เปิดจม.อ้างชื่อ‘รจนา’โผล่ศธ. แฉยับ‘12โปรเจ็คโกง’ยังลงโทษใครไม่ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงบ่ายวันนี้(5 เม.ย.61) มีผู้ขับรถจักรยานยนต์รับจ้างนำซองเอกสารสีน้ำตาลจ่าหน้าซองถึงห้องสื่อมวลชนกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) ซึ่งภายในซองอ้างว่าเป็นจดหมายเปิดผนึกที่เขียนโดย นางรจนา สินที อดีตนักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการพิเศษ ระดับ 8 ซึ่งเกี่ยวโยงกับกรณีทุจริตเงินกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต นำมาส่งที่ห้องสื่อมวลชน ศธ.
ทั้งนี้ จดหมายเปิดผนึกดังกล่าว มีใจความระบุว่า “กราบเรียน พล.อ.ประยุทธ์ จันร์โอชา นายกรัฐมนตรี ดิฉันนางรจนา สินที อดีตข้าราชการสำนักงานปลัด ศธ.ระดับชำนาญการพิเศษ ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบ “กองทุนเสมาพัฒนาชีวิต” ที่กำลังโด่งดังขณะนี้ เพราะถูกพิจารณาโทษทางวินัยร้ายแรงโดยถูก “ไล่ออกจากราชการ” แล้วนั้น
การเขียนจดหมายเปิดผนึกครั้งนี้ ดิฉันจะไม่เรียกร้องความเห็นใจใดๆ เพราะถือว่ายอมรับทุกประการกับผลกรรมที่ได้กระทำลงไปที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อราชการ แต่มีประเด็นที่จะกราบเรียนท่านนายกรัฐมนตรี เพื่อจะเป็นบทเรียนสังคมต่อไป ดังนี้ 1.ประเด็นเพื่อพิจารณา คือ การพิจารณาโทษทางวินัยของดิฉันที่กระทรวงศึกษาธิการได้ดำเนินการอย่างเร่งรีบ รวบรัด การตั้งคณะกรรมการไม่ได้แจ้งคำสั่งเป็นเอกสาร มิได้ให้เวลาดิฉันชี้แจงแม้แต่จำนวนเงินที่เสียหายก็ยังไม่มีข้อยุติ โดยใช้เวลาไม่ถึงเดือน (28 ก.พ.-26 มี.ค.2561) เพื่อลงโทษทางวินัย
ทั้งนี้การพิจารณาโทษทางวินัยร้ายแรง ดังกรณีนี้หากนายกรัฐมนตรีเห็นว่าเกิดประโยชน์ต่อทางราชการและกระทำโทษโดยถูกต้องชอบธรรมแล้ว ขอได้โปรดสั่งการกำชับ เร่งรัดให้ทุกหน่วยงานดำเนินการ “ทางวินัย” แก่ข้าราชการที่กระทำความผิดทุกระดับอย่างเท่าเทียม เพื่อเป็นบรรทัดฐาน ดังเช่นที่ดำเนินการกับดิฉันจักได้ไม่เป็นที่ครหาสืบไป พร้อมขอเป็นกำลังใจให้นายกฯในการต่อสู้กับการทุจริตคอรัปชัน โดยเฉพาะกับผลการวิจัยและสำรวจหลายสถาบันชี้ว่า “มีการทุจริตในงบประมาณของประเทศทุกๆปี เฉลี่ยปีละ 5-30% คิดเป็นการสูญเสียกว่าปีละ 3,000-4,000 ล้านบาท และยังมีการรั่วไหลของเงินแผ่นดินอีกจำนวนมาก รัฐบาลนี้หรือทุกรัฐบาลต้องจัดการตรวจสอบแก้ไขต่อความเสียหายอย่างนี้ให้ยุติ “มิใช่” เกิดกระแสไฟไหม้ฟางหรือเพียงการ “จัดงานอีเวนต์” รณรงค์สร้างภาพเท่านั้น
ในจดหมายเปิดผนึก ยังระบุอีกว่า ส่วนประเด็นฝากถึงสังคม ขอความกรุณานายกรัฐมนตรีได้โปรดเร่งรัด จัดการให้ทุกหน่วยงานที่มีปัญหาการทุจริตทุกงาน ทุกโครงการ ไม่ว่ามูลค่าความเสียหายจะเท่าไหร่ จักต้องดำเนินการหาคนผิดมาลงโทษ มารับผิดชอบและขอให้สังคมเฝ้าติดตาม เพราะบางคดีเกิดขึ้นเป็นเวลานานแล้ว แต่เกิดความล่าช้า หาคนผิดไม่ได้และบางคดีอาจลืมหายไป อาทิ
2.1คดีในสำนักงานส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษาหลายคดีความเสียหายหลายพันล้านบาท
2.2 คดีการก่อสร้างสนามฟุตซอลทั่วประเทศความเสียหายหลายร้อยล้านบาท
2.3 โครงการไทยเข้มแข็งของ อาชีวศึกษาเสียหายหลาพันล้านบาท
2.4 ความเสียหายการสร้างอควาเรียม สงขลา เสียหายกว่าพันล้านบาท
2.5ความเสียหายโครงการ MOE NET ศธ. เสียหายกว่า 3,000 ล้านบาทความเสียหาย
2.6 โครงการซีซีทีวีใต้เสียหายกว่า 400 ล้านบาท
2.7 โกงเงินธนาคารกรุงไทยเสียหายเป็นหมื่นล้าน
2.8ผลาญงบพัฒนาเมืองโบราณ (บางแห่ง) เสียหายเป็นพันล้านบาท
2.9 ทุจริตในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (สะสม) เสียหายเป็นหมื่นล้านบาท
2.10 ทุจริตโครงการตำบลละ 5,000,000 บาท เสียหายหลายพันล้านบาทความเสียหาย
2.11 โครงการจำนำข้าวทุกรัฐบาลเสียหายหลายแสนล้าน
2.12 โครงการโกงเงินคนจน ในกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งเกิดขึ้นแทบทุกที่ ซึ่งเป็นข่าวก่อนเรื่องของดิฉันเป็นความเสียหายจำนวนมากและกระทบกับคนด้อยโอกาสมากมายมีข้าราชการเข้าไปเกี่ยวข้องก็ยังหาคนผิดไม่ได้แม้แต่รายเดียว
แม้โครงการที่มีความเสียหายที่ คสช. รัฐบาลนี้ใช้อำนาจโดยผ่านม.44 ในระยะเวลา3-4 ปี มานี้บางโครงการมีมูลค่าความเสียหายมหาศาลผู้กระทำความผิดจำนวนมากแต่หาคนผิดมาลงโทษได้กี่ราย หรือแม้แต่โครงการมาหาโปรเจ็คที่รัฐเสียหายหลักพัน-หมื่น-แสนล้าน หากสามารถเร่งรัดหาคนผิดมาลงโทษได้ภายในไม่กี่ไม่ถึงเดือน
ดังนั้นกรณีของดิฉันจะทำให้สังคมและบ้านเมืองได้รับประโยชน์ คนกระทำผิดจะได้เกรงกลัว ขอท่านนายกโปรดอย่าลืม หากกรณีนี้เป็นเหตุให้เกิดปรากฏการเร่งรัดเอาผิด เพื่อนำผู้กระทำผิดมารับโทษทันได้โดยเร็วและเป็นธรรม ก็ขอภาวนาให้เกิดผลกับทุกคดีทุกหน่วยงานเพื่อเป็นการรักษาผลประโยชน์ของชาติและเป็นบทเรียนสำคัญให้สังคมติดตามต่อไป ดิฉันขอยืนยันว่าจะยินดีรับในผลที่กระทำจะไม่หนีและพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมของแผ่นดินต่อไป
จดหมายฉบับนี้ดิฉันขอฝากกราบขอโทษต่อคุณแม่ซึ่งอายุมากแล้ว ขอโทษญาติพี่น้องคนใกล้ชิดทุกคนที่ดิฉันได้สร้างตราบาปในชีวิตให้กับพวกเขาเหล่านั้น ทั้งๆ ที่พวกเขาไม่เคยรับรู้เรื่องเหล่านี้ด้วยตลอดทั้งผู้บังคับบัญชาและเพื่อนร่วมงานที่ทำให้เสื่อมเสียมาสู่องค์กรซึ่งดิฉันอาจให้เวลากับหน้าที่การงานมากเกินไปจนลืมว่าเวลาของดิฉันนั้นสั้นนัก คำพูดที่สะเทือนใจแต่ทำให้ดิฉันสำนึกได้มากที่สุดคือลูกชายอายุ 30 กว่าปี พูดว่าเกิดเรื่องแม่ติดคุกก็ดีแม่จะได้พักผ่อน เพราะที่ผ่านมาแม่ไม่เคยได้หยุดพัก ทำแต่งาน
ท้ายนี้หากชีวิตที่ผ่านมา 59 ปี ดิฉันได้สร้างปัญหาก่อกรรมทำบาปไว้ก็ขอน้อมรับไว้แต่หากการกระทำของดิฉันประกอบ คุณประโยชน์และความดีเป็นกุศลดิฉันก็ขอน้อมมอบให้แก่ชาติศาสนาและพระมหากษัตริย์ที่ดิฉันยึดมั่นเคารพรักและขอมอบอุทิศให้แม้ชีวิตเพื่อแผ่นดินไทย
ขอแสดงความนับถืออย่างสูง รจนา สินที ลงวันที่ 5 เมษายน 2561
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ นายอรรถพล ตรึกตรอง ในฐานะประธานคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีการทุจริตกองทุนเสมาพัฒนาชีวิตของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้นัดหมาย นางรจนา ซึ่งรับสารภาพว่าเป็นผู้ยักยอกเงินจากกองทุน โอนไปยังบัญชีญาติพี่น้องและพวก 22 บัญชี พร้อมกับข้าราชการรายอื่นๆที่เกี่ยวข้องอีกรวม 10 ราย มาให้ข้อมูลอย่างเป็นทางการครั้งแรก แต่นางรจนา กลับไม่เข้ามาให้ข้อมูลแต่อย่างใด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี