กอ.รมน.ผนึกกำลัง ป.ป.ท.ลุยกวาดล้างทุจริตหลังพบผุดเป็นดอกเห็ด "เลขาฯป.ป.ท."ยันทำงานร่วมกันไม่ใช่ซูเอี๋ย เผยที่ผ่านมาร้องเรียน 14,000 เรื่องเกี่ยวกับทหารกว่า 500 เรื่องที่ทำความผิด ยันเร่งเดินหน้าตรวจสอบโกงกองทุนเสมาฯ ทุจริตเงินคนจนให้จบภายใน 6 เดือน ขู่โยงใครฟันไม่เว้น "บิ๊กตู่"ชมผู้ให้ข้อมูลโกงเงินคนไร้ที่พึ่ง ระบุถ้ามีพยานหลักฐานลงโทษได้เร็ว
วันนี้ (4 เม.ย.61) ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการ กอ.รมน.เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามการแสดงเจตจำนงร่วม เรื่องการพัฒนาความร่วมมือในการปฏิบัติการราชการด้านการร้องทุกข์ร้องเรียนในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ระหว่าง สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ป.ป.ท.) กับสํานักจเร กอ.รมน.โดยมี พล.อ.บุญชู เกิดโชค จเร กอ.รมน.และ พ.ท.กรทิพย์ ดาโรจน์ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท.ร่วมลงนาม
พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีนโยบายให้ความสำคัญเร่งด่วนกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ซึ่งจะสังเกตได้จากนโยบายของหัวหน้า คสช.ที่ได้ประกาศมา และนโยบายของรัฐบาลที่ได้แถลงต่อสภา ว่าการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบเป็นวาระแห่งชาติ และเป็นวาระยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี โดยล่าสุดได้สั่งการในที่ประชุม ครม.ถึงการลงโทษอย่างจริงจังและรวดเร็วต่อข้าราชการที่ทุจริตและประพฤติมิชอบ
ทั้งนี้ ป.ป.ท.ถือเป็นหน่วยงานหลักของรัฐบาลที่มีความเชี่ยวชาญในการตรวจสอบการทุจริตในภาครัฐ ขอชื่นชมในขีดความสามารถ คุณธรรม ซื่อสัตย์และเสียสละของข้าราชการ ป.ป.ท.เป็นอย่างยิ่ง
กอ.รมน.ลั่นผนึกปปท.ลุยล้างทุจริต
ด้าน พล.อ.บุญชู กล่าวว่า ในเจตนารมณ์ของ กอ.รมน.โดยเลขาธิการ กอ.รมน.กล่าวไว้ชัดเจนว่าความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นความมั่นคงและประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศ ซึ่งสำนักงานจเรของ กอ.รมน.ถือเป็นวิสัยทัศน์ของเลขาธิการ กอ.รมน.ที่มุ่งหวังให้การทำงานของ กอ.รมน.เป็นที่พึ่งพิงให้กับประชาชนได้ ซึ่งหน่วยของเรามีหน้าที่ที่สำคัญที่จะทำให้การทำงานของ กอ.รมน.สามารถตรวจสอบได้ มีความโปร่งใสในการทำงานมากยิ่งขึ้น
พล.อ.บุญชู กล่าวอีกว่า ในขณะที่เริ่มปฏิบัติงานสำนักงานจเร กอ.รมน.มองเห็นว่าหน่วยงานของ ป.ป.ท.เป็นหน่วยงานหนึ่งที่มีความสามารถและมีความตั้งใจ มีความคล้ายคลึงกัน และสร้างพันธมิตรร่วมกัน จนมาถึงทุกวันนี้การประกาศเจตนารมณ์ของ 2 หน่วยงานในการทำงานในอนาคตเพื่อให้ช่องว่างการทำงานลดลงโอกาสที่จะทำให้เกิดข้อผิดพลาดในการบริหารงานลดน้อยลง โดยอยู่ในกรอบในการอำนาจหน้าที่ของแต่ละหน่วย
"กอ.รมน.จะเสริมในสิ่งที่ ป.ป.ท.ขาดแคลน เรามีกำลังที่อยู่ในภาคในจังหวัดครอบคลุมทั่วประเทศที่จะทำงานร่วมกับ ป.ป.ท.ได้อย่างมีประสิทธิภาพได้ในอนาคต อย่างไรก็ตาม การร่วมมือในวันนี้จะจุดประกายความร่วมมือและการมีส่วนร่วมของพวกเราทุกคนและมวลชนของ กอ.รมน.ที่จะเป็นหูเป็นตา หวังเป็นอย่างยิ่งว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะก่อให้เกิดความเจริญและการพัฒนาประเทศ" พล.อ.บุญชู กล่าว
ปปท.แฉรับเรื่องทหารทุจริตกว่า500
ส่วน พ.ท.กรทิพย์ กล่าวว่า สำนักงาน ป.ป.ท.กับ กอ.รมน.ได้ร่วมมือการร่วมงานก่อนหน้าที่จะเซ็น MOU ฉบับนี้ ได้ร่วมกันปฏิบัติภารกิจในการต่อต้านการทุจริต ทั้ง 2 หน่วยงานมีบทบาทคล้ายคลึงกันและตรวจสอบและมีผู้บังคับบัญชาคนเดียวกัน คือ นายกรัฐมนตรี และมีเป้าหมายอันเดียวกันคือความมั่นคงมั่งคั่งยั่งยืนของประเทศชาติทั้ง 3 ประการก่อให้เกิดความร่วมมือได้ง่ายขึ้น เป็นพันธมิตรร่วมรบในการต่อต้านการทุจริต ซึ่งเราคงไม่มีบทบาทแค่ตรวจสอบการทุจริตหรือการดำเนินการแต่เราจะมีบทบาทร่วมกันในการจัดสรรสร้างความมั่นคงมั่งคั่งยั่งยืนของประเทศชาติต่อไป
"หากพบการทุจริตที่เกี่ยวกับทหาร ป.ป.ท.จะดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ โดยไต่สวนชี้มูล นอกเหนือจากนั้นจะส่งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ยืนยันว่าเป็นการทำงานร่วมกันไม่ใช่ ซูเอี๋ย เพราะ ป.ป.ท.จะละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ แม้แต่มีการทุจริตใน กอ.รมน.ก็ไม่ละเว้น ไม่เช่นนั้นจะโดนมาตรา 157 ซึ่งที่ผ่านมาได้รับการร้องเรียนจำนวน 14,000 เรื่อง เกี่ยวกับทหารกว่า 500 เรื่องที่ทำความผิด ยอมรับว่ารู้สึกอุ่นใจมีเงาทหารเป็นเสืออยู่ข้างหลัง ปราบโกง ปลอดภัย" พ.ท.กรทิพย์ กล่าว
ปปท.ลั่นเร่งปราบโกงให้เสร็จใน6เดือน
พ.ท.กรทิพย์ ยังเปิดเผยถึงการตรวจสอบคดีทุจริตเงินกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต กระทรวงศึกาธิการ (ศธ.) และการทุจริตเงินสงเคราะห์คนไร้ที่พึ่ง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ว่า ป.ป.ท.จเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน ยืนยันว่าทุกคดีที่เข้ามา ป.ป.ท.กำลังไต่สวนอยู่
"บิ๊กตู่"ชี้ถ้ามีหลักฐานโกงลงโทษได้เร็ว
วันเดียวกันที่ศาลากลางจังหวัดปัตตานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวตอนหนึ่งถึงปัญหาการทุจริตที่พบมีการเกิดขึ้นมากมายในหลายกระทรวง ภายหลังการประชุมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมพื้นที่ชายแดนภาคใต้ว่า ขอชมเชยเรื่องที่มีการแจ้งมาอย่างการทุจริตเงินอุดหนุนคนไร้ที่พึ่ง ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เรามีการตรวจสอบอยู่แล้วถ้ามีพยานหลักฐานมามันก็เร็วในการนำไปสู่กระบวนการลงโทษทางวินัยและอาญาได้ และวันนี้รัฐบาลได้ออกมาตรการป้องกันทุจริตเพิ่มมาอีก
อย่างไรก็ตาม การทำโครงการต่างๆ ในภาคใต้ ถือเป็นพื้นที่ที่มีเรื่องความั่นคง ตนจึงเตือนข้าราชการทุกคนทุกภาคส่วน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ต้องทำให้เกิดความโปร่งใสไม่เช่นนั้นจะมีผลกระทบกับการทำงานของรัฐบาลและกระทบการแก้ปัญหาด้านความมั่นคงไปด้วย
เมื่อถามว่ากองทัพภาคที่ 4 เข้าไปตรวจสอบโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามในพื้นที่ จ.ปัตตานี ซึ่งตรวจพบหลักฐานการทุจริตงบประมาณในการอุดหนุนการศึกษาของรัฐ นายกฯ กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการเขาดูอยู่แล้ว บัญชีอยู่ที่กระทรวงศึกษาธิการ เจ้าหน้าที่ศึกษาเขตเขามีเงินเท่าไหร่ ซึ่งในส่วนกองทัพภาคที่ 4 จะทำหน้าที่รักษาความปลอดภัย ทหารมีหน้าที่ทำให้คนที่เขา เข้าไปทำงานมีความปลอดภัยในพื้นที่ ตัวเองจะไปรู้ทุกเรื่องได้อย่างไร อย่าขัดแย้งกันแล้วกันพอแล้ว
"หมอธี"สั่งย้าย"ผอ.สช.ปัตตานี"แล้ว
นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยถึงกรณีที่ พล.ท.ปิยะวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 เข้าตรวจค้นโรงเรียนเอกชนใน จ.ปัตตานี พบหลักฐานน่าเชื่อได้ว่าโรงเรียนบางแห่งมีพฤติกรรมทุจริตงบประมาณอุดหนุนโรงเรียนใน จ.ปัตตานี มูลค่าความเสียหายปีละไม่น้อยกว่า 700 ล้านบาท ทำให้เยาวชนเสียโอกาสทางการศึกษา หรือเสียประโยชน์อันพึงได้ ประมาณปีละ 101,000 คน จากนักเรียนทั้งหมด 165,072 คน มีครูที่ได้รับสนับสนุนงบประมาณจากรัฐเป็นค่าตอบแทนรายเดือน เสียประโยชน์อันพึงได้ประมาณ 4,000 คนว่า พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้รายงานให้ตนรับทราบแล้ว
โดยตนได้มอบหมายให้นายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ปลัด ศธ.) ในฐานะผู้บังคับบัญชา ทำตามมาตรการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในระบบราชการของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ด้วยการย้ายผู้ที่เกี่ยวข้องออกนอกพื้นที่ไว้ก่อนแล้ว ทราบว่ามีการย้ายผู้อำนวยการสำนักงานการศึกษาเอกชนจังหวัดปัตตานี (ผอ.สช.ปัตตานี) และสำนักงานการศึกษาเอกชนอำเภอแล้ว จากนั้นให้เริ่มกระบวนการสืบสวนต่อไป ยุคนี้ไม่ต้องห่วงรวจเร็วหากพบว่ามีการทุจริตจัดการทันที
ตั้งชุดไต่สวนเชือดซ้ำอดีตผอ.สามเสน
นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน นายวิโรฒ สำรวล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนสามเสนวิทยาลัย กับพวกรวม 5 คน กรณีมีพฤติการณ์เข้าไปเกี่ยวข้องกับการทุจริตรับเงินเพื่อแลกกับการรับเด็กเข้าเรียนชั้น ม.1 การรับเงินบริจาคจากผู้ปกครอง โดยไม่มีการออกใบเสร็จรับเงิน และมีการสั่งการให้มีการออกใบเสร็จรับเงินย้อนหลัง ซึ่งจากการดำเนินการแสวงหาข้อเท็จจริง พบพยานหลักฐานที่มีมูลความผิดทางอาญาในกรณีดังกล่าว จึงตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนเพื่อดำเนินการตรวจสอบ โดยมี นายวิทยา อาคมพิทักษ์ กรรมการ ป.ป.ช.เป็นประธานอนุกรรมการ
สำหรับในปีการศึกษา 2561 นี้ เพื่อเป็นการป้องปรามการรับ-จ่ายเงินแป๊ะเจี๊ยะหรือเงินบริจาค เพื่อแลกกับการรับเด็กเข้าเรียน ป.ป.ช.จึงร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่สุ่มตรวจการรับนักเรียนของสถานศึกษาทั่วประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานศึกษาที่มีการแข่งขันสูง รวมทั้งเร่งรัดการจัดทำมาตรการป้องกันการทุจริตในเรื่องนี้ อย่างเป็นรูปธรรมต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี