที่ร่วมโครงการกล่าวว่า ขณะนี้มีสมาชิกที่ทำบัตรเงินสด Co-Op Member Card มีจำนวน 2,000 คน ซึ่งสหกรณ์ได้เริ่มทำตั้งแต่ ปี 58 แต่ช่วงเริ่มต้นเมื่อ 3 ปีก่อน อาจจะมีสมาชิกสนใจเข้าร่วมไม่มากนัก แต่เมื่อกรมส่งเสริมสหกรณ์เข้ามาร่วมกับทางกรุงไทยทำโครงการนี้ขึ้น และมีการประชุมเพื่อนำเสนอรายละเอียดและประโยชน์ต่างๆ ทำให้สหกรณ์มีความสนใจที่จะเข้าร่วมโครงการนี้อย่างจริงจัง โดยสหกรณ์จะเร่งประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความเข้าใจและชี้ให้เห็นประโยชน์ที่สมาชิกจะได้รับ เพราะว่าอยากให้โครงการนี้ประสบความสำเร็จ ซึ่งสหกรณ์ได้ทำแผนในการส่งเสริมการใช้บัตรเงินสดให้กับสมาชิกว่า สมาชิกที่ทำบัตรกันแล้ว 2,000 ราย จะต้องนำบัตรนี้มาใช้ในการทำธุรกรรมการเงินไม่น้อยกว่า 50% เพราะสหกรณ์ต้องการลดความเสี่ยงในเรื่องของความปลอดภัยในการขนเงินสด เงินขาดประจำวัน เงินเก็บเกินบัญชีและเรื่องการทุจริตเงินของเจ้าหน้าที่ สหกรณ์มองเห็นโอกาสและประโยชน์มากมายจากการใช้บัตรเงินสด Co-Op Member Card นี้ ซึ่งจะต้องทำความเข้าใจเพื่อให้สมาชิกให้ความร่วมมือและสมัครใจทำบัตรเงินสดกับสหกรณ์เพิ่มมากขึ้น
“นอกเหนือจากสหกรณ์ลดความเสี่ยงในการเบิกถอนเงินสดจำนวนมาก มาไว้ที่สหกรณ์แล้ว ประโยชน์ที่จะเกิดกับสมาชิก คือ สมาชิกไม่ต้องเป็นภาระในเรื่องของการพกเงินสดจำนวนมากไว้กับตัว เพื่อนำมาชำระหนี้หรือซื้อสินค้าจากสหกรณ์ เพียงแค่นำบัตรเงินสดเพียงใบเดียวก็สามารถมาชำระหนี้ หรือซื้อปุ๋ย เมล็ดพันธุ์ ยาปราบศัตรูพืช น้ำมันเชื้อเพลิง และชำระค่าสินค้าอุปโภค-บริโภคกับสหกรณ์ได้โดยไม่ต้องจ่ายเงินสด สามารถตรวจสอบยอดซื้อขายผ่าน Online ได้ทันที เหมือนการเป็นสมาชิกที่ใช้บริการกับห้างค้าปลีกทั่วไป นอกจากนี้ รายได้จากการที่สมาชิกนำข้าวเปลือกมาขายให้สหกรณ์ สหกรณ์ก็จะชำระค่าผลผลิตโดยการเติมเงินใส่ไว้ในบัตรให้เขา และเขาก็นำไปกดเงินสดออกจากบัตรได้ตามปกติ ประโยชน์ของสหกรณ์อีกประการหนึ่ง คือ ไม่ต้องจ้างตำรวจมาเฝ้าและไปขนเงินที่เบิกจากธนาคารมาให้ ไม่ต้องใช้เจ้าหน้าที่มานั่งนับเงินสด ซึ่งทำให้เสียเวลาและจำนวนบุคลากร สามารถไปปฏิบัติงานด้านอื่นที่สำคัญได้อีกหลากหลาย โดยเฉพาะในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ เกษตรกรจะนำข้าวเปลือกมาขายที่สหกรณ์จำนวนมาก แต่เราไม่ต้องไปเบิกเงินสดมาเก็บไว้ เพราะใช้วิธีโอนเงินค่าข้าวผ่านทางบัตรเงินสดให้กับสมาชิกแต่ละราย เจ้าหน้าที่สหกรณ์เพียงแค่มาเช็คเงินว่าเข้าระบบหรือยัง ทำให้มีความสะดวกรวดเร็วและไม่ต้องเป็นภาระในการเก็บเงินสดจำนวนมากไว้ที่สหกรณ์ ซึ่งโครงการนี้ นับว่ามีประโยชน์เยอะมากถ้ามองดีๆ” ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรรัตนบุรี จำกัด กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี