"บิ๊กฉัตร" ยันตั้งกรรมการสอบปลัด-รองปลัด พม.ไม่ใช่คำสั่งพิเศษลงดาบ ขรก.เชือดไก่ให้ลิงดู เผยกำลังรอข้อมูลจาก รมว.พม.ส่งเรื่องให้ทราบจันทร์หน้าก่อนเชื่อมโยงถึงใครบ้าง ด้าน"หมอธี"เผยอังคารหน้ารู้ผลความคืบหน้าทุจริตโกงใน ศธ.พร้อมส่งเลขา กกอ.ช่วยสอบวินัยร้านแรงปลัด-รองปลัดฯ ป.ป.ช.แย้มผลสอบโกงเงินชาวเขาพบเกิดในยุค "พุฒิพัฒน์" นั่งอธิบดี พส.
วันนี้ (30 มี.ค.) ที่ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีทุจริตงบประมาณเงินอุดหนุนประเภทเงินสงเคราะห์ครอบครัวผู้มีรายได้น้อยและผู้ไร้ที่พึ่งของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งว่า พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) จะสรุปและรวบรวมข้อมูลส่งเป็นเอกสารให้ตนทราบในวันจันทร์ที่ 2 เมษายนนี้ เบื้องต้นทราบจากการรายงานเมื่อวันที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมาว่าจะตั้งกรรมการสอบวินัยนายพุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์ ปลัด พม.และนายณรงค์ คงคำ รองปลัด พม. เนื่องจากการสอบในเบื้องต้นพบว่ามีมูล จึงต้องทำอย่างต่อเนื่อง
คาด2เมษายนรู้ผลโกงคนจนโยงถึงใคร
ส่วนการตรวจสอบเป็นไปตามกรอบที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่กำหนดไว้ว่าต้องแล้วเสร็จภายใน 30 วันหรือไม่นั้น พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวว่า เป็นไปตามนั้น ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 31 มีนาคมนี้ ส่วนคณะกรรมการที่จะสอบสวนต้องเป็นบุคคลที่มีระดับสูงกว่าบุคคลที่ถูกตรวจสอบหรือไม่ ปกติก็ปฏิบัติเช่นนั้นอยู่แล้ว คือ บุคคลที่ตรวจสอบต้องมีระดับที่สูงกว่าอาจจะมีจากสำนักนายกรัฐมนตรีและหน่วยงานอื่นเข้าไปร่วมดำเนินการ
"แต่ตอนนี้ยังไม่เห็นรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการสอบสวน ต้องรอรายงานที่เป็นลายลักษณ์อักษรจาก รมว.พม.คาดว่าในวันจันทร์ที่ 2 เมษายนนี้จะเห็นรายละเอียดดังกล่าวที่มีการเชื่อมโยงไปถึงบุคคลต่างๆ"
"บิ๊กฉัตร"ยันไม่ใช่การเชือดไก่ให้ลิงดู
ส่วนจะมีการออกคำสั่งอะไรเป็นพิเศษเพื่อดำเนินการกับข้าราชการที่เกี่ยวข้องหรือไม่นั้น พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวว่าเรื่องนี้่ก็คงไม่ต้องเพราะมีระเบียบปฏิบัติอยู่แล้ว โดยการดำเนินการกับบุคคลที่เกี่ยวข้องจะพิจารณาเป็นรอบๆ ไป ผ่านกระบวนการตรวจสอบในแต่ละขั้น ต้องตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบต่อไป ทั้งนี้ คิดว่าจะมีการตรวจสอบบุคคลที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมเป็นระยะ
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าอาจมีผู้อำนวยการโรงเรียนอีกหลายแห่งเข้าไปเกี่ยวข้องนั้น พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวว่า ต้องรอให้ รมว.พม.รายงานมาและการดำเนินการตรวจสอบไม่ใช่การเชือดไก่ให้ลิงดู แต่เป็นไปตามขั้นตอน เมื่อพบว่ามีมูลก็ต้องตรวจสอบหาผู้กระทำผิด อย่างไรก็ตาม ตนยังไม่ได้รายงานเรื่องนี้ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ รับทราบ เนื่องจากควรจะให้ครบกำหนดเวลาการตรวจสอบและมีการรายงานจาก รมว.พม.ก่อน จากนั้นจะรายงานให้นายกรัฐมนตรีรับทราบต่อไป
ก่อนสงกรานต์รู้ผลสอบกองทุนเสมาฯ
นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธฺ) กล่าวถึงความคืบหน้าของการตรวจสอบการทุจริตกองทุนเสมาพัฒนาชีวิตว่า การตรวจสอบเรื่องนี้ไม่ได้เงียบหาย เพราะคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ที่มีนายอรรถพล ตรึกตรอง ผู้ตรวจราชการ ศธ.เป็นประธานสืบฯกำลังดำเนินการตรวจสอบอยู่ คาดว่าจะสรุปผลได้ก่อนช่วงสงกรานต์นี้
ส่วนที่ พล.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี ให้ความเห็นว่าการตรวจสอบเรื่องนี้อาจจะไม่จบง่ายนั้นตรงนี้ก็เหมือนกับที่ตนมองว่าถ้าสอบไปถึงใครก็ต้องตรวจสอบต่อ เพราะฉะนั้นคำว่าไม่จบง่ายๆ ของทุกคนก็อยู่ที่ว่าข้อมูลหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงใครหรือเปล่า คำว่าจบง่ายหรือไม่จบง่าย ถ้าเชื่อมโยงถึงใครก็ต้องดูหลักฐาน และจะจบเมื่อเรื่องนี้สาวไม่ถึงจริงๆ หรือไม่มีความเชื่อมโยง
อังคารหน้าแถลงคืบหน้าทุจริตในศธ.
"วันอังคารที่ 3 เม.ย.นี้ผมและ พล.ท.โกศล ประทุมชาติ ที่ปรึกษา รมว.ศึกษาธิการจะแถลงความคืบหน้าการดำเนินการตรวจสอบทุจริตโครงการต่างๆ ของ ศธ. เช่น เรื่องการสืบสวนข้อเท็จจริงการใช้ระบบ MOEnet ซึ่งหลังจากที่ตั้งคณะกรรมการสืบสวนมาแล้วก็มีมาตรการการปราบปรามและป้องปรามการทุจริตในระบบราชการของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่กำหนดให้ต้องสรุปผลการตรวจสอบเบื้องต้นภายใน 7 วัน ด้งนั้น ผมจึงจะแถลงความคืบหน้าทุกเรื่องที่ตรวจสอบ" นพ.ธีระเกียรติ กล่าว
ส่งเลขากกอ.ร่วมสอบวินัย2ปลัดพม.
นพ.ธีระเกียรติ กล่าวต่อว่า ตามที่ พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้ประสารตนมาเพื่อขอให้ราชการระดับ 11 ของกระทรวงศึกษาธิการ ไปช่วยเป็นประธานสอบวินัยร้ายแรง ปลัดและรองปลัด พม.กรณีเกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินผู้ยากไร้ นั้น ตนก็ได้มอบให้นายสุภัทร จำปาทอง เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (เลขาธิการ กกอ.) ไปเป็นประธานสอบฯแล้ว
ปปช.รอรับลูกพม.เชือด2ปลัดโกงคนจน
ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการ ป.ป.ช.ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีไต่สวนการทุจริตเงินสงเคราะห์พัฒนาชาวเขาของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ที่ตั้งไต่สวนไปก่อนหน้านี้แล้วว่า เรื่องดังกล่าวทาง ป.ป.ช.กำลังดำเนินการสอบอยู่แล้ว
นายวรวิทย์ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงพบว่ามีปลัด พม.และรองปลัด พม.มีส่วนเกี่ยวข้องการทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยและคนไร้ที่พึ่งนั้นเรื่องดังกล่าวยังไม่ได่ถูกส่งมาถึง ป.ป.ช.แต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ป.ป.ช.ได้ตั้งคณะทำงานแสวงหาข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าวแล้ว เนื่องจากเป็นประเด็นที่สังคมให้ความสนใจ ส่วนการทุจริตเงินสงเคราะห์พัฒนาชาวเขาจะเกี่ยวโยงมาถึงการทุจริตเงินสงเคาระห์ผู้ยากไร้หรือไม่นั้น ยังไม่ทราบเพราะขณะนี้อยู่ระหว่างการไต่สวน
พบโกงเงินชาวเขาอุทัยอยู่ในยุค"พุฒิพัฒน์"
รายงานจากสำนักงาน ป.ป.ช.เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีเงินสงเคราะห์พัฒนาชาวเขาจังหวัดอุทัยธานี ได้เคยสรุปเรื่องเสนอเข้าที่ประชุมต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาไปแล้วรอบหนึ่ง แต่คณะกรรมการเห็นว่าหลักฐานยังไม่สมบูรณ์จึงได้ให้หาข้อเท็จจริงเพิ่มเติม ในประเด็นเส้นทางการเงินของผู้ถูกกล่าวหาโดยละเอียด รวมถึงให้หาความเชื่อมโยงกับบุคลลที่อาจเกี่ยวข้องการทุจริต ซึ่งคาดว่าจะสรุปสำนวนนี้ส่งให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่ในเร็วๆ นี้
นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่าผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้อำนวยการของศูนย์พัฒนาพื้นที่ราบสูงจังหวัดอุทัยธานี โดยทุจริตเงินชาวเขาด้วยการนำงประมาณปี 2558 จำนวน 3 ล้านบาทไปจ่ายให้กับชาวเขาเพียง 1 ล้านบาทอีก 2 ล้านบาทโอนเข้าบัญชีตัวเอง ซึ่งการกระทำผิดครั้งนี้ อยู่ในช่วงที่นายพุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) โดยขณะนี้ ป.ป.ช.อยู่ระหว่างการตรวจสอบเส้นทางการเงิน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี