ระดมขับเคลื่อน‘ไทยนิยมยั่งยืน’
เกษตรชูผลงานจังหวัดเลย
ใช้‘การตลาด’นำการผลิต
ช่วยสร้างจุดแข็งให้สินค้า
นายประสงค์ ประไพตระกูล รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่ติดตามการขับเคลื่อนงานของ กรมส่งเสริมการเกษตรที่ จ. เลย นั้น ใน 2 ประเด็น คือ 1.การขับเคลื่อนงานตามนโยบายหลักของกระทรวงเกษตรฯ 15 โครงการ ซึ่ง จ.เลย เป็นจังหวัดที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก มีประมาณ 14 อำเภอ ดังนั้นการปฏิบัติงานจึงค่อนข้างที่จะคล่องตัว โดยใน 2561 มีการตั้งเป้าหมาย มีการวางแผน และมีผลการดำเนินงานมาได้ระดับหนึ่งแล้ว ส่วนจุดแข็งของจังหวัด คือ การทำงานในด้านของการส่งเสริมพัฒนาอาชีพ โดยเฉพาะด้านการผลิตพืช มีการสนองนโยบายของ กระทรวงเกษตรฯ โดยการใช้แผนการตลาดนำการผลิต ดังนั้นจึงไม่ค่อยมีปัญหาในเรื่องของตลาดสินค้าเกษตรเกือบทุกชนิดพืช ไม่ว่าจะเป็นข้าว ยางพารา ถั่วเหลือง ถั่วเขียว ไม้ดอก และพืชตระกูลส้ม เป็นต้น เนื่องจากมีตลาดรองรับแน่นอน
2.โครงการไทยนิยมยั่งยืน ซึ่งในส่วนของกรมส่งเสริมการเกษตร มี 4 โครงการหลักที่ลงสู่ จ.เลย ได้แก่ 2.1) โครงการฝึกอาชีพเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนไว้เพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งเกษตรกรได้ขึ้นทะเบียนไว้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และธนาคารออมสิน โดยธนาคารจะส่งรายชื่อมาให้กับทางสำนักงานเกษตรเพื่อให้เข้าไปสอบถามความต้องการและฝึกอบรม ให้เกษตรกรสามารถนำความรู้ใหม่ๆไปพัฒนาอาชีพได้ 2.2) โครงการพัฒนาอาชีพชาวสวนยางรายย่อยเพื่อความยั่งยืน โดยส่งเสริมให้เกษตรกรหันมาปลูกพืชอื่นแซมในสวนยางพารา เพื่อสร้างรายได้ขึ้นมาทดแทนราคายางที่ตกต่ำ 2.3) โครงการเสริมสร้างรายได้ให้เกษตรกรรายย่อย ที่มีรายได้ต่อปีน้อยกว่า 30,000 บาทต่อครัวเรือน และได้รับการคัดกรองรายชื่อแล้ว ไปอบรมผ่านศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพสินค้าการเกษตร(ศพก.) และ 2.4) โครงการพัฒนาเกษตรกรรุ่นใหม่ Young Smart Farmer
ด้าน นายสมจิตร ธีระบุญชัยกุล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 4 ขอนแก่น กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของเจ้าหน้าที่เองก็ต้องเข้าไปสร้างการรับรู้ เสนอทางเลือก เสนออาชีพให้เกษตรกร เพื่อให้เกิดความมุ่งมั่น อยากจะพัฒนาอาชีพ โดยมีพี่เลี้ยงเป็นตัวกระตุ้น และใช้องค์ความรู้ทางการเกษตรทั้งหมดเข้าไปเติมเต็มให้กับเกษตรกร ซึ่งนอกเหนือจากเจ้าหน้าที่แล้ว ศูนย์ปฏิบัติการต่างๆ ของกรมส่งเสริมการเกษตรก็ต้องเตรียมความพร้อมที่จะเติมเต็มความรู้ให้กับเกษตรกร ตลอดจนเป็นที่รองรับและเป็นศูนย์หลักที่จะช่วยพัฒนาอาชีพให้กับเกษตรกรที่เลือกแล้วว่าจะพัฒนาอาชีพอะไร เพื่อจะช่วยเสริมรายได้ให้มากขึ้น โดยหลังจากการฝึกอบรมเกษตรกรเรียบร้อยแล้ว เกษตรกรต้องสามารถทำได้เลย โดยมีงบประมาณของรัฐบาลเข้าไปช่วยส่วนหนึ่ง เกษตรกรส่วนหนึ่ง ถ้ายังไม่เพียงพอก็สามารถกู้เงินจาก ธ.ก.ส.เพิ่มเติมได้ ส่วนศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการเกษตร (ศพก.) ซึ่งมีอยู่ในทุกอำเภอของจังหวัดเลย ต้องเป็นศูนย์กลางการประสานให้กับเกษตรกรมารวมกันคิด รวมกันวิเคราะห์สภาพปัญหาของตนเองให้ได้ ก่อนจะส่งมอบให้กับศูนย์ปฏิบัติการต่างๆ เข้าไปฝึกอบรม และที่สำคัญที่สุดคือ ทางจังหวัด อำเภอ และสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 4 ขอนแก่น จะต้องเข้าไปช่วยกันขับเคลื่อน กำกับ ติดตาม เพื่อให้แผนงานที่วางไว้ทั้งหมดบรรลุเป้าหมายให้ได้ ทั้งนี้ ทางจังหวัดเลยได้เตรียมความพร้อม ทั้งในเรื่องของพื้นที่ บุคลากร ไว้เรียบร้อยแล้ว รอเพียงงบประมาณจากส่วนกลางอนุมัติมาให้ เพื่อใช้ในการดำเนินการต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี