เลขาธิการศอ.บต.แจงกรณีการจัดซื้อ"เครื่องกรองน้ำพลังงานแสงอาทิตย์" ยันราคาไม่ได้สูงเกินจริง ระบุศอ.บต.มีความโปร่งใสลำดับที่19ของประเทศ จากกว่า300หน่วยงาน
29 มี.ค.61 จากกรณีที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในโลกสังคมออนไลน์ ถึงการติดตั้งตู้กรองน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ ของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ให้กับประชาชนในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ สตูล สงขลา ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส กว่า 90 ตู้ ใช้งบประมาณกว่า 50 ล้านบาท ว่าราคาสูงเกินความจริงหรือไม่ และคุ้มค่ากับการติดตั้งให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่หรือไม่ ตามข่าวที่มีการนำเสนอตามสื่อสังคมออนไลน์นั้น
ความคืบหน้าล่าสุด นายศุภณัฐ สิรันทวิเนติ เลขาธิการ ศอ.บต.ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีดังกล่าว ว่า ศอ.บต.ได้มีการแบ่งงานให้รองเลขาธิการ ศอ.บต.รับผิดชอบพื้นที่เป็นจังหวัดๆ ไป และเนื่องจากว่าในการลงพื้นที่ของรองเลขาธิการฯ ที่รับผิดชอบพื้นที่ จ.สตูล และ จ.สงขลา ก็ได้รับการเรียกร้องจากชาวบ้านที่ จ.สตูล ว่าทาง ศอ.บต.ไม่ได้ดูแลเลย เขาใช้คำว่า "ให้เกิดเหตุการณ์ก่อนหรือถึงจะมาดูแลกัน" ซึ่งความต้องการของชาวบ้านก็ได้บอกผ่านรองเลขาธิการฯ มาว่าอยากได้เครื่องกรองน้ำสะอาดที่สามารถใช้ดื่มได้ เพราะพื้นที่ จ.สตูล น้ำไม่ค่อยดี จึงเป็นที่ไปที่มาของการจัดงบประมาณจัดซื้อไป และเมื่อมีการจัดซื้อให้ จ.สตูล พี่น้องทาง จ.สงขลา ก็มีความน้อยใจ ส่วนพื้นที่ 3 จังหวัด และ 4 อำเภอนั้น ก็เป็นงานพัฒนาหลักของ ศอ.บต.ที่ทำงานพัฒนาเสริมงานความมั่นคงของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ภาค 4 ส่วนหน้า
"เครื่องกรองน้ำนี้เป็นนวัตกรรมใหม่ของบริษัทที่ได้รับจัดจ้างไป เป็นบริษัทที่ได้รับรางวัล อินโนเวชั่น อวอร์ด เมื่อปี 59 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นรางวัลที่ไม่ธรรมดา เมื่อมีการจัดจ้าง ก็ดำเนินการตามระเบียบ เมื่อมีการติดตั้ง ก็มีคณะกรรมการตรวจสอบ ตรวจรับ เป็นที่เรียบร้อย และเป็นการติดตั้งตามที่ชุมชนต้องการ เช่น บางชุมชนมีการทำประชาคม ว่าจะติดตั้งที่บริเวณใด ทั้ง อบต. , มัสยิด หรือตามแหล่งชุมชน ที่สะดวกต่อชาวบ้านส่วนใหญ่" เลขาธิการ ศอ.บต.กล่าว
ทั้งนี้ สำหรับเครื่องกรองน้ำพลังงานแสงอาทิตย์เครื่องนี้ หากมีปัญหา บริษัทที่รับติดตั้งจะทราบทันที เพราะมีการติดตั้งระบบตรวจสอบ ซึ่งเป็นระบบใหม่ของบริษัทแห่งนี้ และเมื่อทราบว่าเครื่องมีปัญหา ก็จะส่งเจ้าหน้าที่ลงมาดูแลทันที ขณะนี้มีเจ้าหน้าที่ของทางบริษัท ที่คอยดูแลอยู่ในพื้นที่ จำนวน 10 คน แบ่งเป็นจังหวัดละ 2 คน นอกจากนี้ เมื่อหลังจากมีการติดตั้งแล้ว ก็เกรงว่า หากหมดสัญญาประกันจะมีปัญหาในการดูแล เนื่องจากทั้งหมดเป็นระบบคอมพิวเตอร์ คนที่ดูแลจะไม่เข้าใจ จึงได้มีการอบรมเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ที่มีการติดตั้งเครื่องตัวนี้แล้ว 2 ครั้ง ในพื้นที่ จ.ปัตตานี และ จ.สงขลา เป็นการทำความเข้าใจในการใช้และการดูแล
ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าเครื่องไม่มีประสิทธิภาพ เป็นสนิม ที่ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี เมื่อวานนี้ตนเองได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบด้วยตนเอง ก็พบว่าเครื่องดังกล่าวอยู่ใกล้น้ำทะเล และมีฝุ่นค่อนข้างเยอะ เมื่อละอองน้ำทะเลกับฝุ่นไปจับตัวกันที่ตัวเครื่องก็ดูเหมือนเป็นสนิม แต่เมื่อนำผ้าชุบน้ำไปเช็ด ก็สะอาดเป็นสแตนเลสธรรมดา ไม่ได้เป็นสนิมแต่อย่างใด เครื่องกรองน้ำนี้ ยืนยันว่าเป็นความต้องการของชาวบ้านจริงๆ ชาวบ้านในพื้นที่บอกว่าที่ผ่านมาต้องซื้อน้ำขวดมาใช้ดื่ม ก็จะมีกลิ่นพลาสติก แต่น้ำจากเครื่องกรองตัวนี้เป็นน้ำไม่มีกลิ่นและอร่อย เพราะมีระบบโอโซนในเครื่องด้วย ทั้งนี้ ตนเองยืนยันว่า เครื่องกรองน้ำทั้งหมดที่ติดตั้งไป ยังสามารถใช้ได้ทุกเครื่อง และเป็นความต้องการของชาวบ้านในพื้นที่ ที่ชาวบ้านสามารถยืนยันได้
"ศอ.บต.เป็นหน่วยงานที่โปร่งใส ทุกคนสามารถตรวจสอบได้ ที่ผ่านมาความโปร่งใสของ ศอ.บต.มีการตรวจสอบแล้วอยู่ในอันดับที่ 19 ของประเทศ จากหน่วยงานกว่า 300 หน่วยงาน สิ่งนี้ยืนยันได้ เพราะมีกรรมการมาตรวจสอบ ทั้งทางลับ และทางเปิดเผย สำหรับราคาเครื่องกรองน้ำนั้น ราคาจริงๆ ตามท้องตลาดในมาตรฐานเดียวกัน สูงกว่าที่ทาง ศอ.บต.จัดซื้อ โดยทางบริษัทเขาอยากช่วยเหลือพี่น้องภาคใต้ บริษัทยืนยันมาว่า ราคาขายจริงๆ 7 ถึง 8 แสนบาท หรือเป็นล้านต่อเครื่องก็มี" เลขาธิการ ศอ.บต.กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี