21 พ.ค.61 ที่สำนักงานศาลปกครอง พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ ที่ปรึกษาบริษัท พัฒนาตลาดใหม่ดอนเมือง และผู้ต้องหาคดีกรรโชกทรัพย์ เก็บค่าคุ้มครองผู้ค้าในตลาดใหม่ดอนเมือง ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องคดีที่โดนแจ้งข้อกล่าวหา ว่า ทุกวันนี้สังคมและสื่อก็ทราบถึงการปฏิบัติของผู้มีอำนาจที่มีต่อบิดาและมารดาตน ที่ได้มีคำสั่งให้มีการออกหมายเรียกบิดาและมารดาของตน ในข้อหาให้การช่วยเหลือผู้ต้องหา ซึ่งพนักงานสอบสวนผู้ที่ทำตามคำสั่งของผู้มีอำนาจสักวันจะได้รู้ว่าคนที่สั่งคุณจะมีความรับผิดชอบแค่ไหน เพราะเชื่อว่าสุดท้ายถ้ามีเหตุการณ์ฟ้องกลับผู้บังคับบัญชาของคุณ ก็จะต้องปัดป้องตัวเองว่าไม่เกี่ยว
ทั้งนี้ การออกหมายเรียกดังกล่าวเป็นเรื่องของ สน.โชคชัย โดยการออกหมายเรียกบิดาและมารดานั้น ตนยืนยันว่า สน.โชคชัย มีการออกหมายเรียกและส่งเจ้าหน้าที่มาถึงหน้าบ้าน แต่สุดท้ายกลับมาให้ข่าวบอกว่าเป็นเรื่องที่เข้าใจผิด ส่วนเอกสารหมายเรียกในวันนั้นทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้ส่งมอบ เป็นแค่การสอบถามว่าบิดาและมารดาตนอยู่ในบ้านหรือไม่ ในเรื่องคดีความส่วนตัวก็จะดำเนินการต่อที่มีข่าวว่าจะออกหมายเรียกตนไปรับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติม จากที่มีผู้เข้ามาร้องทุกข์ จำนวน 22 ราย ตนก็พร้อมที่จะไปรับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งตนข้อให้แจ้งข้อกล่าวหามาที่ตนที่เดียวเลย ไม่ใช่แจ้งข้อหามาแค่ 8 ข้อ แล้วจะมาทยอยเพิ่มมาที่ละข้อหา ตนก็พร้อมตั้งรับปักหลักสู้ต่อ
เมื่อถามว่า ขณะนี้ได้รับหมายเรียกแจ้งข้อกล่าวหาอย่างเป็นทางการมาหรือไม่ พ.ต.ท.สันธนะ กล่าวว่า ตนได้รับทราบจากคนของตนว่าจะมีการออกหมายเรียกตนมารับทราบข้อกล่าวหา ส่วนรายละเอียดข้อหาและวันเวลา ตนขอดูรายละเอียดอีกครั้ง ส่วนจะนัดให้ไปพบวันไหนถ้าตนไม่ติดคดีอื่นก็พร้อมที่จะไปแน่นอน ตนทราบอยู่แล้วว่าข้อหาที่จะแจ้งเพิ่มนั้นมันมีธงอยู่แล้วที่จะแจ้งข้อกล่าวหาตนให้ครบองค์ประกอบว่าเป็นอั้งยี่ซ่องโจร เพื่อที่จะยึดทรัพย์กฎหมายฟอกเงิน แต่ตนก็ไม่สน จะยึดทรัพย์ก็ยึดไป เพราะทรัพย์สินนั้นมีมาก่อนทั้งสิ้น
"ในช่วง 4 ปี ที่คุณเสวยอำนาจทรัพย์ของตนก็มีแต่หดหาย เชิญมาตรวจสอบได้เลย ดังนั้น การกระทำของคุณมันไม่สำเร็จหรอก คุณจะออกหมายเรียกก็เรียกมา แต่คุณหมดสิทธิที่จะออกหมายจับแล้ว" พ.ต.ท.สันธนะ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า จะดำเนินการฟ้องกลับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอีกหรือไม่ พ.ต.ท.สันธนะ กล่าวว่า ในขณะนี้ยังรอว่ามีการแจ้งข้อกล่าวหาตนมาอีกหรือไม่ จึงจะพิจารณาฟ้องกลับแต่ละคน ซึ่งจะมี 3 นายพล ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีที่มีการแจ้งข้อกล่าวหาตนมาอยู่ด้วย ซึ่งก็จะมีเจ้าหน้าที่อีกหลายคนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ตนก็จะฟ้องกลับทีเดียว จะได้ไม่เป็นภาระของศาลที่จะต้องมารวมคดีภายหลัง โดยคดีที่ตนฟ้องพวกคุณก็จะโดนต่างกรรมต่างวาระของจริง
ส่วนกรณีที่ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะเสนอให้มีการถอดยศนั้น พ.ต.ท.สันธนะ กล่าวว่า เรื่องถอดยศเป็นอำนาจของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ตามกฎหมาย ซึ่งก่อนหน้านี้ตนไม่เคยต้องคำพิพากษาให้โทษจำคุก มีแต่คดีที่เสียค่าปรับ ซึ่งก็ได้เสียค่าปรับแล้ว ก็จบกันไป ส่วนที่จะมีการรื้อฟื้นวินัยที่ผ่านมาเกือบ 20 ปี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ก็ต้องคิดด้วยว่า ผบ.ตร.ก่อนหน้านี้ไม่เคยนำเรื่องดังกล่ามาเสนอถอดยศ แต่ถ้า พล.ต.อ.จักรทิพย์ มาเสนอถอดยศตนจากกรณีที่มีคดีในปัจจุบัน ตนก็จะดำเนินการฟ้องกลับอดีต ผบ.ตร.ตามมาตรา 157 เพราะที่ผ่านมาทำไมไม่ถอดยศตนแต่แรก แต่พอมามีเรื่องนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ กลับมาถอดยศตนในขณะนี้ เดี๋ยวอดีต ผบ.ตร.ที่ผ่านมาจะเดือดร้อนกันหมด ดังนั้น ขอให้คิดให้ดี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี