โพลระบุคนกรุงชี้‘หมาแมวจรจัด’อันตรายแพร่‘พิษสุนัขบ้า’ หนุนขึ้นทะเบียน
7 เม.ย.61 ศูนย์สำรวจความคิดเห็นบ้านสมเด็จโพลล์ สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ได้ดำเนินโครงการสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาสุนัข-แมวจรจัด โดยเก็บกลุ่มตัวอย่างจากประชาชนที่อาศัยอยู่ในจังหวัดกรุงเทพมหานคร จำนวนทั้งสิ้น 1,210 กลุ่มตัวอย่าง เก็บข้อมูลในวันที่ 27-30 มีนาคม 2561 ซึ่งกลุ่มตัวอย่างในการสำรวจครั้งนี้ใช้เกณฑ์ตารางสำเร็จรูปของ Taro Yamane กำหนดว่าประชากรเกิน 100,000 คนต้องการความเชื่อมั่น 95% และความผิดพลาดไม่เกิน 3% ต้องใช้กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,111 กลุ่มตัวอย่าง
ผศ.สิงห์ สิงห์ขจร ประธานคณะกรรมการศูนย์สำรวจความคิดเห็นบ้านสมเด็จโพลล์ กล่าวว่า ผลการสำรวจในครั้งนี้ต่อปัญหาสุนัข-แมวจรจัด เนื่องจาก ในปี 2560 มีผู้เสียชีวิตจากเชื้อพิษสุนัขบ้า 11 รายและในปี 2561 มีผู้เสียชีวิตจากเชื้อพิษสุนัขบ้าแล้ว 7 ราย และสำนักควบคุม ป้องกันและบำบัดโรคสัตว์ กรมปศุสัตว์ พบว่าพื้นที่ที่พบเชื้อพิษสุนัขบ้ามีมากถึง 40 จังหวัด รวมไปถึงกรุงเทพมหานครที่มีการตรวจพบสัตว์ติดเชื้อพิษสุนัขบ้าจำนวน 6 ตัว ทำให้เกิดความรู้สึกไม่ปลอดภัยเกี่ยวกับสุนัข-แมวจรจัด
ทั้งนี้ สาเหตุหลักในการแพร่เชื้อพิษสุนัขบ้าจากสัตว์เลี้ยงไปสู่คนมาจากปัญหาสุนัข-แมวจรจัด ซึ่งมีการคาดการณ์จำนวนสุนัข-แมวจรจัดทั่วประเทศมีจำนวนมากกว่า 1 ล้านตัว หากมีการแก้ไขปัญหาสุนัข-แมวจรจัดก็จำทำให้ปัญหาเรื่องของเชื้อพิษสุนัขบ้าลดลงได้
อย่างไรก็ตาม กระบวนการในการแก้ไขปัญหาสุนัข-แมวจรจัดยังไม่สามารถทำให้มีการลดจำนวนสุนัข-แมวจรจัดได้ โดยกรุงเทพมหานครมีศูนย์พักพิงสุนัขจรจัด เขตประเวศ เพื่อเป็นใช้เป็นสถานที่เลี้ยงดูสุนัขและแมวจรจัด ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนสุนัขจรจัดพักพิงในพื้นที่รวม ประมาณ 1,000 ตัว และมีแมวจรจัดรวมประมาณ 200 ตัว ซึ่งไม่เพียงพอต่อสุนัขและแมวจรจัดที่มีอยู่ในกรุงเทพมหานคร
ผศ.สิงห์ กล่าวอีกว่า ในช่วงที่ผ่านมามีการถกเถียงในประเด็นปัญหาสุนัข-แมวจรจัด ว่าจะมีการแก้ไขอย่างไร โดยเฉพาะประเด็นเรื่องผู้เลี้ยงจะต้องมีความรับผิดชอบต่อสัตว์เลี้ยงของตนเอง การขึ้นทะเบียนสุนัข-แมว การเก็บภาษีสัตว์เลี้ยง รวมไปถึงประเด็นการ เซตซีโร่ (SET ZERO) หรือแนวทางการจำกัดสุนัขจรจัดที่ไม่มีเจ้าของทิ้ง ความคิดเห็นของประชาชนต่อปัญหาสุนัข-แมวจรจัด โดยมีข้อมูลที่น่าสนใจดังต่อไปนี้
+ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่คิดว่าสุนัข-แมวจรจัดเป็นปัญหาสังคมที่ต้องเร่งแก้ไข ร้อยละ 61.8 และเคยพบเห็นสุนัข-แมวจรจัด ในบริเวณที่อยู่อาศัย ร้อยละ 68.9
+ คิดว่าสุนัข-แมวจรจัด จะเป็นอันตรายต่อตนเองและผู้อื่น ร้อยละ 52.6 และคิดว่าสุนัข-แมวจรจัด มีโอกาสในการแพร่เชื้อพิษสุนัขบ้า ร้อยละ 62.0
+ คิดว่าปัญหาสุนัข-แมวจรจัดเกิดจากความมักง่ายของผู้เลี้ยง ร้อยละ 68.4 และทราบว่าผู้ที่นำสัตว์เลี้ยงมาปล่อยทิ้งหรือไม่รักษาความสะอาด หรือปล่อยให้ก่อความเดือดร้อนรำคาญแก่ชุมชน ผู้เป็นเจ้าของจะถูกปรับ 5,000 บาท ตามกฎหมาย ร้อยละ 48.3
+ คิดว่าการให้อาหารสุนัข-แมวจรจัดเป็นการทำให้ปัญหาสุนัข-แมวจรจัดเพิ่มมากขึ้น ร้อยละ 51.2 และอยากให้ผู้ที่ให้อาหารสุนัข-แมวจรจัด ที่ไม่ได้เลี้ยงดูอย่างใกล้ชิด หยุดพฤติกรรม ร้อยละ 49.7
นอกจากนี้ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่อยากให้ผู้เลี้ยงสุนัข-แมวมีความรับผิดชอบในการดูแลไม่ปล่อยออกนอกบ้านโดยไม่มีผู้ดูแล ร้อยละ 65.8 และอยากให้หน่วยงานภาครัฐมีกระบวนการนำสุนัข-แมวจรจัดไปดูแลในสถานที่ที่เหมาะสม ร้อยละ 68.0
+ อยากให้กรุงเทพมหานครเป็นเมืองที่ปลอดจากสุนัข-แมวจรจัด เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ร้อยละ 60.1 และอยากให้หน่วยงานภาครัฐเร่งรีบดำเนินการแก้ไขปัญหาสุนัข-แมวจรจัดให้ไม่มีในกรุงเทพมหานคร ร้อยละ 59.8
ทั้งนี้ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เห็นด้วยในการที่หน่วยงานภาครัฐมีการขึ้นทะเบียนสุนัข-แมว โดยผู้เลี้ยงจะต้องมีความรับผิดชอบต่อสัตว์เลี้ยงของตนเอง ร้อยละ 69.5
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี