20 พ.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าว่า กรณี พ.ต.ท.กิตติพงษ์ พันธุ สารวัตร (สอบสวน) เจ้าของคดีได้รับแจ้งและตรวจสอบอุบัติเหตุรถกระบะอีซูซุ สีฟ้า ทะเบียน ผธ 1778 นครราชสีมา บรรทุกคนงานสาวจำนวน 12 คน เกิดเฉี่ยวชนชนประสานงารถจักรยานยนต์ ก่อนเสียหลักพุ่งตกข้างทางชนกระแทกกับเสาไฟฟ้าแรงสูง บริเวณถนนสายขามทะเลสอ – ด่านขุนทด กม.3 สามแยกไฟแดงสีมุม อ.ขามทะเลสอ จ.นครราชสีมา เมื่อช่วงเย็นวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา มีผู้บาดเจ็บ 13 ราย รวมคนขับรถ 1 ราย
โดยช่วงค่ำในเวลาต่อมาผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตที่โรงพยาบาล 3 ราย คือ นางชาลิสา แก่กลางดอน อายุ 46 ปี นางละม่อม กุนกลางดอน อายุ 54 ปี และนางสมพร เหลาศรี อายุ 53 ปี ทั้ง 3 คน นั่งโดยสารมาในรถกระบะ ส่วนคนขับรถกระบะ คือ นายวสันต์ พักสันเทียะ อายุ 42 ปี บาดเจ็บสาหัส และคนขับขี่รถจักรยานยนต์คู่กรณี คือ นายนายทองแดง จิ๋ววิเศษ อายุ 63 ปี บาดเจ็บสาหัสเช่นกัน
ล่าสุด ศูนย์รับแจ้งเหตุหน่วยกู้ภัยฮุก 31 นครราชสีมา รายงานว่า มีผู้บาดเจ็บทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย ที่ รพ.เทพรัตน์นครราชสีมา 1 ราย ทราบชื่อนายทองเจือ กาจกลางดอน อยู่บ้านเลขที่ 152 หมู่ 7 ต.บ้านวัง อ.โนนไทยฯ รวมมีผู้เสียชีวิตแล้ว 4 ราย ส่วนผู้บาดเจ็บรายอื่นๆ ยังรักษาตัวอยู่ห้องฉุกเฉิน รพ.เทพรัตน์นครราชสีมา รวมถึงคนขับรถกระบะอาการสาหัส ส่วนคนขับรถจักรยายนต์บาดเจ็บขาหัก ซึ่งจากการตรวจสอบผู้บาดเจ็บ จำนวน 9 ราย ยังมีอีก 3 ราย ที่อาการสาหัสอยู่ห้อง ไอซียู ร่างกายตอบสนองช้า อาการโคม่า แพทย์อยู่ระหว่างการยื้อชีวิตและเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด
ล่าสุด ญาติๆได้ติดต่อขอรับศพผู้เสียชีวิต โดยพันที่เกิดเหตุญาติได้ติดต่อ 2 รายที่ รพ.ขามทะเลสอ คือ นางละม่อม กุลกลางดอน และนางชาลิสา แก่กลางดอน ท่ามกลางความโศกเศร้าของสามี ลูก ๆ และญาติพี่น้อง พร้อมยอมรับว่าอุบัติเหตุครั้งนี้กะทันหันมาก สร้างความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ เพราะผู้ตายเป็นภรรยา และแม่ของลูก ๆ เป็นเสาหลักทำงานหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว
ส่วนสาเหตุที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 4 ราย ส่วนใหญ่เป็นสาวโรงงานที่นั่งโดยสารมาท้ายกระบะ ถูกแรงอัดกระแทกอย่างรุนแรงจนศีรษะกระทบกระเทือน ร่างกายบอบช้ำภายใน บางคนถูกแรงกระแทกจนกระดูกหน้าอกแทงทะลุปอดก่อนทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในที่สุด ส่วนเรื่องของการชดใช้ค่าเสียหายอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
พ.ต.ท.กิตติพงษ์ พันธุ สารวัตร(สอบสวน) สภ.ขามทะเลสอ เจ้าของคดี เปิดเผยว่า อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดจากรถจักรยานยนต์ที่มีนายทองแดง จิ๋ววิเศษ อายุ 63 ปี เป็นคนขับมาตามลำพังคนเดียว เลี้ยวข้ามทางแยกตัดหน้ารถกระบะในระยะกระชั้นชิด ประกอบกับช่วงนั้นเกิดฝนตกพร่ำถนนลื่นมากทำให้รถกระบะซึ่งบรรทุกคนงานรวม 12 คนมาจาก ต.บ้านวัง อ.โนนไทย จะไปส่งโรงงานในเขต อ.สูงเนิน เบรกไม่อยู่และลื่นไถลพุ่งชนท้ายรถจักรยานยนต์จนกระเด็นไปไกล 10 เมตร ก่อนลื่นไถลเสียหลักพุ่งข้ามฟุตบาตรตกข้างทางฝั่งซ้ายจนกระแทกกับเสาไฟฟ้าแรงสูงอย่างจัง จนหน้ารถกระบะพังยับเยินจนถึงเครื่องแตก ผู้โดยสารที่นั่งท้ายกระบะถูกแรงอัดกระแทกจนร่างกายช้ำใน กระดูกซี่โครงทิ่มปอด ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตรวมแล้ว 4 ราย ขณะเกิดเหตุมีฝนตกโปรยปราย เป็นสาเหตุที่ทำให้รถเบรกไม่อยู่ โดยเบื้องต้นทราบว่าคนขับขี่รถจักดรยานยนต์น่าจะเป็นต้นเหตุที่ประมาท ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างสอบปากคำผู้บาดเจ็บทั้งหมดและรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อสรุปหาสาเหตุที่ชัดเจนอีกครั้งก่อนแจ้งข้อหาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ขณะที่ญาติ ๆ ได้ติดต่อขอรับศพผู้เสียชีวิต 2 รายที่ รพ.ขามทะเลสอ คือ นางละม่อม กุลกลางดอน และนางชาลิสา แก่กลางดอน ท่ามกลางความโศกเศร้าของสามี ลูก ๆ และญาติพี่น้อง พร้อมยอมรับว่าอุบัติเหตุครั้งนี้สร้างความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ เพราะผู้ตายเป็นภรรยา และแม่ของลูก ๆ เป็นเสาหลักทำงานหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว หลายคนถึงกับร้องไห้หลั่งน้ำตาด้วยความเสียใจ ไม่คิดว่าจะต้องสูญเสียคนอันเป็นที่รักอย่างกะทันหัน
นายทองใส เหลาศรี อายุ 53 ปี สามีของนางสมพร เหลาศรี อายุ 54 ปี สาวโรงงานที่เสียชีวิต เล่าน้ำตาคลอเบ้าว่า ภรรยาทำงานโรงงานมาเกือบ 10 ปี ได้ค่าแรงขั้นต่ำวันละ 320 บาท เดินทางไปกลับทุกวัน ขณะเกิดเหตุภรรยานั่งอยู่ตอนท้ายของรถกระบะ ถูกแรงอัดกระแทกกับหัวเก๋งรถจนกระดูกซี่โครงหักทิ่มปอดและเสียชีวิตในที่สุด ก่อนเดินทางภรรยาพูดเป็นลางว่า ให้ดูแลเลี้ยงลูกและหลานให้ดี ไม่คิดว่าจะเป็นวาระสุดท้ายของชีวิต.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี