"พระพุทธะอิสระ"บุกกองปราบแจ้งจับ"มาร์ค พิทบูล" ฐานลบหลู่-ดูหมิ่นพระพุทธศาสนา ซัดองค์กรพิทักษ์พุทธศาสนากลับนิ่งเงียบ ด้าน "มารค์ พิทบูล"นำหลักฐานร้อง ปอท.เอาผิดเพจดังตัดต่อคลิปจนทำให้ประชาชนเข้าใจผิดถูกกล่าวหาว่าหมิ่นศาสนา ยันตนเองรักในศาสนาพุทธแต่ไม่เชื่ออภินิหาร แนะ "พุทธะอิสระ" อย่ายุ่งทางโลกมากเกินไป
วันนี้ (30 เม.ย.61) พระสุวิทย์ ธีรธมฺโม หรือ หลวงปู่พุทธะอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม พร้อมทนายความได้เดินทางเข้ายื่นเอกสารหลักฐานต่อกองปราบปรามเพื่อให้ดำเนินคดีกับ "มาร์ค พิทบูล" หรือนายณัชพล สุพัฒนะ ฐานลบหลู่พระพุทธเจ้า ดูถูกศาสนาพุทธ โดยพระพทุธะอิสระ กล่าวว่า วันนี้มาเพื่อชี้เบาะแสให้กองปราบฯ ได้พิจารณาของพฤติกรรมนายมาร์คที่จาบจ้วงดูหมิ่นพระบรมศาสดา สัมมาสัมพุทธเจ้าซึ่งเป็นพระศาสนาดาของศาสนาพุทธ ในกรณีที่นายมาร์ค เฟซบุ๊กไลน์ ซึ่งมีข้อความที่หมิ่นประมาท เหยียดหยาม ดูถูกพระบรมศาสดา และพระชาดก ว่าด้วยเรื่อง เวสสันดรชาดก ซึ่งเป็นพระชาดก ที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงตรัสสอนเอง
แจ้งจับมาร์คลบหลู่-ดูถูกศาสนาพุทธ
พระพทุธะอิสระ กล่าวอีกว่า พฤติกรรมของนายมาร์ค ที่แสดงออกถือว่าเป็นการดูถูกดูหมิ่น และก็เหยียดหยามพระพุทธศาสนาอย่างชัดแจ้ง ซึ่งเป็นความผิดละเมิดกฎหมายรัฐธรรมานูญมาตรา 67 ว่าด้วยการคุ้มครองปกป้องพุทธศาสนาและละเมิดกฎหมาว่าด้วยเรื่องความมั่นคงมาตรา 7 ความมั่นคงของรัฐที่ประกอบไปด้วยชาติ ศาสนาและสถาบันพระมหากษัตริย์ และละเมิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 206 ที่ผู้ใดดูหมิ่นเหยียดหยาม ศาสนา หรือสัญลักษณ์แห่งศาสนา มีความผิดจำคุกตั้งแต่ 1 ปีจนถึง 7 ปี และปรับ 5 พันบาทจนถึง 1.5 หมื่นบาทขึ้นไป หรือทั้งจำทั้งปรับ
"พฤติกรรมของนายมาร์ค น่าจะเข้าข่ายใน 3 ความผิดดังกล่าว ซึ่งเป็นสิ่งที่ชาวพุทธทั่วโลกรับไม่ได้ แม้จะอ้างว่าไม่มีเจตนา แต่สิ่งที่แสดงออกมามันส่อชัดว่าได้กระทำการละเมิดและหยามเหยียดความเชื่อความศรัทธาของศาสนิกชนที่นับถือศาสนาพุทธ" พระพุทธะอิสระ กล่าว
พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า เรื่องนี้กระทบกระทือนถึงความมั่นคง ความเชื่อความศรัทธาต่อพุทธศาสนา แต่ไม่เห็นองค์กรใดๆ ที่กล่าวอ้างว่าเป็นผู้ปกป้องศาสนาพุทธที่เรียกว่าชมรม หรือว่าองค์กรพิทักษ์พุทธศาสนา ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมากกลับไม่สนใจหรือมีการดำเนินการใดๆ ต่อกรณีของนายมาร์ค
"มาร์ค"บุกร้องปอท.ถูกตัดต่อคลิป
วันเดียวกันที่ บก.ปอท. นายณัชพล สุพัฒนะ หรือ มาร์ค พิทบูล พร้อมด้วย นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ และนายวิวัฒน์ เจริญพาณิชย์ศิริ เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.นิติพัฒน์ วุฒิบุณยสิทธิ์ ผกก.(สอบสวน) บก.ปอท. ร.ต.อ.สาโรจน์ สุทธินนท์ รอง สว.(สอบสวน) กก.2 ช่วยราชการ กก.3 กรณีถูกมือดีตัดต่อภาพและคลิปในการไลฟสดผ่านแฟนเพจ Pitbullzone ของตนเอง แล้วถูกนำไปตัดต่อจากคลิปความยาว 1 ชั่วโมง 40 นาที เหลือแค่ 2-3 นาที ซึ่งถูกตัดไปเฉพาะช่วงที่ตนเองพูดถึงพญานาคกับพระพุทธเจ้า โดยการมา ปอท.ครั้งนี้ เพื่อแจ้งความดำเนินคดี 3 ราย คือเฟซบุ๊คเพจเสธฯ แจ๊ค, เพจมิติใหม่การเมือง และเฟสบุ๊คบัญชีส่วนตัวชื่อกระจงน้อย ในไร่ส้ม
ยันรักในศาสนาพุทธ-ไม่เชื่ออภินิหาร
นายมาร์ค พิทบูล ระบุว่าก่อนมา ปอท.ตนได้แจ้งความ สน.มีนบุรีเมื่อ 26 เม.ย.โดยส่วนตัวตนเองนับถือศาสนาพุทธ และได้ผ่านการบวชเรียนมาแล้ว ยืนยันว่าตนเองรักในศาสนาพุทธ แต่ไม่เชื่อในเรื่องอภินิหาร เชื่อสิ่งที่วิทยาศาสตร์สามารถพิสูจน์ได้ ซึ่งช่วงที่ไลฟ์สดอยู่นั้นได้พูดถึงเรื่องพญานาคและมีบุคคลเข้ามาสอบถามตนจึงแสดงความคิดเห็นออกไปว่าเป็นเรื่องไม่น่าเชื่อถือเพราะพญานาคเป็นสัตว์ในตำนาน
นอกจากนี้ ได้มีการพูดไปถึงพระพุทธเจ้าว่าเกิดมาสามารถก้าวเดินได้ 7 ก้าวเลยนั้นเป็นไปไม่ได้ เพราะมนุษย์เกิดมาเดินไม่ได้หากพระพุทธเจ้าเดินได้ 7 ก้าวทำไมไม่เดินต่อไปหลังจากนั้น ซึ่งเพจที่ตนเองมาแจ้งความดำเนินคดีได้ตัดต่อคลิปไปเฉพาะช่วงที่พูดถึงพญานาคและพระพุทธเจ้า ประกอบกับเพจเฟสบุ๊กดังกล่าวได้มีการชี้นำทำให้ตนเองเหมือนคนหมิ่นศาสนา
แนะ"พุทธะอิสระ"อย่ายุ่งทางโลกมาก
นายมาร์ค พิทบูล ยังระบุถึงกรณีที่ถูกหลวงปู่พุทธอิสระ เข้าแจ้งความเอาผิดตนเองฐานหมิ่นพระพุทธศาสนา ที่กองบังคับการปราบปรามด้วยว่า ตนเองไม่อยากจะแจ้งความกลับเพราะพระพุทธอิสระ มีคดีความเยอะแล้วไม่อยากจะให้มีคดีเพิ่มอีก จึงไม่อยากจะเข้าไปยุ่งด้วย เพราะที่ผ่านมาตนชื่นชมในสิ่งที่พระพุทธอิสระทำในเรื่องการปราบโกง แต่ไม่อยากให้พระพุทธอิสระ ลงมายุ่งทางโลกมากเกินไป
ส่วนในวันที่ 5 พ.ค.61 ที่จะถึงนี้ตนเองจะเดินทางไปกราบขอโทษผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชบพิธ สถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร กรุงเทพมหานคร ในเรื่องที่ทำให้ประชาชนเข้าใจผิดว่าตนเองดูหมิ่นศาสนาด้วย
เปิดประวัติ"มาร์ค พิทบูล"
สำหรับ "มาร์ค พิทบูล" เป็นสมญานามของ "มาร์ค-ณัชพล สุพัฒนะ" ปัจจุบันอายุ 51 ปี เป็นประธานชมรมมิตรภาพพิทบูล และเป็นเจ้าของเว็บไซต์และเพจ Pitbullzone ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 6 แสนคน มีฐานแฟนคลับอย่างเหนียวแน่น เป็นที่รู้จักจากการเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องพฤติกรรมสุนัขพันธุ์ดุอย่าง "พิทบูล" และเป็นนักวิพากษ์วิจารณ์ความไม่เป็นธรรมของสังคมอย่างตรงไปตรงมา นิสัยไม่กลัวใคร จนเป็นที่รู้จักในวงกว้าง นอกจากนี้ยังเคยเป็นคนระดมเงินทุน 1 ล้านบาทเพื่อช่วยเหลือนางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร หรือ ครูจอมทรัพย์ ด้วย
"มาร์ค พิทยบูล" เป็นคน จ.จันทบุรี แต่ก่อนครอบครัวทำธุรกิจเหมืองพลอย มีพี่น้อง 4 คนโดยมาร์คเป็นคนสุดท้อง จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากคณะบริหารธุรกิจ สาขาวิชาการโฆษณาและการประชาสัมพันธ์ และระดับปริญญาโท ด้านบริหารธุรกิจ จากประเทศสหรัฐอเมริกา
ส่วนที่มาของสมญานามของ "มาร์ค พิทบูล" มาจากกรณีที่เขามีความชื่นชอบสุนัขและเลี้ยงไว้ตั้งแต่สมัยเรียนที่เมืองนอก เมื่อกลับมาเมืองไทยในปี ค.ศ. 2000 จึงหอบหิ้ว "อเมริกัน พิทบูล เทอร์เรีย" สุนัขพันธุ์ดุที่สุดในโลกกลับมาด้วย ซึ่งไม่เพียงแต่เลี้ยงดู เจ้าตัวยังถ่ายทอดเรื่องราวประสบการณ์ เทคนิคการดูแล ตลอดจนรณรงค์ให้คนเลี้ยงสุนัขอย่างถูกต้องไม่สร้างปัญหาให้กับสังคม โดยเผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์ของตัวเอง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี