เจ้าหน้าที่ตำรวจวิสามัญ 'ติ๊ก บ้านกล้วย' เอเย่นยาบ้ารายใหญ่และผู้ต้องหาตามหมายจับคดียาเสพติด ศาลจังหวัดสุโขทัย หลังชุดสืบติดตามจับกุมแต่ยิงต่อสู้จนถูกวิสามัญค้นภายในรถพบยาบ้าอีก 3,000 เม็ด
16 พ.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 22.00 น. (15 พ.ค.61) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภาค 6 ภายใต้การนำของ พล.ต.ต.ภาณุ บุรณศิริ ผบก.สส.ภ.6 , พ.ต.อ.สมพร ทองรอด รอง ผบก.สส.ภ.6 , พ.ต.อ.ราเมศ แก้วสูงเนิน ผกก.กก.สส.2 บก.สส. , พ.ต.ต.เจนรบ เนติรัตนไพบูลย์ สว.กก.สส.2 ได้วิสามัญ นายกิตติ แป้นเกิด หรือ "ติ๊ก บ้านกล้วย" อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับคดียาเสพติด ศาลจังหวัดสุโขทัย หลังจากตำรวจชุดสืบสวน ติดตามรถและพยายามเข้าจับกุมตัว แต่นายกิตติ ได้จอดรถและใช้ปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้เจ้าหน้าที่ตัดสินใจยิงตอบโต้และถูกนายกิตติเสียชีวิตคาที่ ริมถนนทางลูกรัง ติดคลองชลประทาน ม.3 บ้านสะพานหิน ต.พรหมพิราม อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก
ต่อมาทาง พล.ต.ต.ถาวร แสงฤทธิ์ ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก ได้เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.ท.สุรวัจน์ สุรวัฒน์มนตรี รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.พรหมพิราม เจ้าหน้าที่ชุดพิสูจน์หลักฐาน 6 เจ้าหน้าที่อัยการจังหวัดแพทย์เวร และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิประสาทบุญสถาน พบว่าผู้ตายถูกยิงเข้าที่บริเวณเอว หน้าท้องและศรีษะและที่ข้างลำตัวมีอาวุธปืนขนาด.38 ตกอยู่
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้ทำการตรวจค้นเบื้องต้นภายในรถโตโยต้าแคมรี่ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ชอ1165 กรุงเทพมหานคร พบยาบ้าจำนวนกว่า 3,000 เม็ด อยู่ภายในรถอีกด้วย
สำหรับ นายกิตติ แป้นเกิด หรือ "ติ๊ก บ้านกล้วย" ถือเป็นผู้ต้องหารายสำคัญเพราะเป็นเอเย่นต์ระดับหัวหน้าเครือข่ายยาบ้าท่าขี้เหล็ก และเป็นผู้ต้องหายาเสพติดตามหมายจับของศาลจังหวัดสุโขทัย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี