เผลอกะพริบตาครั้งเดียว รักษาการผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทยเปลี่ยนตัวเสียแล้ว....รักษาการคนเก่า ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย เพิ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 4 เมษายน ที่ผ่านมา ผ่านมาเพียง 2 สัปดาห์ ชิงลาออกเสียแล้ว แสดงว่าองค์กรนี้ไม่ธรรมดา ขนาดกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในบอร์ดของ กยท. เอง และเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการค้าซึ่งเป็นที่ยอมรับทั้งในและต่างประเทศยังเอาไม่อยู่....ท่านน่าจะทำโพลล์ “ควรยุบ กยท. หรือไม่” เสนอรัฐบาล
วันที่ 18 เมษายน ที่ผ่านมา ที่ประชุมบอร์ด กยท. ซึ่งมี พลเอกฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข เป็นประธาน ได้มีมติให้ อดีตประธานผู้บริหาร บริษัทร่วมทุนยางพาราระหว่างประเทศ จำกัด เยี่ยม ถาวโรฤทธิ์ มานั่งเก้าอี้รักษาการผู้ว่าการ กยท. แทนทันที แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า คนที่เคยทำงานด้านการตลาดยางพารา สั่งสมประสบการณ์มาระดับหนึ่งจะมาแก้ปัญหาที่หมักหมมใน กยท. มานานตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงปัจจุบันได้ทุกปัญหา โดยเฉพาะปัญหาคน และการแสวงหาผลประโยชน์ของหลายกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับ กยท......รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ กฤษฎา บุญราช คงต้องทำใจไว้ส่วนหนึ่ง....
ย้อนกลับไปดูอดีต กยท. และผู้ว่าการ กยท. กันหน่อย..
การยางแห่งประเทศไทย หรือ กยท. จัดตั้งขึ้นเมื่อ 15 กรกฎาคม 2558 ตาม พ.ร.บ. การยางแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2558 โดยยุบรวม 3 หน่วยงาน คือ สถาบันวิจัยยาง กรมวิชาการเกษตร สำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง และองค์การสวนยาง เข้าด้วยกัน มีอำนาจหน้าที่ในการบริหารจัดการยางพาราในประเทศไทยแบบครบวงจรให้มีประสิทธิภาพและความคล่องตัว
ตาม พ.ร.บ. ผู้ว่าการ กยท. จะต้องได้มาจากการสรรหา แต่ระหว่างที่ดำเนินการสรรหา กระทรวงเกษตรฯ โดย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงฯ ในขณะนั้น คือ ปีติพงศ์ พี่งบุญ ณ อยุธยา ได้แต่งตั้ง วีระศักดิ์ ขวัญเมือง ผู้อำนวยการการสำนักงานกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย มารักษาการผู้ว่าการ กยท. ไปพลางตั้งแต่ 16 กรกฎาคม 2558 แต่ยางพาราไม่ได้หวานเหมือนอ้อยและน้ำตาล ทำงานไปได้เพียง 4 เดือน วีระศักดิ์ ขวัญเมือง ก็ลาออกจากรักษาการผู้ว่าการ กยท. เมื่อ 12 พฤศจิกายน 2558 และกระทรวงเกษตรฯ ก็ได้แต่งตั้ง เชาว์ ทรงอาวุธ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง มารักษาการผู้ว่าการ กยท. แทนทันที
จนกระทั่งดำเนินการสรรหาผู้ว่าการ กยท. ชื่อ ธีธัช สุขสะอาด ได้เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2559 ส่วนกระบวนการสรรหาจนได้มาอย่างไรนี้คงไม่พูดถึง รู้แต่ว่ามีการเปิดรับสมัครผู้ที่ประสงค์จะมาทำหน้าที่ ผู้ว่าการ กยท. ถึง 3 รอบ จนมีสื่อหลายสำนักวิพากษ์วิจารณ์ว่าการสรรหาผู้ว่าการ กยท. มีกลุ่มผลประโยชน์ขนาดใหญ่ชักใยอยู่เบื้องหลัง โดยเฉพาะนักการเมืองที่ยังคงมีอิทธิพลอยู่ในกระทรวงเกษตรฯ...แต่ตอนนี้ยังมีอยู่หรือไม่ ไม่ยืนยัน....ต้องถามคนในกระทรวงเกษตรฯ และ คนใน กยท.
ธีธัช สุขสะอาด จบปริญญาเอกด้านบริหารธุรกิจ จากออสเตรเลีย ก่อนมาเป็นผู้ว่าการ กยท. ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การตลาด กระทรวงมหาดไทย ตั้งแต่ปี 2553 ต่อมาถูก ป.ป.ช.ไต่สวนข้อเท็จจริง กรณี การจัดจ้างปรับปรุงอาคารสำนักงานตลาดสาขาบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทราในราคาที่สูงกว่าความเป็นจริง และมีการสมยอมราคากัน จนบอร์ดองค์การตลาด มีมติเลิกจ้างในเดือน พฤศจิกายน 2555 แต่ถึงกระนั้น ธีธัช สุขสะอาด ก็รอดพ้นการถูกกล่าวหาในขณะที่ลูกน้องอีก 4 คนถูกฟ้องร้องดำเนินคดี และสุดท้ายถูกใครไม่รู้ผลักดันมาเป็น ผู้ว่าการ กยท. ในปี 2559 จนได้
ตลอดระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าการ กยท. ยังไม่ได้แสดงฝีมือให้คนในวงการยางยอมรับสักเท่าไร ในขณะที่ราคายางก็ตกต่ำมาโดยตลอด ชาวสวนยางก็เรียกร้องให้ปลดออกจากตำแหน่งมาเป็นระยะ ๆ จนในที่สุดไม่สามารถทำให้ราคายางขึ้นไปตามเป้าหมายที่รัฐบาลรับปากชาวสวนยางไว้ได้...จึงต้องถึงเพลาปลดออกจากตำแหน่งจริง ๆ เสียที เมื่อ 20 มีนาคม 2561
นั่นคือสิ่งที่สังคมได้ยิน ได้ฟัง เรื่องราวของ กยท. และ ผู้ว่าการ กยท. ผ่านสื่อต่าง ๆ เป็นเบื้องหน้า ส่วนเบื้องหลังที่อยู่ในเงามืดยังมีอีกหลายสิบเรื่อง....ซึ่งรักษาการผู้ว่าการ กยท. คนใหม่เยี่ยม ถาวโรฤทธิ์ จะต้องค้นหาและแก้ไขให้ดีขึ้น...ความรู้ ประสบการณ์ ใจซื่อมือสะอาด คงไม่เพียงพอ....อาจต้องใช้ เล่ห์กล และแบ๊กหลังชนิดแน่นปึ้กช่วยด้วย และถ้าต้องถึงไสยศาสตร์ก็อาราธนามาให้หมดเลยทีเดียว....
แว่นขยาย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี