14 พ.ค.61 จากกรณีที่ผู้บริหาร กทม.ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าที่ต้องการเข้าไปบริหารหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานครเอง เพราะต้องการอยากใช้พื้นที่ที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์กว่าที่เป็นอยู่ กระทั่งเกิดกระแสคัดค้านจากศิลปินและคนในหลากหลายแวดวง รวมถึงการรณรงค์ลงชื่อค้านผ่านเว็บไซต์ change.org ซึ่งมีผู้ลงชื่อกว่า 10,000 ราย ในเวลาเพียง 2 วันนั้น
ล่าสุด นายปวิตร มหาสารินันทน์ ผู้อำนวยการหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ระบุว่า การที่ผู้บริหาร กทม.ออกมาระบุในเรื่องนี้ ขออธิบายขอเท็จจริงว่า แต่ละปี หอศิลปฯ กทม.มีกิจกรรม 400 กว่ากิจกรรม นิทรรศการงานศิลปะจากทั่วทุกมุมโลก รวมถึงนักเรียนนักศึกษาอีก 100 กว่ากิจกรรมต่อปี กิจกรรมแต่ละปีที่จัดขึ้นมีเสียงสะท้อนจากผู้ใช้บริการทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ กลับมีเสียงสะท้อนบอกว่ากิจกรรมที่จัดเยอะเกินไป จึงไม่แน่ใจว่าใช้พื้นที่ที่มีอยู่ไม่เกิดประโยชน์ได้อย่างไร
ส่วนพื้นที่โล่งในหอศิลปฯ ในทางศิลปะ ต้องมีพื้นที่ว่างเพื่อสุนทรียะในการชมงานศิลปะด้วย หากผู้บริหาร กทม.นำสถานที่นี้ไปเทียบกับตลาด หรือศูนย์การค้า ก็คงจะไม่ถูกนัก เพราะพื้นที่ถูกสร้างมาคนละจุดประสงค์ และที่ผ่านมาการทำให้ผู้คนรู้จักหอศิลปฯ ก็ดีขึ้นต่อเนื่อง วัดจากคนที่มาเที่ยวชมปีที่แล้วมีมากถึง 1.7 ล้านคน
นายปวิตร กล่าวว่า ส่วนในเฟซบุ๊กผู้ว่าฯ กทม.ที่ระบุว่าอยากพัฒนาหอศิลปฯ ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ หรือ Co-Working Space ต้องมีโต๊ะเก้าอี้ 2,000 ชุด เพิ่มเติมให้เด็กๆ นั้น หอศิลปฯ สร้างขึ้นมาเป็นแหล่งเรียนรู้ในตัวอยู่แล้ว เป็นแหล่งเรียนรู้ที่ไม่จำเป็นต้องมีโต๊ะเก้าอี้เป็นพันๆ ตัว และจากการทำแบบสำรวจพบว่า ร้อยละ 35 ที่มาใช้บริการเป็นนักเรียนและนักศึกษา กลุ่มเหล่านี้มาเรียนรู้ในสิ่งที่อยากรู้ เรียนรู้ในสิ่งที่ในสถานศึกษาให้ไม่ได้ เพราะทุกวันนี้นอกจากงานศิลปะ ยังเชิญนักวิทยาศาสตร์มาบรรยาย เป็นวิธีการให้ความรู้ที่หลากหลาย เพราะทุกอย่างเกี่ยวข้องกับศิลปะทั้งหมด
"นิทรรศการศิลปะต่างๆ ที่เราทำขึ้นมาในแต่ละปี อยากรู้ว่าถ้า กทม.เข้ามาบริหาร กทม.จะทำได้ไหม ถ้าเป็นนิทรรศการพวกวาดรูป หรือปั้นดินน้ำมัน คงจะไม่ทำ ส่วนที่บอกว่าหากที่เป็นอยู่บริหารดีอยู่แล้วหรือไม่คงไม่ขอตอบ ต้องให้ประชาชนเป็นคนตัดสิน ย้อนกลับไปดูสิ่งที่ กทม.ทำอย่างพิพิธภัณฑ์เด็ก กทม.เป็นอย่างไร ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับผู้ว่าฯ กทม.ว่าฟังเสียงประชาชน หรือคนของท่านเอง" นายปวิตร กล่าว
นายปวิตร กล่าวอีกว่า ส่วนกระแสข่าวที่บอกว่า ผู้ว่าฯ กทม.ไปเดินที่หอศิลปฯ และเจอภาพนักเรียนนอนอ่านหนังสือกับพื้น ติวการบ้านเป็นกลุ่มกับพื้นที่ เรื่องนี้ตนในฐานะอาจารย์ที่มาหอศิลป์ตั้งแต่เปิดบริการในปี 2551 จนกระทั่งมารับหน้าที่ผู้อำนวยการที่นี่ ยืนยันว่าไม่มีภาพในลักษณะนี้ ถามว่ามีกิจกรรมที่ต้องนั่งพื้นหรือไม่ ต้องบอกว่ามี แต่เด็กๆ ที่ร่วมกิจกรรมทางหอศิลปฯ ก็เตรียมเบาะรองไว้ให้ ตลอด 2 เดือนที่มารับตำแหน่ง เดินตรวจพื้นที่ในหอศิลปฯ ตลอด ห้องสมุดไม่เคยเต็ม มีพื้นที่ว่างให้เด็กตลอด
"ถ้าท่านระบุมาแบบนี้ขอหลักฐาน ที่ผ่านมาท่านผู้ว่าฯ กทม.มาหอศิลปฯ ในฐานะประธานที่ปรึกษาฯ แค่ 2 ครั้ง และมาในช่วงมีงานกิจกรรม จึงอยากจะเชิญให้ท่านมาเดิมเยี่ยมชมว่าแท้จริงภายในหอศิลปฯ เป็นอย่างไร การบริหารงานสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับงานศิลปะ มีผู้เกี่ยวข้องอยู่ 3 ส่วน คือ ศิลปิน ผู้สนับสนุน และผู้ชม ตอนนี้เหมือนกับว่ากำลังมีปัญหากัน ควรจะต้องมีการพูดคุยทำความเข้าใจกันอย่างจริงจัง ปัญหาจะคลี่คลายได้" นายปวิตร กล่าว
และว่า สำหรับแนวทางการเคลื่อนไหวหลังจากนี้ คงจะรอความชัดเจนจากทางผู้บริหาร กทม.เพราะทราบว่าในวันพรุ่งนี้ (15 พ.ค.) จะมีการประชุมหารือเพื่อหาข้อสรุปอย่างชัดเจนอีกครั้ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ‘อัศวิน’แจงปมกทม.ยึด‘หอศิลป์’ ลั่นปชช.ไม่ให้ยุ่งพร้อมถอย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี