16 พ.ค.61 นายสัตวแพทย์(น.สพ.) สมชวน รัตนมังคลานนท์ รองอธิบดี และโฆษกกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า กรมปศุสัตว์มอบหมายให้ด่านกักกันสัตว์นครพนม จัดตั้งเป็นศูนย์เฉพาะกิจกักกันสัตว์เสี่ยงโรคพิษสุนัขบ้า ตั้งแต่วันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยรับสุนัขและแมวที่มีความเสี่ยงในการได้รับเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า จากจังหวัดใกล้เคียง ได้แก่ ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ มหาสารคาม และมุกดาหาร ซึ่งสุนัขและแมวส่วนใหญ่ไม่มีผู้แสดงตนเป็นเจ้าของ และประชาชนในชุมชนที่เกิดโรคพิษสุนัขบ้า รวบรวมนำส่งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ เพื่อนำมากักกัน สังเกตอาการ และเฝ้าระวังโรค ตามมาตรการควบคุมป้องกันโรคในสัตว์ รวมถึงเป็นการลดความเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรคพิษสุนัขบ้าสู่คนและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดอื่นในพื้นที่เกิดโรค
ทั้งนี้ ในระหว่างการกักกันนั้น เจ้าหน้าที่ของศูนย์เฉพาะกิจฯ ได้มีการแยกเพศ ขนาด และอายุ เพื่อง่ายต่อการดูแล การให้อาหาร และการจัดการทั่วไป การคัดแยกสัตว์ป่วยเพื่อทำการรักษา และที่สำคัญสัตวแพทย์ประจำศูนย์เฉพาะกิจฯ ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าทุกตัว ตัวละ 4 ครั้ง ห่างกันครั้งละ 4 วัน โดยการกักกัน สังเกตอาการ และเฝ้าระวังโรค จะใช้เวลาอย่างน้อย 6 เดือน จึงจะถือว่าปลอดภัยจากโรคพิษสุนัขบ้า หลังจากนั้นกรมปศุสัตว์จะติดต่อเจ้าของ สัตว์ให้มารับกลับ หรือกรณีที่สัตว์ไม่มีเจ้าของจะพิจารณาดำเนินการหาบ้านใหม่ หรือส่งต่อให้สถานที่พักพิงสัตว์ที่มีความพร้อมรับดูแลต่อไป
“จากการรายงานของศูนย์เฉพาะกิจฯ พบว่า เริ่มต้นรับสุนัขและแมวมาตั้งแต่ต้นปี โดยมีการทยอยนำเข้าจากพื้นที่เกิดโรคพิษสุนัขบ้าในจังหวัดใกล้เคียง ในระหว่างการกักกันนั้น ได้มีสุนัขและแมวเสียชีวิตจำนวนหนึ่งด้วยโรคพิษสุนัขบ้า โรคลำไส้อักเสบ โรคไข้หัดสุนัข โรคพยาธิในเม็ดเลือด โรคปอดบวม เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นสุนัขขนาดเล็กที่อายุ น้อยกว่า 4 เดือน มีที่มาจากหลากหลายพื้นที่ ไม่มีประวัติการได้รับวัคซีนป้องกันโรค ไม่มีการถ่ายพยาธิ มีความเครียดจากการ เคลื่อนย้าย ทำให้ภูมิคุ้มกันต่ำ สุขภาพไม่แข็งแรง มีการป่วยตายได้ง่ายและรวดเร็ว” น.สพ.สมชวน กล่าว
น.สพ.สมชวน กล่าวอีกว่า ปัจจุบันศูนย์เฉพาะกิจฯยังคงมีสุนัขและแมวที่อยู่ในระหว่างการสังเกตอาการ และการเฝ้าระวังโรค รวมประมาณ 700 ตัว คาดว่าในเดือน มิ.ย.นี้ จะมีสุนัขที่ครบกำหนดการกักกัน 6 เดือน และมีความปลอดภัยจากโรคพิษสุนัขบ้า 120 ตัว ส่วนที่เหลือจะทยอยครบกำหนดการกักกันภายในเดือน ต.ค.61
อย่างไรก็ตาม ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ของศูนย์เฉพาะกิจฯเพิ่มเติมอาหารที่เหมาะสมกับสัตว์ป่วย การทำความสะอาดคอก และรางอาหาร ระมัดระวังการจับบังคับสัตว์ให้เหมาะสม การสังเกตอาการสัตว์ป่วยในระยะเริ่มต้น การเพิ่มจำนวนสัตวแพทย์และเครื่องมือตรวจวินิจฉัยโรคสำหรับดูแลรักษาฟื้นฟูสุขภาพสัตว์ รวมทั้งฝึกอบรมคนงานให้มีความรู้ความเข้าใจในการจัดการทั่วไปมากยิ่งขึ้น โดยจะได้เปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลสุนัขและแมวในรูปแบบโครงการประชารัฐร่วมใจ ป้องกันภัยโรคพิษสุนัขบ้า เพื่อให้การดูแลสุนัขและแมวในศูนย์เฉพาะกิจฯมีประสิทธิภาพ มากยิ่งขึ้นต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี