ตร.เตรียมขอหมายจับ
โจรใต้วางบึ้ม4จว.
ล้วนระดับแกนนำ
โยงคดีความมั่นคง
จว.ชายแดนภาคใต้ ยังคุมเข้มป้องกันก่อเหตุป่วนซ้ำ หลังลอบวางระเบิด 24 จุด ฝ่ายความมั่นคงเตรียมขอศาลอนุมัติออกหมายจับ พบโยงคดีความมั่นคง ปัตตานีเกาะรอยวงจรปิดจับ1ผู้ต้องสงสัย หน่วยข่าว แฉ’มะสุกรี ยูโซ๊ะ’หน.คอมมานโด ร่วม’ฮูไบดีละห์ รอมือลี’ก่อเหตุ เผย’ฮูไบดีละห์’ส่งญาติติดต่อขอมอบตัวแล้ว
เมื่อวันที่ 22พฤษภาคม ความคืบหน้าคนร้ายลอบวางระเบิด 24 จุดในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้พร้อมกันเมื่อคืนวันที่ 20พฤษภาคม โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ทั้งทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และ4อำเภอ จ.สงขลา ยังคุมเข้ม เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยสถานที่ราชการ ชุมชนและย่านธุรกิจ เพื่อป้องกันกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงซ้ำ โดย พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 ได้เข้าเยี่ยมอาการบาดเจ็บของ น.ส.สมพิศ สกลวิจิตร ผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ลอบวางระเบิดในพื้นที่ จ.ปัตตานีพร้อมระบุว่าคดีมีความคืบหน้าไปมากและเชื่อมั่นว่าจะจับตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีได้
ด้าน พ.ต.อ.ธีรพจน์ ยินดี ผู้กำกับการสถานีตำรวจ(ผกก.สภ.)บันนังสตา จ.ยะลาระบุว่าจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพเหตุลอบวางระเบิด11 จุด อ.บันนังสตาพบว่าผู้ก่อเหตุมีลักษณะคล้ายกับผู้ต้องหาที่มีหมายจับคดีความมั่นคงก่อนหน้านี้ อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานและเตรียมขอศาลอนุมัติหมายจับ โดยเจ้าหน้าที่เร่งรวบรวมพยานหลักฐานจากกล้องวงจรปิด 10 จุดและลงพื้นที่สอบพยานบุคคล ติดตามไล่คนร้ายลอบวางระเบิดพื้นที่ จ.ปัตตานี โดยเฉพาะพยานบุคคลสามารถจดจำรูปพรรณของคนร้ายได้ เนื่องจากช่วงที่คนร้ายนำระเบิดไปวาง มีประชาชนอยู่บริเวณที่เกิดเหตุจำนวนมากจึงนำไปเชื่อมโยงกับแฟ้มประวัติด้านความมั่นคง ทำให้สามารถรู้ตัวกลุ่มคนร้ายแล้วหลายคน
จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด เขตเทศบาลเมืองปัตตานี ทั้ง 6 จุดและพบว่าคนร้ายเปลี่ยนยุทธวิธีการเข้าก่อเหตุเพื่อตบตา เจ้าหน้าที่ไม่ว่าจะเป็นการแต่งกายด้วยชุดดะวะ หรือ การเข้าไปก่อเหตุเพียงคนเดียว จากปกติกลุ่มคนร้าย จะเข้าไปก่อเหตุจุดละไม่น้อยกว่า 2 คนคือคนขี่รถจักรยานยนต์กับคนซ้อนท้าย และจากการตรวจสอบทั้ง 6 จุด ยังพบว่าคนร้ายก่อเหตุเพียง 6 คนโดยกระจายเข้าก่อเหตุจุดละคนเบื้องต้นพบว่ากลุ่มคนร้ายรวมตัวกันสถานที่แห่งหนึ่ง ภายในเขตเทศบาลเมืองปัตตานีเพื่อวางแผนและส่งมอบวัตถุระเบิด
ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้แล้ว 1คน อยู่ระหว่างคุมนำตัวไปสอบสวนขยายผล ซึ่งการสอบสวนเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ จากการตรวจสอบ ยังพบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุมีขบวนการบีอาร์เอ็น รวมตัวกันทั้งสมาชิกเก่าและสมาชิกใหม่ หลายคนเคยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้งเมื่อปี พ.ศ.2556 โดยมีแกนนำระดับปฏิบัติการ มีหมายจับทั้งคดีความมั่นคง และคดีลอบวางระเบิด โดยเจ้าหน้าที่ เร่งรวบรวมพยานหลักฐาน ทั้ง10 จุด หลายจุดรู้ตัวคนร้ายแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ ขณะนี้กำลังรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอนุมัติหมายจับกลุ่มผู้ก่อเหตุ
ส่วนความคืบหน้ากรณีคนร้ายปฏิบัติการลอบวางระเบิดป่วนยะลา 9 จุด ในพื้นที่ อ.บันนังสตา อ.ธารโต อ.เมือง อ.ยะหา และ อ.กาบัง เป็นเหตุให้บ้านเรือนประชาชน สิ่งของสาธารณประโยชน์ ตู้เอทีเอ็ม ได้รับความเสียหาย เมื่อคืนวันที่ 20 พฤษภาคมนั้น ล่าสุดชุดสืบสวนสอบสวนที่ลงพื้นที่หลังเกิดเหตุเพื่อหาเบาะแสของกลุ่มคนร้ายระบุว่าคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุ น่าจะเป็น นายมะสุกรี ยูโซ๊ะ มีตำแหน่ง เป็นหัวหน้าตอมมันโด รับผิดชอบในการก่อเหตุในพื้นที่ จ.ยะลา ที่ผ่านมาเคยก่อเหตุวางระเบิดย่านเศรษฐกิจในพื้นที่ อ.เบตง และเคยก่อเหตุเผารถบัสในพื้นที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา ขณะนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง กระจายกำลังลงพื้นที่ เพื่อเร่งหาคนร้ายมาลงโทษแต่ยังไม่มีวี่แววแต่อย่างใด
สำหรับประวัติของ นายมะสุกรี ยูโซ๊ะ เคยเป็นอุสตาซ ในโรงเรียนสอนศาสนาอิสลามแห่งหนึ่งใน จ.ยะลา เคยเป็นมือขวาให้กับ นายสะแปอิง บาซอ แกนนำขบวนการบอาร์เอ็นที่เสียชีวิตด้วยโรคชราหลังจากที่นายอับดุลรอแม ยูโซ๊ะ หัวหน้าคอมมันโดเขต จ.ยะลา ถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญเสียชีวิตในพื้นที่ ลำใหม่ จ.ยะลาเมื่อหลายปีก่อน ทางขบวนการบีอาร์เอ็น มีการแต่งตั้ง นายมะสุกรี ยูโซ๊ะ ขึ้นเป็นหัวหน้าคอมมันโดแทน จนถึงปัจจุบัน ทุกครั้งที่ออกปฏิบัติการก่อเหตุในพื้นที่ จ.ยะลาก็จะปฏิบัติการร่วมกับ นายฮูไบดีละห์ รอมือลี หัวหน้าฝ่ายทหาร ของขบวนการบีอาร์เอ็น โดยมี นายอาหามะ ตืองะ เป็นรองฝ่ายทหาร และมี นายอาบัส เจ๊ะอาลี เป็นผู้รวบรวมกำลังเยาวชนในพื้นที่ที่ผ่านการฝึกเข้าร่วมในการก่อเหตุทุกครั้ง
ส่วนนายมะสุกรี ยูโซ๊ะ มีหมายจับในคดีความมั่นคงที่สำคัญ คือ ลอบวางระเบิด(คาร์บอม)ในพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา เมื่อวันที่ 25 ก.ค.2557และลอบเผารถทัวร์ในพื้นที่ อ.บันนังสตา เมื่อวันที่ 17ธ.ค.2560ที่ผ่านมา โดย นายมะสุกรี ยูโซ๊ะ มีหมายจับคดีความมั่นคงติดตัวหลายหมาย
มีรายงานล่าสุดระบุว่านายฮูไบดีละห์ รอมือลี หัวหน้าฝ่ายทหารของขบวนการบีอาร์เอ็นได้ส่งญาติติดต่อเพื่อจะขอเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่แล้ว จากการสอบถามเจ้าหน้าที่นายหนึ่งยืนยันชัดเจนว่าข่าวดังกล่าวเป็นความจริง ส่วนจะเป็นเมื่อไหร่นั้นยังไม่ระบุวันเวลา
สำหรับนายฮูไบดีละห์ รอมือลี เป็นแกนนำก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ จ.ยะลา รับผิดชอบก่อเหตุในพื้นที่ อ.ยะหา อ.บันนังสตา และ อ.ธารโต มีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 41 หมู่ 4 ต.ปะแต อ.ยะหา จ.ยะลา มีหมายจับในคดีความมั่นคงจำนวนมาก โดยเฉพาะคดียิงรถตู้ สายหาดใหญ่-เบตง มีผู้เสียชีวิต 8 ศพ เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2550 รวมถึง หมายจับในคดีลอบวางระเบิดและยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.กรงปินัง จ.ยะลา ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตหลายนาย เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2559และอีกหลายคดี
ส่วนความคืบหน้าเหตุระเบิดตู้เอทีเอ็ม ธนาคารออมสินภายในปั้มน้ำมัน อ.เทพา จ.สงขลา เจ้าหน้าที่ได้เบาะแสรถยนต์ต้องสงสัย 2 คัน เป็นรถกระบะอีซูซุสีดำ กับ รถมิตซูบิชิปาเจโร ขับไปจอดหน้าปั้ม ก่อนคนร้ายจะลงจากรถ นำระเบิดไปวางไว้ด้านหลังตู้เอทีเอ็ม จุดนี้ภาพกล้องวงจรปิดภายในตู้เอทีเอ็มใช้การไม่ได้เนื่องจากฮาร์ดดิสพังเสียหาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจสภ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา เผยแพร่ภาพ นายแวกอยี ตะเละ สมาชิกแนวร่วม อาร์เคเค ผู้ต้องสงสัยวางระเบิดตู้เอทีเอ็มธนาคารออมสิน หน้าที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านโหนด อ.สะบ้าย้อยซึ่งเป็น 1 ใน 2 จุดที่เกิดเหตุระเบิด จ.สงขลา ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอศาลอนุมัติหมายจับนายแวกอยี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี