ความคืบหน้ากรณี พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว(รอง ผบช.ทท.) นำกำลังบุกไปค้นคอนโดฯ ย่านพหลโยธิน เพื่อเข้าจับกุม พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล ในฐานะประธานที่ปรึกษาบริษัท พัฒนาตลาดใหม่ดอนเมือง ซึ่งถูกออกหมายจับรวด 9 หมาย ในข้อหาร่วมกันกรรโชกทรัพย์ผู้ค้าในตลาดใหม่ดอนเมือง แต่ไม่พบตัวผู้ใด กระทั่งเมื่อช่วงค่ำวันที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.สันธนะ เผยตัวว่าหลบอยู่ที่บ้านเลขที่ 219 ถนนประดิษฐ์มนูธรรม แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นบ้านของบิดา เนื่องจากเดินทางไปกราบเท้าพ่อ เพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนที่ช่วงเช้าวันที่ 12 พ.ค. เวลา 06.30 น. พ.ต.ท.สันธนะ พร้อมทนายความ ได้ตัดสินใจเดินทางไปที่ สน.โชคชัย เพื่อมอบตัว โดยถอดเสื้อโชว์แสดงความบริสุทธิ์ใจ
ต่อมาเวลา 08.30 น.วันที่ 12 พ.ค.61 ที่ สน.โชคชัย พ.ต.ท.สันธนะ กล่าวว่า เวลาผ่านไปชั่วโมงเศษ เหตุที่ต้องรอ เนื่องจากการนำหมายจับมาแสดงแล้วจับกุมตัวตามที่ทราบจากสื่อแล้วว่าไม่ได้มีเพียงหมายจับเดียว ตนจึงแจ้งความประสงค์ว่าหากมีหมายจับ จับกุมตนแล้วเป็นความผิดในคดีเดียวกัน คือ ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ ขอให้นำหมายจับทั้งหมดมาแจ้งข้อหาตนที่ สน.โชคชัย
ส่วนประเด็นที่ 2 เป็นแบบที่ตนระวังเอาไว้ ในหมายแรกที่นำมาแสดงบอกว่าเป็นการเชิญตัวตนจากหน้าบ้านคุณพ่อมา แต่เมื่อมาถึง สน.เป็นการแสดงหมายจับ แล้วจับกุมตัวตน ไม่ใช่เป็นเรื่องของการมอบตัว ซึ่งตนแสดงเจตนาตั้งแต่เมื่อคืนแล้วว่าจะไม่หลบหนี และขอมอบตัว แต่เมื่อถึงสถานการณ์จริงกลับกลายเป็นว่าตนจะถูกจับกุมตัว จึงต้องใช้สิทธิในการต่อรอง เพราะตนไม่ยื่นประกันอยู่แล้วที่ สน.ดอนเมือง เมื่อนำตัวตนไปฝากขังที่ศาลยุติธรรม ศาลจะต้องพึงพิจารณาว่าคดีนี้ผู้ต้องหา
เมื่อไม่มีการระบุว่ามอบตัวก็แสดงว่าเป็นการจับกุมตัว และจับกุมตัวโดยมีหมายจับถึง 8-9 ใบ ซึ่งมีผลต่อการอนุญาตให้สิทธิตนในการปล่อยตัวชั่วคราว หากไม่นำหมายมาแสดงตนก็จะรอ สุดท้ายได้ข้อสรุปว่า สน.ดอนเมือง จะนำหมายจับที่เหลือ 8 ใบมา
พ.ต.ท.สันธนะ กล่าวอีกว่า ตนอยากทราบจริงๆว่าหมายจับที่ตนโดนข้อหากรรโชกทรัพย์นั้น ตนไปกรรโชกทรัพย์ใคร จึงได้เปิดหมายจับดู แต่เป็นหมายจับที่ค่อนข้างผิดปกติ ไม่ระบุว่าผู้เสียหายคือใคร ซึ่งคดีกรรโชกทรัพย์แตกต่างจากคดีทั่วไป จะต้องมีผู้เสียหาย ตนจึงอยากรู้ว่าผู้เสียหายเป็นใคร ซึ่งวันเวลาเกิดเหตุระบุต้นเดือน เม.ย. 2559-25 เม.ย.2561 ต่อเนื่องกัน แสดงว่าช่วงเวลาดังกล่าวตนไปรีดไถเขา
“คุณระวังให้ดี ช่วง 2 ปีที่คุณระบุ ต้องมีวันเวลา เกิดเหตุ ช่วงเวลา 2 ปี ผมบินเข้า-ออกไปต่างประเทศเมื่อไหร่ แล้วคุณไปให้การว่าผมไปไถคุณ วันที่นั้นเดือนนั้นเดือนนี้ แล้วบังเอิญตัวผมไปอยู่ที่ต่างประเทศ เดี๋ยวจะตกม้าตาย เตือนไว้ให้รีบไปแก้ไข เดี๋ยวจะโดนกลับทั้งหมด ผมจะไม่เซ็นชื่อ หากมีการลงบันทึกว่าเป็นการจับกุมตัว ไม่ใช่การมอบตัว ก็ให้บันทึกหมายเหตุไป เพราะผมจะไม่เซ็น เรื่องนี้ทุกท่านทราบว่าไม่ใช่ความประสงค์ของผมเพียงคนเดียว มาเล่นเกมแบบนี้ ก็ต้องเข้าใจว่าเจตนาหรือจุดประสงค์คืออะไร ส่วนเรื่องหลักทรัพย์ผมเตรียมพร้อมอยู่แล้ว เพราะผมไม่ต้องการจะหลบหนี และไม่ทราบว่าจะหลบหนีใคร เพราะผมไม่ผิด” พ.ต.ท.สันธนะ กล่าว
ต่อมาเวลา 10.00 น. พล.ต.ต.ธีระพงษ์ วงษ์รัฐพิทักษ์ ผบก.น.4 ซึ่งเดินทางมาที่ สน.โชคชัย ตั้งแต่เมื่อเวลา 09.10 น. กล่าวว่า การควบคุมตัว พ.ต.ท.สันธนะ ในครั้งนี้คือการจับกุม โดย พ.ต.ท.สันธนะ ต่อรองไม่ยอมเซ็นชื่อรับทราบว่าถูกจับกุม เนื่องจากจะมีผลต่อการขอประกันตัว แต่หลังจากเจรจากัน พ.ต.ท.สันธนะ ก็ยอมเซ็นรับทราบแต่โดยดี ขั้นตอนต่อไปคือการควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง เพื่อดำเนินการตามขั้นตอน และอยู่ที่พนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง ว่าจะคัดค้านการประกันตัวหรือไม่ หากคัดค้านทางเจ้าหน้าที่มีอำนาจควบคุมตัวไว้ 48 ชม. เพื่อส่งฝากขังศาลอาญารัชดาในวันที่ 14 พ.ค. เวลาไม่เกิน 12.00 น. ต่อไป
ต่อมาเวลาประมาณ 10.15 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวพ.ต.ท.สันธนะ ขึ้นรถตู้ตำรวจไปที่ สน.ดอนเมือง โดย พ.ต.ท.สันธนะ เดินออกมาพร้อมแสดงเอกสารเซ็นรับทราบการถูกจับกุม ก่อนเดินขึ้นรถตู้ไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
+ น้ำตามาเฟีย!‘สันธนะ’ร่ำไห้เปิดใจ ท้าตร.เดิมพันชีวิตพ่อแม่ ถอดเสื้อมอบตัวโชว์บริสุทธิ์(ประมวลภาพ)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี