3 เม.ย.61 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายดำรง ชูเชิด อายุ 55 ปี ว่าถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ เข้าตัดต้นพยุงในบริเวณบ้าน เกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรมขอให้ไปตรวจสอบ หลังรับแจ้ง จึงประสานไปยัง ว่าที่ร้อยโทฉัฐวัฒน์ เฉลิมฤทธิวัฒน์ กำนันตำบลชุมแสง ให้รายงานนายภิรมย์ ชุมนุม นายอำเภอจันทร์ รับทราบและไปยังที่เกิดเหตุ บริเวณบ้านเลขที่ 24/1 หมู่ที่ 1 ตำบลชุมแสง อำเภอวังจันทร์ จังหวัดระยอง เป็นพื้นที่ปลูกสวนยางพารา กว่า 2 ไร่ ที่แนวเขตรั้วพบต้นไม้พะยุงขนาดใหญ่ เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 เมตร ลำต้นยาวประมาณ 10 เมตร อายุกว่า 50 ปี ถูกตัดเหลือแต่ตอไม้ ส่วนลำต้นยังอยู่ล้มอยู่ โดยมิได้ทำการขนย้าย ใกล้กันยังพบถังน้ำมันขนาด 6 ลิตร 3 ถัง แต่ไม่พบเลื่อยยนต์
นายดำรง ชูเชิด เจ้าของสวน เล่าว่า เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 1 เมษายน ที่ผ่านมา ตนได้อยู่ที่บ้านพักโดยในขณะนั้นนั่งชมถ่ายทอดสดมวยอยู่ในบ้าน แต่ก็ต้องตกใจเมื่อได้ยินเสียงต้นไม้โค่นล้มดังสนั่นจากทางท้ายสวน จึงรีบออกจากบ้านไปดูก็พบว่า ต้นไม้พะยุงที่อยู่ท้ายสวน ในบริเวณบ้านของตัวเอง ถูกชายฉกรรจ์ประมาณ 5 คน ใช้เลื่อยยนต์ เลื่อยต้นไม้ออกจากกัน ตนจึงถามไปว่า “มีสิทธิ์อะไรมาตัดต้นไม้ในที่ดินของตน”กลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวตอบว่า “ตนเองได้รับอนุญาตในการตัดต้นไม้พะยุงต้นนี้มาแล้ว และต้นไม้ต้นนี้อยู่ในสวนของเขาเอง” แถมยังขู่อีกว่า “อย่ามายุ่ง ต้นไม้ต้นนี้เป็นของเขา”ตนจึงแจ้งไปยังพี่น้องที่อยู่ละแวกบ้านใกล้เคียงให้มารับรู้เป็นพยาน พร้อมนำเรื่องเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน แต่ก็เกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงขอให้สื่อมวลชนเข้าตรวจสอบ
ด้านนางรำเพย ชูเชิด อายุ 78 ปี หรือยายเล็ก เล่าทั้งน้ำตาว่า ต้นไม้ต้นนี้ขึ้นอยู่ที่ท้ายสวน อายุประมาณ 50 ปีแล้ว เห็นกันมาตั้งแต่สมัยเป็นสาว เดี๋ยวนี้มีลูกๆ หลานๆ ก็ยังมาวิ่งเล่นบริเวณต้นไม้นี้ คอยตัดแต่งกิ่งดูแลเป็นอย่างดี มีความผูกพัน เหมือนต้นไม้มีชีวิต เมื่อมาถูกตัดโค่นก็ใจหาย เสียใจเหมือนญาติผู้ใหญ่ที่เราเคยกราบไหว้ ต้องมาจากไป
ล่าสุด ร้อยโทฉัฐวัฒน์ เฉลิมฤทธิวัฒน์ กำนันตำบลชุมแสง ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง ทราบว่า กลุ่มคนที่มาตัดต้นพยุง ได้รับการอนุญาตจากส่วนราชการเป็นที่ถูกต้องเรียบร้อย แต่เนื่องด้วยต้นไม้ที่ถูกตัดไปนั้น ทางนายดำรง ชูเชิด ยืนยันว่าต้นไม้อยู่ในที่ดินของตนเอง ซึ่งในกรณีการอ้างสิทธิ์นี้ ต้องทำการตรวจสอบโดยการรังวัดจากเจ้าหน้าที่ที่ดิน จึงจะทราบแน่ชัดว่า ใครเป็นเจ้าของต้นพยุง
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการเรียกตัวผู้ที่ตัดต้นไม้ที่อ้างสิทธิ์ว่ามีใบอนุญาต มาทำการสอบสวนพร้อมอายัดต้นไม้ไว้เพื่อเป็นหลักฐานและรอการพิสูจน์ตรวจสอบต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี