3 พ.ค.61 ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(บก.ปอท.) พระอธิการวุฒิไกร ญาณวุโฒ สัมฤทธิ์ เจ้าอาวาสวัดหนองหินใหญ่ ต.สายห้วยแก้ว อ.บ้านหมี่ จ. ลพบุรี พร้อมพระปลัดอรรถพร กตปุญโญ เพื่อนพระวัดใกล้เคียง เดินทางเข้าพบ พ.ต.ต.หญิง อัมพร จันทะวงศ์ สว.(สอบสวน) กก.1 บก.ปอท. แจ้งว่า เมื่อวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 09.00 น. ขณะอยู่ที่วัด ได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนในเฟซบุ๊คของอาตมา ถามว่าท่านได้ไปเที่ยวยืมเงินใครในเฟซบุ๊คหรือไม่ เพราะตัวเขาเพิ่งได้รับข้อความติดต่อเข้ามาทางแมสเซนเจอร์ ในบัญชีชื่อ “พระวุฒิไกร ญาณวุฑโฒ สัมฤทธิ์” สอบถามเข้ามาว่าโอนเงินทางมือถือได้หรือไม่ ถ้าได้ก็จะขอยืมเงินค่าของก่อนจำนวน 5,800 บาท
อาตมาจึงรีบเปิดเข้าไปดูเฟซบุ๊คส่วนตัวที่มีเพื่อนอยู่จำนวน 1,844 คน ซึ่งอาตมายังเข้าได้อยู่ พบว่าในกล่องสนทนาของความทางแมสเซนเจอร์มีคนร้ายแฮกเข้ามา แล้วส่งข้อความไปขอยืมเงินเพื่อนๆ ในเฟซบุ๊คคนละ 5,800 บาท บางรายก็จะส่งสติกเกอร์โบกมือทักไป ถ้ารายใดโบกมือตอบก็จะส่งข้อความขอยืมเงินค่าของก่อน 5,800 บาททันที บอกจะคืนให้ตอน 6 โมงเย็น
อาตมาจึงรีบโพสต์ประกาศในสเตตัสแจ้งให้เพื่อนในเฟซฯ ทุกคนทราบว่า “ขณะนี้มีผู้ไม่หวังดียังออนไลน์อยู่ ...อย่าหลงเชื่อการโอนเงินให้อาตมา...พรุ่งนี้จะไปแจ้งความที่ศูนย์ป้องกันปราบปรามทางคอมฯ....”
หลังจากนั้นไม่นานก็มีเพื่อนในเฟซบุ๊ค ทยอยแจ้งเข้ามาว่าได้หลงกลโอนเงินไปให้คนร้ายแล้ว จำนวน 4 ราย เป็นพระด้วยกัน 2 ราย ฆราวาส 2 ราย โดนคนร้ายติดต่ออ้างตัวเป็นอาตมาขอยืมเงิน จะให้โอนไปบัญชีธนาคารกสิกรไทย บัญชี 039-804-8520 และธนาคารออมสิน บัญชี 020-239-383-555 ในนามนายเชาวลิต ยมพิมาย
ทั้งนี้ ขณะคนร้ายที่แฮกเฟซบุ๊ค ใช้บัญชีเฟซบุ๊คอาตมาอยู่ ก็ไม่ได้เปลี่ยนชื่อเจ้าของบัญชีและรหัสผ่านแต่อย่างใด อาตมาเองก็พยามยามเข้าไปแจ้งเตือนคนที่โดนหลอกยืมเงินให้ทราบ แต่ก็แจ้งได้ไม่ทันคนร้าย จนเวลาผ่านไปถึงเที่ยงวัน อาตมาจึงเดินทางไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.บ้านหมี่ เพื่อต้องการให้ตำรวจอายัดเงินที่มีคนหลงเชื่อโอนเงินให้คนร้าย แต่ได้รับแจ้งว่าทางผู้เสียหายที่ถูกหลอกโอนเงินจะต้องเป็นผู้ไปแจ้งความในท้องที่ที่เกิดเหตุเพื่ออายัดเงิน อาตมาจึงแจ้งความลงประจำวันไว้ว่าถูกแฮกเฟซบุ๊คไว้เป็นหลักฐาน แล้วบอกให้เพื่อนในเฟซบุ๊ครายใดที่โดนหลอกให้ไปแจ้งความท้องที่ทันที
“วันนี้อาตมายังไม่ได้เปลี่ยนชื่อบัญชีและรหัส คนร้ายก็ยังเข้าเฟซบุ๊คอาตมาอยู่ จึงได้เดินทางมาเพื่อพบพนักงานสอบสวน บก.ปอท. เพื่อจะให้ช่วยตรวจสอบและให้คำแนะนำว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี” พระอธิการวุฒิไกร กล่าว
พระอธิการวุฒิไกร กล่าวถึงการใช้โซเชี่ยลฯ ว่าเพิ่งเล่นมาประมาณ 2 ปี จะใช้สำหรับการเผยแพร่พระพุทธศาสนา และแจ้งข่าวสารกิจกรรมต่างๆของทางวัด ให้บรรดาญาติโยมทราบว่าในแต่ละวันทางวัดจัดงานมีกิจกรรมใดบ้าง ส่วนคนร้ายก็สงสารอยากจะฝากเตือนที่หลงผิดทำสิ่งเลวร้ายเหล่านี้ อยากให้เขาเลิกทำดีกว่าจะต้องตกนรกไปมากกว่านี้
ด้าน พ.ต.ต.หญิง อัมพร ได้นิมนต์พระอธิการวุฒิไกร เข้าไปพบพนักงานสืบสวน เพื่อให้ความช่วยเหลือแก้ไข และตรวจสอบให้คำแนะนำในด้านคดีต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี