11 พ.ค.61 นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงการขยายผลสอบสวนคดีค้ามนุษย์สถานอาบอบนวด “วิคตอเรีย ซีเครท” ซึ่งมีธุรกรรมการเงินกู้ 300 ล้านบาท เชื่อมโยงระหว่างนายกำพล วีระเทพสุภรณ์ เจ้าของวิคตอเรียซีเครท กับ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(อดีต ผบ.ตร.) ว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ได้ดำเนินคดีอาญานายกำพล กับพวก ในความผิดฐานร่วมกันค้ามนุษย์ และความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง ซึ่งการสอบสวนเสร็จสิ้น และสรุปสำนวนการสอบสวน พร้อมความเห็นส่งพนักงานอัยการ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายแล้ว
นายธวัชชัย กล่าวอีกว่า ส่วนการขยายผลตามที่ปรากฏข้อเท็จจริงอันน่าเชื่อว่านายกำพล นำทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ ซึ่งเป็นความผิดตามกฎหมายฟอกเงินไปเปลี่ยนสภาพทรัพย์สิน เพื่อซุกซ่อน หรือปกปิดแหล่งที่มาของเงินดังกล่าว รวมทั้งกระทำด้วยวิธีการต่างๆ เพื่อปกปิดอำพรางลักษณะที่แท้จริงของการได้มาซึ่งทรัพย์สิน หรือยักย้าย ถ่ายเท จำหน่ายจ่ายโอนทรัพย์สินดังกล่าวไปยังบุคคลประมาณ 40 รายนั้น ดีเอสไอได้แยกการสอบสวนเป็นคดีพิเศษ และเชิญผู้เกี่ยวข้องมาสอบสวนถึงพฤติการณ์ในการโอน รับโอนเงิน ว่ามีมูลหนี้หรือที่มาอย่างไร มีลักษณะที่เข้าข่ายเป็นความผิดหรือไม่ รวมทั้งมีการสอบสวนสถาบันการเงิน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อทราบข้อเท็จจริง ซึ่ง พล.ต.อ.สมยศ ก็ถูกดีเอสไอเชิญมาสอบปากคำด้วย ขณะนี้คดียังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน เนื่องจากมีธุรกรรมการเงินจำนวนมากต้องตรวจสอบ
ด้าน พ.ต.ท.สุภัทร์ ธรรมธนารักษ์ ผู้อำนวยการกองคดีค้ามนุษย์ ดีเอสไอ กล่าวว่า หลังการสรุปสำนวนสั่งฟ้องคดีค้ามนุษย์ และคดีค้าประเวณี ซึ่งเป็นความผิดหลักในชั้นสอบสวน ดีเอสไอได้อายัดทรัพย์ไว้ประมาณ 400 ล้านบาท หลังจากนี้จะตรวจสอบรายการทรัพย์สินของกลางกับรายการอายัดทรัพย์ของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) มูลค่ากว่า 400 ล้านบาท เพื่อไม่ให้อายัดซ้ำกัน นอกจากนี้จะเร่งดำเนินการกับทรัพย์สินของบุคคลที่เป็นเอเยนต์นำเด็กหญิงเข้ามาค้าประเวณีในสถานประกอบการต่างๆ แยกชุดสอบสวนเส้นทางการเงินที่เกี่ยวข้อง
“ในการจับกุมและดำเนินคดีค้ามนุษย์กับสถานอาบอบนวด วิคตอเรียซีเครท ทำให้เจ้าของอาบอบนวดที่เคยคิดว่าไม่ต้องร่วมรับผิด เพราะไม่เกี่ยวข้องกับการสั่งนำเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีมาค้าประเวณี ต้องคิดใหม่ เพราะการกระทำผิดในคดีค้ามนุษย์ต้องถูกยึดทรัพย์ ไม่ว่าจะเอาคนสวน คนขับรถ หรือนอมินี มาถือหุ้นแทน เมื่อพบหลักฐานเชื่อมโยงทางการเงินสุดท้ายก็ต้องถูกยึดทรัพย์ด้วย” พ.ต.ท.สุภัทร์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี