‘พระผู้ใหญ่’ไปเมืองนอก
ไพบูลย์แฉซ้ำ
พฤติกรรมเข้าข่ายฟอกเงิน
ใช้วิธีซิกแซ็กโอน25ล้าน
เข้าบัญชีแม่บ้านก่อนเบิก
บิ๊กปูลุยคดีคลังแสง‘ร.ท.’
สั่งสอบเข้าข่ายผู้มีอิทธิพล
“ศรีวราห์” ลุยคดีค้นบ้านพัก “ร.ท.” พบคลังแสงย่อยๆ สั่งสอบการครอบครองเข้าข่ายผู้มีอิทธิพลหรือไม่ ลั่นถ้าเกี่ยวข้องเงินทอนวัดฟันไม่ไว้หน้า ขณะที่“ไพบูลย์” แฉพระผู้ใหญ่ซิกแซ็กโอน 25 ล้าน เข้าบัญชีแม่บ้านก่อนเบิกออกมาใช้ ปูดตอนนี้ไปอยู่เมืองนอกชี้พฤติกรรมเข้าข่ายฟอกเงิน เช็คประวัตินายทหารเข้า-ออกวัดสระเกศ
เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) แถลงความคืบหน้ากรณีพ.ต.อ.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1 บก.ป. บุกค้นบ้านพักในหมู่บ้านสีวลีรามคำแหง ถ.ราษฎร์พัฒนา (ซอยมิสทีน) แขวงและเขตสะพานสูง กทม.เพื่อหาหลักฐานคดีทุจริตเงินทอนวัดหลังพบว่าพระผู้ใหญ่โอนเงิน 25 ล้านบาทเข้าบัญชีธนาคารของน.ส.นุชรา สิทธินอก อายุ 32 ปี แม่บ้านในบ้านหลังดังกล่าว ซึ่งมีนายทหารยศ ร.ท. สังกัดศูนย์รักษาความปลอดภัย กองบัญชาการกองทัพไทย แสดงตัวเป็นเจ้าของบ้าน
พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวว่า จากการประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) และหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด หรืออีโอดีตรวจสอบเบื้องต้น พบปืนทั้งหมดมีทะเบียนถูกต้อง แต่กำลังตรวจสอบการครอบครองถูกต้องหรือไม่ อีกทั้ง มอบให้พนักงานสอบสวน บก.ป.สอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานกรณีครอบครองอาวุธปืนทั้งหมดเข้าข่ายเป็นผู้มีอิทธิพล เพื่อพิจารณาขอศาลออกหมายจับต่อไป
ขณะเดียวกัน ฝ่ายความมั่นคงมุ่งตรวจสอบประเด็นครอบครองอาวุธปืนที่มีจำนวนมากว่า มีที่มาอย่างไร ถูกใช้งานในเหตุการณ์ใดหรือไม่ ยืนยันว่าต้องพิจารณาแจ้งความดำเนินคดีแน่นอน ส่วนตัวนายทหารยศ ร.ท.ที่เป็นข้าราชการ ถ้าพบประเด็นเข้าข่ายความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ตามมาตรา 157 ก็ต้องส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ดำเนินการต่อ
สำหรับความเกี่ยวพันกับคดีเงินทอนวัดนั้น พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวว่า อยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวน ถ้าใครเกี่ยวข้องจะดำนินคดีทั้งหมด แต่รายละเอียดไม่สามารถเปิดเผยได้ เกรงกระทบสำนวนคดี ทั้งนี้ ที่ตนมาดำเนินการวันนี้ เพราะตรวจพบปืนจำนวนมาก ต้องตรวจสอบ เนื่องจากอาจเกี่ยวพันกับคดีความมั่นคง
ด้านพล.ต.คณิศร สุนทรธีมากร ผู้ช่วยผู้บัญชาการศูนย์รักษาความปลอดภัย คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)เผยว่า ในส่วนกฎหมายเป็นหน้าที่พนักงานสอบสวน ยังต้องรอผลสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ส่วนทางวินัยยังไม่ได้พิจารณา สำหรับกรณีครอบครองปืนจำนวนมากนั้น ไม่สามารถระบุหรือจำกัดได้ว่า ทหารต้องมีอาวุธอยู่ในครอบครองเท่าใด เพียงแต่ว่าหลังจากนี้ เมื่อมีหลักฐานปรากฎ เป็นหน้าที่พนักงานสอบสวนตรวจสอบที่มาถูกต้องหรือไม่ แต่ภารกิจของทหารสังกัด ศรภ.ก็ไม่ได้มีความจำเป็นต้องใช้อาวุธปืนมากขนาดนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักข่าว”อิศรา”เปิดเผยประวัติของนายทหารยศ ร.ท. เจ้าของบ้านที่น.ส.นุชรา สิทธินอก อายุ 32 ปี ชาวจ.บุรีรัมย์ ทำงานเป็นแม่บ้านอยู่ว่า เคยเป็นเลขานุการนายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโลภาส ช่วงดำรงตำแหน่งเป็นผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เพิ่งได้รับบรรจุเป็นข้าราชการกลาโหมพลเรือนชั้นสัญญาบัตร เมื่อวันที่ 9 ก.พ.ปี และมีข่าวสนิทกับพระผู้ใหญ่ในวัดสระเกศด้วยเนื่องจาก มารดาของร.ท.คนนี้เปิดบริษัทรับทำสื่อประชาสัมพันธ์ของวัดสระเกศ
ส่วนนายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส อดีตผู้ว่าฯ สตง. กล่าวผ่านสำนักข่าวอิศราว่า นายทหารคนดังกล่าวเคยมาติดตามช่วยงานตนในช่วงที่ดำรงตำแหน่งเป็นผู้ว่าฯ สตง. อยู่ระยะหนึ่ง เป็นคนที่มีความคล่องตัวในการทำงาน เท่าที่ทราบมารดาของเขาเปิดบริษัทและได้รับว่าจ้างงานสื่อประชาสัมพันธ์ของวัดสระเกศอยู่ ส่วนรายละเอียดอื่น ไม่ทราบข้อมูลอะไรมาก
สำหรับประวัติของน.ส.นุชรานั้น เป็น 1 ในผู้ถือหุ้นห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) แห่งหนึ่ง จดทะเบียนจัดตั้ง เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2552 ทุน 3,500,000 บาท แจ้งที่อยู่ตามบ้านของร.ท.คนดังกล่าว แจ้งประกอบธุรกิจผลิตรายการโทรทัศน์
ด้านนายไพบูลย์ นิติตะวัน ผู้ก่อตั้งพรรคประชาชนปฏิรูป กล่าวถึงกรณีการตรวจสอบทุจริตเงินทอนวัดที่พบมีพระชั้นผู้ใหญ่ในวัดใหญ่ในกทม.เกี่ยวข้องว่า เป็นกระบวนการทุจริตงบประมาณแผ่นดินของพระชั้นผู้ใหญ่ โดยนำเงินหลวงมาเข้าบัญชีวัด จากนั้นก็โอนเงิน 25 ล้านบาท ไปเข้าบัญชีของสีกา แล้วให้สีกาเบิกเงินเป็นแคชเชียร์เช็คสั่งจ่ายคืนให้กับตนที่เป็นพระชั้นผู้ใหญ่ระดับกรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) แล้วนำไปใช้ต่อ
“พฤติกรรมเช่นนี้ทำให้เชื่อได้ว่า เข้าข่ายฟอกเงินที่ได้จากการทุจริตเงินหลวง ล่าสุดผมทราบว่า พระชั้นผู้ใหญ่ระดับกรรมการ มส.รายนี้ อยู่ที่ต่างประเทศ”นายไพบูลย์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี