21 พ.ค. 61 จากกรณีเมื่อช่วงค่ำวันที่ 20 พ.ค. เกิดเหตุลอบวางระเบิดขึ้นในหลายจุดของ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ ยะลา ,ปัตตานี , สงขลา และนราธิวาส ล่าสุดเมื่อวันที่ 21 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา
พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมด้วย พลตรีจตุพร กลัมพสูต ผบ.ฉก.ปัตตานี ได้เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดตู้กดเงินเอทีเอ็ม ในเขตเทศบาลเมืองปัตตานีรวม 4 จุด หน้าธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) , ธนาคารอิสลาม ถนนยะรัง, ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารออมสิน หน้าวิทยาลัยเทคนิค ซึ่งคนร้ายใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ กระจายกำลังนำระเบิดแสวงเครื่องจุดชนวนด้วยแบตเตอรี่รถมาไว้ในที่เกิดเหตุ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 คน
แม่ทัพภาคที่ 4 ระบุ กล่าวว่า เหตุระเบิดตู้เอทีเอ็มเงียบหายไปนาน 5-6 ปี โดยกลุ่มที่มาก่อเหตุต้องการแสดงศักยภาพว่าได้กลับมาอีกแล้ว เป็นการกระทำของแนวร่วมรุ่นเก่า ขณะนี้รู้ตัวแล้วรอรวบรวมพยานหลักฐาน คิดว่าไม่ยาก เพราะกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ได้ ส่วนในการรักษาความปลอดภัย ยังคงเข้มงวดเหมือนเดิม จะไม่ประมาท โดยเฉพาะจุดล่อแหลม จะปรึกษากับธนาคาร จัดหา รปภ.มาช่วยดูแล หรืออาจจะมีมาตรการอื่นให้มากขึ้น ซึ่งคงต้องรอเจรจากับผู้เกี่ยวข้องแต่ฝ่ายก่อน เพื่อมุ่งรักษาความปลอดภัยให้แก่พี่น้องประชาชน
ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานปัตตานีได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อตรวจสอบความเสียหายและ รวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ โดยเฉพาะภาพจากกล้องวงจรปิดที่สามารถจับภาพคนร้ายได้ในบางจุด คาดว่าจะสามารถแกะรอยกลุ่มคนร้ายได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี