เกษตรฯหนุนตลาดเกษตรอินทรีย์อีสานล่าง เน้นผลิตสินค้าเกษตรคุณภาพด้วยหลักธรรมชาติ หวังตอบโจทย์ผู้รักสุขภาพ ช่วยเพิ่มรายได้เกษตรกร
10 พ.ค.61 นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงาน "มหกรรมเกษตรอินทรีย์และของดี 4 จังหวัดอีสานล่าง 2" ที่ จ.อุบลราชธานี ว่า การส่งเสริมเกษตรอินทรีย์เป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ต้องเร่งขับเคลื่อนการดำเนินงานให้เกิดเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น เพื่อปรับทิศทางการผลิตของภาคเกษตรให้สอดรับกับสถานการณ์โลก ซึ่งปัจจุบันประชากรโลกได้ตระหนักถึงความสำคัญของความปลอดภัยด้านอาหาร กระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสวัสดิภาพของผู้ผลิต การผลิตตามแนวทางเกษตรอินทรีย์เป็นทางเลือกหนึ่งของเกษตรกรในการผลิตสินค้าเกษตรด้วยหลักธรรมชาติ หลีกเลี่ยงการใช้ปัจจัยการผลิตจากการสังเคราะห์ ไม่ใช้สารเคมี ปุ๋ยเคมี ฮอร์โมนสังเคราะห์และไม่ใช้พืชที่การดัดแปลงพันธุกรรม (GMOs) มีการจัดการผลผลิต และแปรรูปเพื่อรักษาสภาพและคุณภาพเกษตรอินทรีย์ในทุกขั้นตอน
ในส่วนยุทธศาสตร์การพัฒนาเกษตรอินทรีย์แห่งชาติ พ.ศ.2560 - 2564 มีเป้าหมายในการเพิ่มพื้นที่เกษตรอินทรีย์ไม่น้อยกว่า 600,000 ไร่ เพิ่มจำนวนเกษตรกรที่ทำเกษตรอินทรีย์ไม่น้อยกว่า 30,000 ราย เพิ่มสัดส่วนตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์ในประเทศต่อตลาดส่งออก โดยมีสัดส่วนตลาดในประเทศร้อยละ 40 ต่อตลาดส่งออกร้อยละ 60 และยกระดับกลุ่มเกษตรอินทรีย์วิถีพื้นบ้านเพิ่มขึ้น รวมทั้งยังได้กำหนดนโยบายในการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืน ให้ได้ 5,000,000 ไร่ ภายในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 และเกษตรอินทรีย์ก็เป็นกิจกรรมในการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืน
ทั้งนี้ ในส่วนกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 2 จ.อุบลราชธานี ศรีสะเกษ ยโสธร และอำนาจเจริญ ได้กำหนดยุทธศาสตร์ในการพัฒนา คือ การเพิ่มมูลค่าข้าวหอมมะลิ พืชเศรษฐกิจ ปศุสัตว์ และประมง ด้วยอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปและมาตรฐานสินค้าเกษตรอินทรีย์ มีเป้าหมายในการพัฒนาคือ จำนวนพื้นที่ผลิตข้าวหอมมะลิอินทรีย์และสินค้าเกษตรอินทรีย์อื่นๆ ที่ได้มาตรฐานเป้าหมายรวม 4 ปี ตั้งแต่ปี 2561 - 2564 จำนวน 1,000,000 ไร่ โดยได้กำหนดจุดยืนการพัฒนา (Positioning) คือศูนย์กลางของนวัตกรรมเกษตรแปรรูปและเกษตรอินทรีย์ (Hup of innovation for Specialized and Organic Agriculture : HI-SO Agriculture)
อย่างไรก็ตาม การจัดงานมหกรรมเกษตรอินทรีย์และของดี 4 จังหวัดอีสานล่าง 2 ในครั้งนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 10 - 16 พ.ค.61 ณ บริเวณลานอุบลสแควร์ จ.อุบลราชธานี ถือเป็นกิจกรรมที่มีความสำคัญในการส่งเสริมให้การปฏิบัติงานตามยุทธศาสตร์เกษตรอินทรีย์สำเร็จตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ ตลอดจนเป็นการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข้อมูลสินค้าเกษตรอินทรีย์ ผลิตภัณฑ์สถาบันเกษตรกร สร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการส่งเสริมเกษตรอินทรีย์ เพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าเกษตรอินทรีย์ ตลอดจนเป็นการสร้างกระบวนการในการพัฒนาเกษตรอินทรีย์ในลักษณะประชารัฐ ซึ่งหากเกษตรกรสามารถทำเกษตรอินทรีย์ได้ จะช่วยให้สินค้าเกษตรที่ปลูก ขายได้ราคาดีขึ้นจากเดิม 2 - 3 เท่า และตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าผู้รักสุขภาพอีกด้วย
นอกจากนี้ นายกฤษฏา ยังได้ถือโอกาสเยี่ยมชมแปลงต้นแบบมันสำปะหลังอินทรีย์ และโรงแป้งมันอุบลเกษตรพลังงาน บริษัทในเครือกลุ่มบริษัทอุบลไบโอเอทานอล รวมทั้งพบปะเกษตรกรต้นแบบมันอินทรีย์ 100 คน จาก 4 อำเภอ ได้แก่ อ.นาเยีย อ.สว่างวีรวงศ์ อ.พิบูลมังสาหาร และ อ.วารินชำราบ ทั้งนี้ จากการสรุปข้อมูลของสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 4 เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการมีผลผลิตเฉลี่ย 4.5 ตันต่อไร่ มีรายได้เพิ่มขึ้นจากเดิม 8,000 บาทต่อไร่ เป็น 15,000 บาทต่อไร่ ซึ่งนับว่ามีรายได้และผลผลิตเพิ่มขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี