24 เม.ย.61 พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รอง ผบ.ตร.) , พล.ต.ท.กิติพงษ์ เงามุข ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7(ผบช.ภ.7) , นายวีรัส ประเสริฐโถ รองผู้ว่าราชการจังหวัด(รอง ผวจ.) ราชบุรี, พล.ต.เจษฎา เปรมนิรันดร ผบ.พลพัฒนาที่ 1 , พล.ต.ต.อนุภาพ ศรีนวล ผบก.ภ.จว.ราชบุรี และ พ.ต.อ.อภิชาต พุทธบุญ ผกก.สภ.เมืองราชบุรี ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้กระทำความผิด พ.ร.บ.ยาเสพติดและอาวุธปืน ในเครือข่ายของนายพงศ์พันธ์ ยังให้ผล ผู้ต้องหาตามหมายจับ และเป็นพ่อค้ายาบ้ารายใหญ่ ซึ่งไหวตัวทันหนีการจับกุมไปได้
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมนายรัน(นามสมมุติ) เยาวชนชายอายุ 16 ปี ภูมิลำเนาอยู่ ต.เจ็ดเสมียน อ.โพธาราม จ.ราชบุรี พร้อมของกลาง ประกอบด้วย แท่นพิมพ์ จำนวน 1 ชุด บล็อกแม่พิมพ์ จำนวน 4 ชุด เตาไมโครเวฟ จำนวน 1 เครื่อง ยาบ้าชนิดผง สีส้มบดละเอียด น้ำหนัก 300 กรัม ยาบ้า ชนิดเม็ดกลมแบน สี ส้ม ด้านหนึ่งมีอักษรภาษา WY และอีกด้านหนึ่งผิวเรียบ 219 เม็ด ยาอีชนิดเม็ดกลมแบน สีเขียว ด้านหนึ่งมีอักษรภาษาอังกฤษ LV และอีกด้านหนึ่งผิวเรียบ 760 เม็ด วัตถุของเหลว(ยาอี) 6.1 กิโลกรัม
นอกจากนี้ ยังมีของกลางวัตถุระเบิดรุ่น 67 A2 จำนวน 1 ลูกพร้อมใช้งาน และยังมีของกลางอาวุธปืนอีกหลายรายการ อาทิ อาวุธปืนเล็กยาว M16 (M4A1) ขนาด 5.56 มม. จำนวน 1 กระบอก , อาวุธปืนยาวกลมือ M3A1 ขนาด .45 จำนวน 1 กระบอก , อาวุธปืนลูกซอง ขนาด 12 จำนวน 1 กระบอก , ซองบรรจุกระสุนปืน M4A1 จำนวน 4 อัน , ซองบรรจุกระสุนปืน M3A1 จำนวน 2 อัน , เครื่องกระสุนปืนขนาด 5.56 มม. จำนวน 148 นัด , เครื่องกระสุนปืนลูกซอง ขนาด 12 จำนวน 1 นัด พร้อมกันนี้ยังสามารถยึดรถยนต์และรถจักรยานยนต์อีกหลายรายการ
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า พฤติการณ์ของนักค้ายาบ้ารายใหญ่ที่สามารถบุกเข้าทลายได้ หลังจากที่ทางตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรีได้รับการร้องเรียนจากประชาชนผ่านศูนย์ดำรงธรรม ว่ามีการใช้อาวุธสงครามในชุมชน และมีการลักรอบการค้ายาบ้า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 23 เม.ย.61 เวลาประมาณ 14.00 น. โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจับกุมได้รับแจ้งจากสายรับแจ้งว่า นายพงศ์พันธ์ ได้หลบหนีการจับกุมและมาพักอาศัยอยู่ในบ้านเลขที่ 125 หมู่ 7 ต.ดอนตะโก อ.เมือง จ.ราชบุรี จึงนำกลังเดินทางไปตรวจสอบ
เมื่อไปถึงพบนายพงศ์พันธ์ ขับรถยนต์โตโยต้า ฟอจูนเนอร์ สีเทา ทะเบียน ก-5664 ราชบุรี (ป้ายแดง) เข้ามาจอดที่บ้านที่เกิดเหตุแล้วจึงได้เดินเข้าบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เห็นใบหน้าชัดเจนจำได้ว่าคือนายพงศ์พันธ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับ จึงได้เข้าไปตรวจสอบที่บ้าน ระหว่างนั้นได้มีนายรัน(นามสมมุติ) เดินออกมาจากหน้าบ้านที่เกิดเหตุ จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และได้สอบถามว่านายพงศ์พันธ์ อยู่ในบ้านที่เกิดเหตุหรือไม่ ซึ่งนายรัน(นามสมมุติ) แจ้งว่า นายพงศ์พันธ์ และแฟนสาว อาศัยอยู่ในบ้านดังกล่าว
เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปตรวจสอบภายในบ้าน ระหว่างนั้น นายพงศ์พันธ์และแฟนสาว ได้เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ แฟนสาวจึงได้ตะโกนว่าตำรวจมา จากนั้นทั้งคู่จึงได้พากันวิ่งหนีออกจากทางหลังบ้านไปทางประตูขึ้นไปบนเขา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เร่งออกติดตาม ปิดล้อมตลอดทั้งคืน แต่นายพงศ์พันธ์และแฟนสาวสามารถหนีเงื้อมมือตำรวจไปได้อย่างลอยนวล
ต่อมานายรัน(นามสมมุติ) ได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจสอบในบ้านที่เกิดเหตุ พบของกลางหลายรายการ โดยเฉพาะแท่นพิมพ์และ ยาบ้า และ ยาอี จึงทำการตรวจยึดไว้ พร้อมทั้งแจ้งข้อกล่าวหานายรัน(นามสมมุติ) ว่าร่วมกันผลิตยาเสพติดเพื่อจำหน่าย ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า ยาอี) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ร่วมกันมีอาวุธปืน ที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในความครอบครอง ร่วมกันมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย มีวัตถุระเบิดไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย ส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวอีกว่า ตอนนี้ขอเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการขยายผลถึงเครือข่ายของนายพงศ์พันธ์ทั้งหมดก่อน จากนั้นจะได้เร่งติดตามแบบปูพรมเพื่อไล่ล่าจับกุมนายพงศ์พันธ์ พร้อมแฟนสาวมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้ เพราะถือเป็นนักค้ายาเสพติดรายสำคัญที่มีความรู้และไหวพริบอย่างดี เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องทำงานกันอย่างระมัดระวัง เพราะทราบว่านายพงศ์พันธ์มีการระวังตัวตลอดเวลา และพกอาวุธปืนติดกายเพื่อเตรียมที่จะต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ตลอดเวลา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี