สังเวย378ศพ
เจ็บ3.5พัน6วันสงกรานต์
‘โคราช’แชมป์ตาย19ราย
ยึดรถเมาขับ1.3หมื่นคัน
ยอดเสียชีวิตสงกรานต์ 6 วันยังพุ่ง 378 ศพ บาดเจ็บ 3,575 ราย โคราชรั้งแชมป์ตาย 19 ราย เชียงใหม่ อุบัติเหตุ-เจ็บเยอะสุด ส่วน 6 จังหวัดเอาอยู่ตายเป็นศูนย์ นายกฯกำชับศปถ.เข้มดูแลประชาชนที่ยังทยอยเดินทางกลับไม่หมดช่วงโค้งสุดท้าย 7 วันอันตราย ด่านคสช.ยึดรถเมาขับกว่า 1.3 หมื่นคัน ดำเนินคดี 2.3แสนราย ททท.ปลื้มเงินสะพัด 2 หมื่นล้าน นักท่องเที่ยวทะลัก 3.5 ล้านคน ด้านบขส.โคราช-พิษณุโลกแน่น คนแห่ซื้อตั๋วกลับกรุง เสริมรถไม่ให้ผู้โดยสารตกค้าง
เมื่อวันที่ 17 เมษายน ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) พล.ท.ธเนศ กาลพฤกษ์ เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารบก (ทบ.) เป็นประธานแถลงสรุปผลการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2561 โดยเปิดเผยว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 16 เมษายน ซึ่งเป็นวันที่ 6 ของการรณรงค์ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร เกิดอุบัติเหตุ 425 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 49 ราย ผู้บาดเจ็บ 464 คน
ฟ้อง1.7แสนรายทำผิดกฎจราจร
สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็ว ร้อยละ 28.47 ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 27.29 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 81.80 ส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรง ร้อยละ 64.00 บนถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 39.76 ถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 34.82 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 16.01 – 20.00 น. ร้อยละ 23.53 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุดอยู่ในช่วงอายุ 50 ปีขึ้นไป ร้อยละ 28.07
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตั้งจุดตรวจหลัก 2,031 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 65,226 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 856,446 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดีรวม 176,415 ราย ความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 49,866 ราย ไม่มีใบขับขี่ 46,067 ราย โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดได้แก่ พิษณุโลก 17 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ สมุทรปราการ และพิษณุโลก 4 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ พิษณุโลก 17 คน
6วันตาย378-เจ็บ3,575คน
“สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสม 6 วันตั้งแต่วันที่ 11-16 เมษายน) เกิดอุบัติเหตุ 3,418 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 378 ราย ผู้บาดเจ็บ 3,575 คน จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิตมี 6 จังหวัด ได้แก่ ยะลา ระนอง สตูล สมุทรสงคราม หนองคาย และหนองบัวลำภู จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุดได้แก่ เชียงใหม่ 126 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ นครราชสีมา 19 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 136 คน”พล.ท.ธเนศกล่าว
ดูแลเข้มช่วงโค้งสุดท้ายสงกรานต์
และว่า ตลอดทั้งวันนี้ยังมีประชาชนบางส่วนเดินทางกลับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)เน้นย้ำให้ศูนย์อำนวยความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) ประสานจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกในการเดินทางแก่ประชาชนทุกเส้นทาง นอกจากนี้ ขอให้จังหวัดวิเคราะห์ข้อมูลอุบัติเหตุทางถนนให้สอดคล้องข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ โดยให้ความสำคัญกับประเด็นที่เป็นสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุทางถนน โดยเฉพาะอำเภอที่มีความเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุทางถนนสูง (พื้นที่สีแดงและสีส้ม) นำไปปรับปรุงและพัฒนาแนวทางการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนทั้งช่วงปกติและเทศกาล เพื่อให้การขับเคลื่อนการสร้างความปลอดภัยทางถนนมีประสิทธิภาพในการลดสูญเสียได้มากที่สุด
สั่งศปถ.จว.เก็บสถิติลดอุบัติเหตุ
ด้านนายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย (มท.)กล่าวว่า มท.เน้นย้ำให้จังหวัดจัดประชุมศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัด เพื่อสรุปผลดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2561 พร้อมประสานให้จังหวัดเร่งตรวจสอบข้อมูลผู้บาดเจ็บที่พักรักษาตัวในโรงพยาบาลระหว่างวันที่ 11–17 เมษายน ซึ่งเสียชีวิตภายใน 30 วันหลังเกิดอุบัติเหตุ เพื่อให้ได้ข้อมูลสถิติอุบัติเหตุช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่สอดคล้องกับสถานการณ์บนพื้นฐานข้อเท็จจริงมากที่สุด จะได้นำไปวิเคราะห์กำหนดมาตรการป้องกันแก้ปัญหาอุบัติเหตุทางถนนในพื้นที่ต่อไป
ททท.ปลื้มเงินสะพัดกว่า2หมื่นล้าน
ขณะที่นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)กล่าวว่า บรรยากาศงานเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ทั้งเมืองหลักและเมืองรอง โดยเฉพาะ 5 จังหวัดคือ กำแพงเพชร กาฬสินธุ์ สิงห์บุรี จันทบุรีและนครศรีธรรมราช ที่เป็นเมืองรองหลักในการจัดงานสงกรานต์ ภายใต้แนวคิด “สงกรานต์แต่งไทยไปเมืองรอง” ที่จัดระหว่าง 12-16 เมษายนคึกคัก มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติให้ความสนใจแต่งชุดไทยเข้ามาท่องเที่ยวร่วมเล่นน้ำสงกรานต์ สืบสานประเพณีไทยตามจุดต่างๆมากกว่า 3.5 ล้านคน เป็นคนไทย 3 ล้านคน และต่างชาติกว่า 500,000 คน สร้างรายได้มากกว่า 20,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 18 ในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2560 ที่ผ่านมา ถือว่าเป็นไปตามที่ททท.คาดการณ์ไว้
คสช.ยึดรถเมาขับกว่า1.3หมื่นคัน
ขณะที่พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ( คสช.)แถลงผลการดำเนินงานในส่วนคสช.เกี่ยวกับโครงการลดอุบัติเหตุช่วงสงกรานต์ว่า ตรวจพบผู้ทำผิดในลักษณะที่สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุโดยประมาทด้วยการดื่มแล้วขับขี่ตลอด 6 วันที่ผ่านมา ระหว่างวันที่ 11-16 เมษายน มีการทำผิดในส่วนรถจักรยานยนต์ 220,507 ครั้ง รถโดยสารสาธารณะ/รถยนต์ 163,840 ครั้ง เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องยึดรถที่ฝ่าฝืนมาตรการดื่มไม่ขับไว้แล้ว 13,964 คัน แยกเป็น รถจักรยานยนต์ 10,139 คัน และรถยนต์ 3,825 คัน และดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด รถจักรยานยนต์ 147,971 คน รถโดยสารสาธารณะ/รถยนต์ส่วนบุคคล 86,674 คน รวมทั้งหมด 234,645 ราย
ทั้งนี้ ในส่วนวันที่ 16 เมษายน พบรถจักรยานยนต์ทำผิด 52,298 ครั้ง เจ้าหน้าที่ยึดรถไว้ 2,767 คัน และส่งผู้กระทำผิดดำเนินคดี 34,521 คน สำหรับรถโดยสารสาธารณะและรถยนต์ส่วนบุคคล พบทำผิด 41,574 ครั้ง เจ้าหน้าที่ยึดใบอนุญาตขับขี่ไว้ 2,324 ราย ยึดรถยนต์ 1,098 คัน ส่งผู้ทำผิดดำเนินคดี 20,902 คน
“รถที่ฝ่าฝืนมาตรการความปลอดภัยและเจ้าหน้าที่นำมาเก็บรักษาไว้ตามสถานที่ต่างๆ เช่น สถานีตำรวจ สำนักงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยทหาร ด่านตรวจถาวร มีจำนวนค่อนข้างสูง ขณะนี้เจ้าของรถได้ทยอยมาติดต่อขอรับรถคืนตามเวลาที่กำหนดแล้ว ส่วนรถที่ยังอยู่ระหว่างดำเนินคดีต้องรอให้ผลคดีเสร็จก่อนจึงจะขอรับคืนได้”รองโฆษก คสช.ระบุ
บขส.โคราชยังแน่นคนจองตั๋วกลับ
อีกด้านหนึ่ง ยังคงมีบรรยากาศประชาชนบางส่วนเดินทางกลับเข้ากทม. หลังสิ้นสุดการฉลองเทศกาลสงกรานต์ในภูมิลำเนา โดยเฉพาะช่วงเช้ามีดจนถึงช่วงสาย ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่สถานีขนส่งผู้โดยสารนครราชสีมาแห่งที่ 2 ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมายังคงมีประชาชนหอบกระเป๋าสัมภาระไปซื้อตั๋วขึ้นรถโดยสารเดินทางกลับเข้ากทม.ต่อเนื่อง สอบถามประชาชนส่วนใหญ่ที่เลือกเดินทางกลับวันนี้ เนื่องจากลาหยุดงานไว้ล่วงหน้า และต้องการหลีกเลี่ยงความแออัด ซึ่งสถานีขนส่งผู้โดยสารนครราชสีมาเตรียมรถโดยสารเดินทางเข้ากรุงเทพฯไว้รองรับประชาชนเดินทางกลับมากกว่า 400 เที่ยว ให้บริการเดินรถตลอด 24 ชั่วโมง
ถนนมิตรภาพหนาแน่นเช่นกัน
ส่วนสภาพการจราจรบนถนนมิตรภาพช่วงผ่านจ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นเส้นทางหลักมุ่งสู่จังหวัดภาคอีสาน ยังมีปริมาณรถยนต์จำนวนมาก ทำให้การจราจรชะลอตัวบางช่วง โดยเฉพาะบริเวณทางขึ้นเขาเขตตำบลคลองไผ่ อำเภอสีคิ้ว เพราะเป็นบริเวณที่มีการก่อสร้างทาง ประกอบกับฝนตกตั้งแต่เช้า ทำให้รถยนต์ขับเคลื่อนได้ช้า ขณะที่ถนนมิตรภาพบริเวณอื่นก็ยังมีรถมากเช่นกัน แต่การจราจรโดยรวมถือว่าคล่องตัว
ขนส่งพิษณุโลกเสริมรถ30คันต่อวัน
เช่นเดียวกับ ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 2 อินโดจีน ต.สมอแข อ.เมือง จ.พิษณุโลก ประชาชนจำนวนมากนับพันคนยังคงเข้าแถวรอซื้อตั๋วรถโดยสารประจำทางกลับไปทำงานภูมิภาคต่างๆ โดยเฉพาะรถโดยสารที่จะเดินทางกลับเข้าสู่กรุงเทพฯ ทั้งนี้ สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 2 อินโดจีนจัดรถเสริมไว้รองรับประชาชนมากถึงวันละ 20-30 คันต่อวันไม่ให้มีประชาชนตกค้าง นอกจากนี้ ยังมีจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ จุดตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดในร่างกายคนขับรถโดยสาร เพื่อความปลอดภัย ขณะที่ถนนทางหลวงหมายเลข 11 ขาล่อง เชื่อมต่อถนนเส้นมิตรภาพ มุ่งสู่ทางหลวงหมายเลข 117 พิษณุโลก – นครสวรรค์ จากภาคเหนือสู่ภาคกลางปริมาณรถมาก แต่คล่องตัว มีบางช่วงที่ชะลอตัว เนื่องจากมีการสร้างสะพานข้ามสี่แยกอินโดจีน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี