"ฉัตรชัย”ตั้งคณะทำงานร่วม “ฆราวาส-พระสงฆ์”ขับเคลื่อน 6ด้าน ขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพสงฆ์ 3 ข้อให้รายงานผลก.ค.
18 พ.ค. 61 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรีกล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2561 ว่าในที่ประชุมยังได้ติดตามความคืบหน้าเรื่องธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติซึ่งเกิดขึ้นเมื่อต้นปีที่ผ่านมา โดยมีการจัดตั้งคณะทำงานที่มีฆราวาส และพระสงฆ์ทำงานร่วมกัน และมีแนวทางการขับเคลื่อน 6 ด้าน
"ผมได้สั่งการไปว่า ในเมื่อเรามีกฎหมาย มีระเบียบ และวิธีการก็อยากจะเห็นการขับเคลื่อนในเรื่องดังกล่าว ให้เกิดขึ้นจริงพร้อมกับให้รายงานผลในเดือนก.ค.นี้ รวมถึงยังพบว่า มีพระสงฆ์ที่มีสุขภาพไม่แข็งแรงเป็นจำนวนมาก โดยไม่มีกติกาอะไรรองรับ และยังเล็งเห็นว่า พระสงฆ์จะเป็นแกนนำที่ดีให้กับประชาชนในเรื่องการดูแลสุขภาพ จึงมีการตั้งพระคิลานุปัฏฐาก ที่มีหน้าที่รับผิดชอบในเรื่องการออกระเบียบ กำกับดูแลกติกาและสร้างองค์ความรู้ให้กับพระสงฆ์" พล.อ.ฉัตรชัย กล่าว
เมื่อถามว่า เรื่องนี้จะมีการเปิดรับฟังความคิดเห็นจากพระสงฆ์หรือไม่ พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวว่า มหาเถรสมาคมเห็นชอบธรรมนูญ มาตั้งแต่ต้นและประกาศใช้ไปแล้ว
ด้านนพ.พลเดช ปิ่นประทีป เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า ทั้งนี้สาระสำคัญของธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติมี 3 ข้อ คือ
1.พระสงฆ์จะดูแลสุขภาพของตัวเองอย่างไร เพราะพระสงฆ์จะฉันอาหารได้เฉพาะอาหารที่ประชาชนนำไปถวายได้เท่านั้น พระสงฆ์จึงเลือกไม่ได้ ซึ่งในธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ เขียนว่าพระสงฆ์จะดูแลสุขภาพตัวเองได้จะต้องทำอย่างไร
2.บทบาทของญาติโยมในการดูแลอุปัฏฐากพระสงฆ์ หากพระสงฆ์อาพาธและอยู่ติดเตียง แพทย์และญาติโยมจะดูแลและปฏิบัติอย่างไร
3.บทบาทของพระสงฆ์ในฐานะผู้ให้ความรู้และเป็นผู้นำในเรื่องสุขภาพที่สามารถสอดแทรกความรู้เหล่านี้ได้ในการเทศนา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี