เทศบาลเจ็ดเสมียน อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี จัดประกวดนางงอมหัวไชโป๊วหวาน เฟ้นหาสาวงามที่สวยที่สุดในตำบล ในงานประเพณีแห่ดอกไม้ท้ายสงกรานต์ ปี 2561 ซึ่งมีผู้สูงอายุจากชุมชนต่างๆ เข้าร่วมประกวดคึกคักที่ทำเอาผู้ชมและกองเชียร์ต่างส่งเสียงฮาและให้กำลังใจกันอย่างสนุกสนาน
22 เม.ย.61 ที่บริเวณลานสนามกีฬาหน้าโรงเรียนวัดเจ็ดเสมียน ต.เจ็ดเสมียน อ.โพธาราม จ.ราชบุรี วัดเจ็ดเสมียนและเทศบาลเจ็ดเสมียน ร่วมกับชุมชน จัดงานประเพณีแห่ดอกไม้ท้ายสงกรานต์ และของดีตำบลเจ็ดเสมียน ประจำปี 2561 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 20 – 22 เม.ย.61 เพื่อส่งเสริมให้ชาวบ้านสืบสาน และฟื้นฟูประเพณีดั้งเดิมของท้องถิ่น อนุรักษ์วัฒนธรรม ส่งเสริมผลิตภัณฑ์สินค้าท้องถิ่น กระตุ้นเศรษฐกิจและเพิ่มรายได้ในชุมชน โดยเฉพาะการส่งเสริมการท่องเที่ยวในตำบลเจ็ดเสมียนและตลาดเก่า 119 ปี
โดยมีนายชัยทิพย์ กมลพันธ์ทิพย์ ร่วมกับ นายสุทธิเดช ริมธีระกุล นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลเจ็ดเสมียน เปิดการงานอย่างเป็นทางการ พร้อมทั้งได้เปิดการประกวดนางงอมหัวไชโป๊ว ประจำปี 2561 เพื่อเฟ้นหาสาวงามที่มีอายุมากและสวย พร้อมกันนี้ได้เปิดการประกวดธิดาดอกไม้ภายในงานแห่ดอกไม่ท้ายสงกรานต์ และของดีตำบลเจ็ดเสมียน
ซึ่งการประกวดเฟ้นหาสาวงามเพื่อชิงตำแหน่งนางงอมหัวโดยมีเหล่าบรรดาสาวงามเมื่อคืนวันที่ 16 เมษายนที่ผ่านมาได้จัดให้มีการประกวดนางงอมหัวไชโป๊ว ประจำปี 2561 ซึ่งมีบรรดาผู้สูงวัยจากชุมชนต่างๆ ในตำบลเจ็ดเสมียนเข้าร่วมสมัครจำนวน 10 คน ซึ่งผู้สมัครแต่ละคนมีอายุ 65 – 78 ปี ขึ้นไป เข้าประกวดสร้างสีสัน และการมีส่วนร่วมของชุมชน โดยผู้เข้าประกวดแต่ละคนจะต้องใส่ชุดไทยย้อนยุค ชุดไทยโบราณ มาเข้าร่วมประกวด เมื่อพิธีกรประกาศให้ผู้สมัครทั้ง 10 ท่านขึ้นบนเวที ด้วยการเดินออกมารำวงคนละ 1 รอบ เพื่อให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิได้ชมความงามของเหล่าบรรดาสาวงามผู้สูงวัย ทั้ง 10 ท่านเพื่อเป็นคะแนนในการตัดสิน
ภายหลังจากที่เหล่าบรรดาสาวงามผู้เข้าประกวดทั้ง 10 ท่าน ได้ลงจากเวทีเพื่อพักช่วงประกวด ต่างต้องหยิบยาดมมาดมเพื่อแก้อาการเป็นลม และเหนื่อย นอกจากนี้บรรดาลูกหลานต่างนำพัดและพัดลมมือถือมาพัดเพื่อคลายความร้อนเนื่องจากกลัวผู้สมัครเป็นลมเนื่องจากแต่ละคนมีอายุ กว่า 65 ปี
เมื่อถึงเวลาที่ผู้สมัครทุกคนจะต้องออกมาแสดงความสามารถพิเศษ ทำเอากรรมการต้องต่างจับตาเพื่อให้คะแนน ผู้สูงอายุแต่ละคนต่างก็แสดงออกซึ่งความสามารถที่ตนเองถนัดออกมา อาทิ ร้องเพลง รำวง และเต้น แต่ที่เรียกเสียงฮาลั่นสนามจากกองเชียร์ คือ ผู้สมัครหมายเลข 11 นางแจ่ม ปิ่นฉ่ำ หรือ ยายเล็ก อายุ 67 ปี ชุมชนคลองมะขามร่มเย็นส่งเข้าประกวด ที่พิธีกรได้สอบถามข้อมูลส่วนตัว อาทิชื่อจริงนามสกุลจริง ชื่อเล่น อายุ อาชีพ และ งานอดิเรก นางแจ่มตอบว่า งานอดิเรกคือทำงานบ้าน เมื่อพิธีกรถามกลับยายทำอะไรอีก ยายแจ่มจึงตอบกลับไปว่า ตอบได้หรือ พิธีกรตอบกลับว่าตอบได้เพราะเป็นงานที่เราทำอยู่ประจำทุกวันอยู่แล้วยายแจ่มจึงตอบว่า เล่นไพ่ ทำเอาเหล่าบรรดากองเชียร์ทั้งสนาม และคณะกรรมการต่างส่งเสียงปรบมือและส่งเสียงฮากันลั่นสนาม ซึ่งเป็นสีสันของการจัดประกวดในครั้งนี้
สำหรับผลการตัดสิน การประกวดนางงอมหัวไชโป๊วหวาน ในงานประเพณีแห่ดอกไม้ท้ายสงกรานต์และของดีตำบลเจ็ดเสมียน ประจำปี 2561 คือ ผู้เข้าประกวดหมายเลข 9 นางแฉล้ม เกสร อายุ 76 ปี ส่งโดยชุมชนเจ็ดเสมียนนอก ได้รับถวายรางวัลพร้อมสวยสะพาย และเงินสด ส่วน รองชนะเลิศตกเป็นของผุ้สมัครหมายเลข 2 นางสาวจำเนียน นาควิเชียร ชุมชนบ้านวังลึกส่งเข้าประกวด ได้รับถวายรางวัลพร้อมเงินสดไปครอง
สำหรับประเพณีแห่ดอกไม้ท้ายสงกรานต์ เป็นประเพณีที่ได้สืบทอดมายาวนาน เป็นกิจกรรมที่เกิดขึ้นหลังจากทำนาเก็บเกี่ยวข้าวช่วงเทศกาลสงกรานต์ วันสุดท้ายของงานจะมีชาวบ้านช่วยกันขนทรายจากบริเวณริมแม่น้ำแม่กลอง มาก่อเจดีย์ทราย และมีการประกวดก่อพระเจดีย์ทราย มีการแข่งขันเซปักตระกร้อ การรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุ เพื่อให้สมาชิกในครอบครัวได้มีโอกาสทำกิจกรรม และแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อปู่ ย่า ตา ยายร่วมกัน พร้อมทั้งร่วมชมการแข่งขันเรือยาวจากนักแข่งที่มีชื่อเสียงเข้าร่วมทำการประชันฝีพายในแม่น้ำแม่กลองแห่งนี้ด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี