รมว.เกษตรฯยืนยัน"ยูเอ็น-ธนาคารโลก"ไม่เคยตั้งงบมาปล่อยกู้เป็นรายบุคคลให้เกษตรกรหรือบริษัทเอกชนรายใด ออกโรงเตือนเกษตรกรอย่าหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อ สั่งเจ้าหน้าที่เดินหน้าตรวจสอบเอาผิดขบวนการที่เกี่ยวข้อง
10 พ.ค.61 นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยกรณีเกษตรกรร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรม ได้รับความเสียหายจากที่มีบริษัทอ้างว่าได้เงินทุนจากสหประชาชาติ (ยูเอ็น) และธนาคารโลก จำนวนมากมาปล่อยให้เกษตรกรยากจนกู้รายละ 1 - 15 ล้านบาท แต่ขณะนี้ยังไม่มีใครได้รับเงินกู้ ทั้งนี้ เกษตรกรกังวลเรื่องเอกสารหลักฐานสำเนาบัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน บัญชีธนาคาร ได้ส่งไปให้บริษัทดังกล่าวแล้วเกรงว่าจะนำเอกสารไปดำเนินการด้านการเมือง หรือธุรกรรมอื่นๆ รวมทั้งบริษัทนี้มีสมาชิกกว่า 6 หมื่นรายนั้น ยืนยันว่าที่ผ่านมายูเอ็น ไม่เคยมีการตั้งงบมาปล่อยกู้เป็นรายบุคคลให้เกษตรกร หรือบริษัทเอกชนรายใด และหากจะมีการช่วยเหลือใดๆ เกิดขึ้นจะต้องผ่านมาทางรัฐบาลเท่านั้น ดังนั้น อย่าหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อ ซึ่งผู้ที่ได้รับความเสียหายแล้วให้เข้าร้องเรียนได้ที่ศูนย์ดำรงธรรมประจำจังหวัด นอกจากนี้ ยังสั่งเจ้าหน้าที่กระทรวงเกษตรฯ ทุกจังหวัด เดินหน้าตรวจสอบสอบถามเกษตรกรในพื้นที่ เพื่อเอาผิดขบวนการที่เกี่ยวข้องทันที
ด้าน นายพีรพันธ์ คอทอง ผู้ช่วยปลัดกระทรวงเกษตรฯ กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน จ.สุรินทร์ และกองบัญชาการตำรวจสันติบาล ว่าเครือข่ายบริษัทนี้ มี นายพิชย์พิพรรธ ศรีตระกูลรักษ์ หรือ พันปี หรือปีเตอร์ และทีมงาน ได้เคยถูกออกหมายจับในคดีฉ้อโกงหลายพื้นที่ รวมทั้งสำนักงานเลขานุการคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาระบบเกษตรพันธสัญญา (สลท.) ได้เคยรับเรื่องร้องเรียนจากประธานกรรมการบริหารบริษัท ไซนี่ อินเตอร์คอร์ปอเรชั่น จำกัด และที่ปรึกษาสหกรณ์การเกษตร วัน วัน วัน จำกัด ขอให้แจ้งเตือนและตรวจสอบกรณีบริษัท พันปี กรุ๊ป ผิดข้อตกลงสัญญาซื้อขายข้าว วงเงินเสียหายกว่า 23 ล้านบาท พร้อมกับแจ้งความดำเนินคดีฉ้อโกง
ทั้งนี้ บริษัทดังกล่าวมีเครือข่ายกว่า 153 แห่ง กระจายในภาคอีสาน 5 จังหวัด ที่ได้รับการร้องเรียนจากเกษตรกร ที่บริษัทชักชวนเกษตรกรเข้าเป็นสมาชิกทำเกษตรพันธสัญญา โดยบริษัทอ้างว่าจะให้เงินไปส่งเสริมการลงทุนปลูกพืช เลี้ยงโคเนื้อ ซึ่งเกษตรและสหกรณ์จังหวัด ได้รายงานมาเบื้องต้นพบเกษตรกรได้รับความเสียหาย เช่น จ.สุรินทร์ บุรีรัมย์ บึงกาฬ อุบลราชธานี และสกลนคร โดยจะไปรวบรวมเอกสารหลักพิสูจน์ทราบก่อน เช่น เรื่องการชักชวนให้เกษตรกรไปอบรม จ่ายค่าอบรมรายละ 200 บาท และให้ไปชักชวนกันมาให้ครบ 4 พันราย ชักชวนปลูกอินทผาลัม จ.บึงกาฬ
โดยก่อนหน้านี้บริษัทได้มาจดแจ้งทำธุรกิจเกษตรพันธสัญญา กับสำนักงานเลขานุการคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาระบบเกษตรพันธสัญญา (สลพ.) ของกระทรวงเกษตรฯ เมื่อวันที่ 2 เม.ย.61 ได้แจ้งในชื่อบริษัท พันปีกรุ๊ป ไทย ลาว กัมพูชา จำกัด แต่ขณะนี้ยังไม่ปรากฎข้อมูลว่าบริษัทนี้ได้ทำสัญญาในระบบเกษตรพันธสัญญา เนื่องจากยังไม่จัดส่งสำเนาเอกสารสำหรับการชี้ชวนให้สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรฯ ซึ่งผู้ประกอบธุรกิจต้องจัดส่งภายใน 30 วัน ตามประกาศกระทรวงเกษตรฯ เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการในการจัดส่งและเก็บรักษาเอกสารสำหรับการชี้ชวนเกษตรกรในระบบเกษตรพันธสัญญา หากไม่ดำเนินการต้องถูกปรับ 3 แสนบาท และเพิกถอนการจดแจ้ง รวมทั้งดำเนินการตามกฎหมายอาญา หากบริษัทมีเจตนาหลอกลวงด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จทำให้เกษตรกรเข้าทำสัญญากับบริษัท ทำเอกสารสิทธิ ถือว่าการกระทำความผิดฐานฉ้อโกง ตามกฎหมายอาญามาตรา 341 และเมื่อการกระทำได้ทำต่อประชาชน จึงมีความผิดฐานฉ้อโกง ในมาตรา 343 ซึ่งเป็นความผิดอาญาแผ่นดิน
นอกจากนี้ การกระทำของบริษัท พันปีกรุ๊ป ตามที่ปรากฏสื่อออนไลน์ต่างๆ เป็นการกระทำที่มีลักษณะโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วนก่อให้เกิดความเสียหายต่อประชาชน มาตรา 14 ของ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ทั้งนี้ มาตรการต่อไปได้ให้เจ้าหน้าที่เกษตรทุกจังหวัด เร่งลงพื้นที่ตรวจสอบเรื่องนี้รวบรวมหลักฐานจากเกษตรกร หากพบความผิดให้ส่งฟ้องดำเนินคดีในแต่ละพื้นที่ด้วยเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรอย่างใกล้ชิด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงเกษตรฯ ยังได้รับรายงานด้วยว่ายังมีโครงการรากหญ้า ที่บริษัทอ้างว่าได้รับเงินจากยูเอ็น มาปล่อยกู้ให้คนยากจนในไทยรายละ 4 - 5 แสนบาท โดยมีแม่ข่ายลงไปชักชวนประชาชนแบบเคาะประตูบ้าน เช่น จ.เชียงใหม่ เชียงราย ทั้งนี้ ล่าสุดผู้บริหารบริษัทเครือข่ายพันปี ได้ส่งคลิปปลุกระดมสมาชิกกว่า 60,000 คน ให้เชื่อมั่นในบริษัท อย่าหวั่นไหวต่อกระแสข่าว และประกาศจะฟ้องทางการไทยต่อศาลโลก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี