วันศุกร์ ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
เลาะรั้วเกษตร : ฤดูกาลของผลไม้

เลาะรั้วเกษตร : ฤดูกาลของผลไม้

วันศุกร์ ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2561, 06.00 น.
Tag : เลาะรั้วเกษตร
  •  

 

ปีนี้เห็นลิ้นจี่พันธุ์ค่อม ของอำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม ออกสู่ท้องตลาดในปริมาณที่มากกว่าหลายปีที่ผ่านมา ซื้อมาลองชิมก็ไม่ผิดหวัง รสชาติดี เนื้อแห้งไม่ฉ่ำน้ำ ผลโตพอสมควร


ลิ้นจี่อัมพวา เป็นผลไม้ที่ขึ้นชื่อของสมุทรสงครามมานาน เมื่อก่อนจะมีการจัดงานเทศกาลลิ้นจี่ อัมพวาเป็นประจำทุกปี แต่ระยะหลัง 2-3 ปีมานี้เงียบหายไป เพิ่งถึงบางอ้อ เมื่อสำนักงานเกษตรจังหวัดสมุทรสงครามบอกมาว่า 3 ปีที่ผ่านมาลิ้นจี่สมุทรสงครามไม่ติดผลเนื่องจากอากาศหนาวเย็นไม่พอ มาปีนี้ดินฟ้าอากาศเอื้ออำนวย ทำให้ลิ้นจี่ที่ยังมีพื้นที่ปลูกอยู่กว่า 5,000 ไร่ ติดดอกออกผล คาดว่าจะมีผลผลิตออกสู่ตลาดกว่า 3,000 ตัน ราคาที่เกษตรกรขายได้ ณ ตอนนี้ ประมาณกิโลกรัมละ 150-170 บาท

แถมมาด้วยว่า ในวันที่ 20-22 เมษายนนี้ จะจัดงานลิ้นจี่ขึ้นที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดสมุทรสงคราม ท่านที่เป็นแฟนคลับลิ้นจี่อัมพวาไปเที่ยวชม และหาซื้อลิ้นจี่รสชาติดีมารับประทานได้ ลิ้นจี่อัมพวานับวันจะเหลือน้อยลงทุกที เห็นทีสำนักงานเกษตรจังหวัด และจังหวัดสมุทรสงครามเองคงจะต้องหันมาดูแล หาเทคโนยีที่เหมาะสมมาช่วยเกษตรกรพัฒนาการปลูก ดูแลรักษา และอนุรักษ์ลิ้นจี่ในพื้นที่ให้ยังคงเป็นเอกลักษณ์ของสมุทรสงครามต่อไป อย่าปล่อยให้เกษตรกรต้องเผชิญชะตากรรมจากสภาพดินฟ้าอากาศจนต้องโค่นลิ้นจี่ทิ้งไปเรื่อยๆ

ส่วนอีกจังหวัดหนึ่งที่โปรโมทลิ้นจี่เหมือนกัน คือ ลิ้นจี่นครพนม ที่ตำบลขามเฒ่า อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม มีพื้นที่ปลูกอยู่ริมแม่น้ำโขงประมาณ 1,000 ไร่ มีชื่อพันธุ์ว่า นครพนม 1 หรือ นพ.1 ผลผลิตออกสู่ตลาดในช่วงนี้เช่นเดียวกัน ทราบมาว่าลิ้นจี่ นพ.1 เป็นลิ้นจี่ที่นักวิชาการของกรมวิชาการเกษตรไปพบในพื้นที่ของชาวบ้านเมื่อประมาณปี 2533 นำมาปลูกทดสอบและคัดเลือกพันธุ์ ขยายพันธุ์ให้ชาวบ้านนำไปปลูกในชื่อว่า ลิ้นจี่พันธุ์นครพนม 1 ต่อเนื่องมาเรื่อย ๆ ตั้งแต่ปี 2535 จนปัจจุบันได้ขึ้นทะเบียนเป็นสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ GI ไปแล้ว

ลิ้นจี่ นพ.1 มีลักษณะเฉพาะถิ่นที่โดดเด่นคือ ผลดก ขนาดผลโต เปลือกสีแดงสด รสชาติหวานอมเปรี้ยว กรอบ เนื้อแห้ง ที่สำคัญปลูกได้ดีในพื้นที่ริมน้ำโขง และภาคอีสานบางจังหวัด ลักษณะของหวานอมเปรี้ยวนี่ไม่ทราบว่าเปรี้ยวขนาดไหน เพราะเท่าที่ได้ลิ้มรสคือเปรี้ยวมาก อาจจะเพราะผลผลิตยังไม่แก่จัด จึงฝากชาวสวนลิ้นจี่ด้วยว่าต้องรักษาคุณภาพให้ดีที่สุด มิเช่นนั้นจะเสียชื่อสินค้า GI ทราบมาว่าส่งออกไปจีนด้วย ยิ่งต้องรักษาหน้าตาไว้ให้มาก

ไหนๆ ก็ไหนๆ พูดถึงลิ้นจี่แล้ว ก็ต้องมองเลยไปถึงฤดูกาลผลไม้ที่กำลังจะมาถึง โดยเฉพาะ ผลไม้ภาคตะวันออก ที่เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร วิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข ออกมาบอกว่า ผลสำรวจข้อมูลผลไม้ในภาคตะวันออกที่จังหวัด จันทบุรี ระยอง และตราด ในปี 2561 นี้ พื้นที่ปลูกผลไม้ 4 ชนิด คือ ทุเรียน เงาะ มังคุด และลองกอง มีทุเรียนเท่านั้นที่พื้นที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย อีก 3 ชนิด คือ มังคุด เงาะ และลองกอง พื้นที่ลดลง

ผลผลิตต่อไร่ สำหรับมังคุดลดลงมากที่สุด ลองลงมาคือ ลองกอง เงาะ และทุเรียน ตามลำดับ สาเหตุที่มังคุด มีปริมาณผลผลิตลดลง เนื่องมาจากปีที่ผ่านมา มังคุดติดผลล่าช้า ช่วงนี้จึงพักต้นเพื่อสะสมอาหาร และคาดว่าปีนี้ก็จะติดผลล่าช้าอีกเช่นกัน ประกอบกับสภาพอากาศแปรปรวนทำให้แตกใบอ่อนแทนการออกดอก ส่วนทุเรียนต้องเผชิญกับเชื้อราไฟทอปเธอรา เป็นโรครากเน่ายืนต้นตาย

สถานการณ์ไม้ผลภาคตะวันออกปีนี้จึงคาดว่าผลผลิตจะลดลง จะส่งผลให้ราคาที่เกษตรกรขายได้สูงขึ้น....ผู้บริโภคเตรียมทำใจกับราคาผลไม้ที่สูงขึ้น แต่ก็ต้องยอมถ้าราคาที่สูงขึ้นเกษตรกรจะได้ประโยชน์ ไม่ใช่บรรดาพ่อค้าคนกลาง หรือล้งทั้งหลาย เป็นฝ่ายได้ประโยชน์ แต่เกษตรกรยังขายได้ราคาต่ำเหมือนเดิม

ที่สำคัญคือ คุณภาพผลไม้สำหรับผู้บริโภคคนไทยจะต้องเหมือนกับคุณภาพที่ส่งออกไปขายให้กับชาวต่างประเทศ ซึ่งเรื่องนี้โฆษกกระทรวงเกษตรฯ สรวิศ ธานีโต ที่มีข่าวลือว่า จะมานั่งเก้าอี้เลขาธิการ สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ หรือ มกอช. ออกมาแถลงว่า แนวทางการบริหารจัดการผลไม้ของกระทรวงเกษตรฯ จะเน้นคุณภาพ ความปลอดภัย ทั้งมาตรฐาน GAP และ เกษตรอินทรีย์ ที่สำคัญคือเข้มงวดกับปัญหาทุเรียนอ่อนมาก

ในส่วนของปริมาณผลผลิตจะมีการเชื่อมโยงตลาดล่วงหน้า บริหารจัดการผลผลิตส่วนเกินให้กระจายไปในภูมิภาคต่างๆ ไม่กระจุกตัวอยู่ในแหล่งผลิตเท่านั้น....

ในฐานะผู้บริโภคที่นิยมผลไม้ ก็หวังว่าการเตรียมการของกระทรวงเกษตรฯ จะทำให้ตลาดผลไม้ปีนี้ราบรื่น เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น ผู้บริโภคได้สินค้าที่มีคุณภาพสมตามเจตนารมณ์ที่ว่า......หวังว่าจะไม่ผิดหวัง......

แว่นขยาย

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

เศรษฐกิจเบตงพุ่ง! นทท.มาเลย์-สิงคโปร์แห่เที่ยว คาดเงินสะพัดกว่า 20 ล้าน

‘อสม.’เวอร์ชั่นกองทัพ! ‘นักวิชาการ’วิเคราะห์‘ทหารอาสา ภท.’ ดึงปชช.ร่วมปกป้องบ้านเมือง

‘นายกฯ’ชี้ทหารขาขาดรายที่ 9 คนละเรื่องกับประชุม GBC ตอบโต้เป็นเรื่องกองทัพ

ท้าชนบ้านใหญ่! ปชป.ส่ง‘แป้ง อรกฤติย์’ชิง สส. เขต1 ฉะเชิงเทรา ชู EEC Plus ดัน‘แปดริ้ว’เมืองเศรษฐกิจ

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved