กรมชลฯ เตรียมพร้อมข้อมูลรับ ครม.สัญจร จ.บุรีรัมย์ - สุรินทร์ เล็งพัฒนาแหล่งน้ำเพิ่ม 6 โครงการ รองรับใช้น้ำมากขึ้นปีละ 6% วางเป้านักท่องเที่ยวเพิ่ม2.5 ล้านคน"
6 พ.ค.61 ที่โครงการชลประทานบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน เป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อม ในโอกาสที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะรัฐมนตรี มีกำหนดการลงพื้นที่ตรวจราชการและประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ จ.บุรีรัมย์ และสุรินทร์ ระหว่างวันที่ 7 - 8 พ.ค. นี้
นายทองเปลว กล่าวว่าข้อมูลที่นำเสนอครม.ในเรื่องสถานการณ์น้ำของพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้มีการเตรียมความพร้อมในเรื่องของเครื่องจักร เครื่องมือ และกำลังเจ้าหน้าที่ เพื่อสนับสนุนการช่วยเหลือทั้งภัยแล้งและอุทกภัยไว้แล้ว รวมทั้งข้อมูลทิศทางการพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 1 ข้อมูลโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยตลาด - ห้วยจระเข้มาก ซึ่งเป็นการพัฒนาโครงข่ายน้ำและการบริหารจัดการน้ำแบบบูรณาการ เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำในพื้นที่เศรษฐกิจและชุมชนจ.บุรีรัมย์ เป็นต้น
อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่าในส่วนจ.บุรีรัมย์ ได้มีการพัฒนาโครงข่ายน้ำและการบริหารจัดการน้ำแบบบูรณาการในการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำในพื้นที่เศรษฐกิจ ชุมชน จ.บุรีรัมย์ เนื่องจากปัจจุบันมีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจค่อนข้างมาก มีการขยายผังเมืองจาก 19 ตารางกิโลเมตร เป็น 191 ตารางกิโลเมตร รวมทั้งมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวมากถึงปีละประมาณ 1.5 ล้านคน จากเป้าหมายในปีนี้ 2.5 ล้านคน ทำให้มีความต้องการใช้น้ำ เพื่อการอุปโภค-บริโภคเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 6 % อย่างต่อเนื่องมากว่า 5 ปีแล้ว จากเดิมที่ 5 ปีที่แล้ว ใช้น้ำดิบในการผลิตประปาในพื้นที่เศรษฐกิจเดือนละ 8 แสนลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.)
ปัจจุบันเพิ่มขึ้นเป็นเดือนละ 1.6 ล้าน ลบ.ม. ทำให้มีน้ำที่ใช้ในภาคการเกษตรน้อยลง ซึ่งน้ำที่ใช้ในการอุปโภคบริโภคมาจากอ่างเก็บน้ำในความดูแลของกรมชลประทาน ได้แก่ อ่างเก็บน้ำห้วยจระเข้มาก ความจุ 26.022 ล้าน ลบ.ม. สนับสนุนพื้นที่เกษตรกรรม 10,672 ไร่ และอ่างเก็บน้ำห้วยตลาด มีความจุ 27.818 ล้าน ลบ.ม. สนับสนุนพื้นที่เกษตรกรรม 14,836 ไร่ จากปัญหาที่เกิดขึ้น กรมชลประทานและจังหวัดบุรีรัมย์ จึงได้ร่วมกันวางแนวทางในการแก้ไขปัญหา ดังนี้
1. ก่อสร้างคลองเชื่อมอ่างเก็บน้ำเป็นลักษณะอ่างฯพวง เพื่อนำน้ำจากอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำมากไปเก็บไว้ในอ่างฯที่มีน้อย และยังเป็นการแก้ไขปัญหาอุทกภัยในพื้นที่เขตเศรษฐกิจด้วย
2. เพิ่มความจุอ่างเก็บน้ำห้วยตลาดอีก 4.8 ล้าน ลบ.ม.
3. ขุดลอกอ่างเก็บน้ำ
4. ก่อสร้างคลองผันน้ำจากลำปะเทีย – อ่างเก็บน้ำห้วยตลาด ระยะทางประมาณ 30 กม. แบ่งเป็น 6 ช่วง ได้รับประมาณแล้วอยู่ในระหว่างก่อสร้าง 4 ช่วง โดยใช้งบประมาณจากกรมชลประมาณและกลุ่มจังหวัด ปัจจุบันรอการสนับสนุนงบประมาณอีก 2 ช่วง วงเงินงบประมาณ 99 ล้านบาท สามารถนำน้ำส่วนเกินจากลำปะเทียมาเก็บในอ่างเก็บน้ำห้วยตลาดและห้วยจระเข้มากให้เต็มความจุทุกปี เพื่อเสริมความมั่นคงทางน้ำ (water security) ในการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำในเขตเศรษฐกิจ และเพิ่มพื้นที่การเกษตรตามแนวทางคลองผันน้ำได้อีกไม่น้อยกว่า 5,000 ไร่
5. พัฒนาและแก้ไขปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้งซ้ำซาก ในพื้นที่ด้านท้ายอ่างเก็บน้ำในลำคะโคง ไปจนถึงจุดที่ไหลลงแม่น้ำมูล
6. การพัฒนาพื้นที่รอบอ่างเก็บน้ำเพื่อสนับสนุนเมืองท่องเที่ยวและกีฬา ด้วยการบูรณาการหน่วยงานต่างๆ อาทิ กรมชลประทาน สำนักงานจังหวัดบุรีรัมย์ ทางหลวงชนบทจังหวัด เขตห้ามล่า/อนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด โยธาธิการและผังเมือง องค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ รวมทั้งภาคเอกชน โดยมีจังหวัดเป็นศูนย์กลาง โดยการก่อสร้างทางจักรยาน จุดพักผ่อน ศูนย์เรียนรู้ นกกระเรียนพันธุ์ไทย ฯลฯ ทั้งนี้ การพัฒนาในรูปแบบ (model) นี้ ได้นำไปพัฒนาและบริหารจัดการลุ่มน้ำในลักษณะบูรณาการ กับลำน้ำอื่นๆ ในจังหวัดบุรีรัมย์ เช่น ลำปลายมาศ ลำพังชู จนสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างเป็นรูปธรรมต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี