23 พ.ค.61 ที่กระทรวงศึกษาธิาร กลุ่มขับเคลื่อนธรรมาภิบาลในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ เดินทางมาเข้าพบ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ เพื่อยื่นข้อเสนอ การแก้ไขธรรมาภิบาลในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ เพื่อดำเนินการ กรณีการละเว้น หรือไม่จริงจังในการดำเนินการตามคำสั่ง หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 39/2559 และมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ด้านการป้องกันและปราบปรามทุจริต โดยมี นพ.โสภณ นภาธร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำ ศธ. เป็นผู้รับเรื่องไว้แทน พร้อมกล่าวว่า ปัญหาธรรมาภิบาลในสถาบันอุดมศึกษา เป็นเรื่องที่ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐ์ศิลป์ รมว.ศธ.ให้ความสำคัญและพยายามแก้ไขปัญหา โดยตนจะนำข้อเสนอดังกล่าวรายงานต่อ นพ.ธีระเกียรติ เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาต่อไป
นายจอห์นนพดล วศินสนุทร ตัวแทนกลุ่มขับเคลื่อนธรรมาภิบาลในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ กล่าวว่า ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ใช้คำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 39/2559 เรื่อง การจัดระเบียบและแก้ไขปัญหาธรรมาภิบาลในสถาบันอุดมศึกษา โดยอาศัยอำนาจมาตรา 44 แห่งรัฐธรรมนูญชั่วคราว เพื่อปฏิรูประบบธรรมาภิบาลในสถาบันอุดมศึกษาทั่วประเทศ และได้นำไปใช้กับหลายมหาวิทยาลัย ซึ่งช่วง 2 ปีมานี้ ก็พบว่ามีมหาวิทยาลัยหลายแห่งที่มีพฤติการณ์เข้าข่ายทุจริตคอรัปชั่น แต่ไม่มีการตรวจสอบ หรือมีหน่วยงานเข้าตรวจสอบชี้มูลดำเนินใดๆ และไม่มีการนำ ม.44 เข้ามาควบคุม
"ที่ผ่านมาไม่เห็นตัวอย่างว่า ผู้กระทำความผิดถูกลงโทษ หรือถูกดำเนินการทางวินัย เวลาผ่านมาเป็นปีๆกลุ่มประชาคมชาวอุดมศึกษา เห็นว่าคำสั่ง ม.44 อาจจะไร้น้ำยา หรือ ดื้อยา และมาตรการป้องกันและปราบทุจริตในระบบราชการของ คสช.ก็อาจจะไม่เกิดผลจริงจัง ซึ่งตอนนี้ที่จับตามองอยู่คือกรณีของ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ที่ผ่านกระบวนการตรวจสอบต่างๆมาแล้ว อยู่ระหว่างเสนอ รมว.ศึกษาธิการ พิจารณาเพื่อเสนอขอใช้คำสั่งม.44 พวกเราก็รอดูอยู่ว่าจะดำเนินการเช่นไร" นายจอห์นนพดล กล่าว
นายจอห์นนภดล กล่าวต่อไปว่า ปัญหาทุจริตคอรัปชั่นในสถาบันอุดมศึกษาช่วง 4 - 5 ปีที่ผ่านมา ก็เป็นเหตุอีกสาเหตุหนึ่งของปัญหาธรรมาภิบาลในสถาบันอุดมศึกษา กลุ่มพนักงานในสถาบันอุดมศึกษา ที่ออกมาเปิดโปงความไม่ชอบมาพากลจะได้รับผลกระทบ จะถูกตั้งกรรมการสอบวินัย แม้ปีนี้จะตรวจสอบพบความไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้นชัด แต่กลุ่มพนักงานมหาวิทยาลัย ก็ไม่ได้รับการเยียวยา ทั้งที่ตามกฎหมายของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กำหนดว่าต้องดูแลข้าราชการที่ออกมาให้ข้อมูลการทุจริต แต่เนื่องจากอาจารย์มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่เป็นพนักงานมหาวิทยาลัย การดูแลจึงไม่ครอบคลุม ทำให้ไม่กล้าออกมาให้ข้อมูลหรือปรากฏตัวอีก เพราะเกรงได้รับผลกระทบ หรือถูกกลั่นแกล้ง
นายจอห์นนภดล กล่าวว่า กลุ่มขับเคลื่อนธรรมาภิบาลในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ ได้เสนอมาตรการที่จะช่วยรักษาระบบธรรมาภิบาลในอุดมศึกษา 7 ข้อ ดังนี้ 1.บังคับให้สถาบันอุดมศึกษาทุกแห่งปฏิบัติตามคำสั่ง คสช.ที่ 39/2559 และมาตรการป้องกันและปราบทุจริตของ คสช.อย่างจริงจัง มีการตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายโดยเคร่งครัด 2.การได้มาซึ่งกรรมการสภามหาวิทยาลัยทุกส่วน ต้องมิให้ดำรงตำแหน่งเกิน2วาระติดต่อกันและให้เว้นห่างการดำรงวาระเมื่อครบ 2 วาระไปอีก 2 ปี 3.ให้กรรมการสภาที่แต่งตั้งมาจากฝ่ายบริหารไม่มีสิทธิลงคะแนนในที่ประชุม หากอดีตอธิการบดีซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาเดิมลงสมัครสรรหาเพราะเป็นประโยชน์ทับซ้อน และให้การเลือกสรรหาอธิการบดี ต้องใช้การหยั่งเสียงและผลคะแนนถือเป็นเสียงกรรมการสภาฯฝ่ายตัวแทนคณาจารย์ทุกประเภท 4.การดำเนินการประชุมสภามหาวิทยาลัยต้องถ่ายทอดสดให้ประชาคมรับทราบ ยกเว้นมติลับตามกฎหมาย
5.ให้บุคลากรในสถาบันที่เป็นผู้ร้องเรียน หรือให้ข้อมูลทุจริต ต้องได้รับการคุ้มครองโดยใช้แนวทางตามกฎหมาย และส่งเรื่องให้หน่วยงานภายนอกตรวจสอบต่อไป 6.กรณีผู้บริหารอยู่ระหว่างการสอบสวนในคดีอาญาที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ เมื่อมีมูลเชื่อถือได้ ให้ผู้บังคับบัญชาที่สูงกว่ามีคำสั่งพักงานในตำแหน่งจนกว่าคดีจะแล้วเสร็จ 7.ลงโทษวินัย หรือเรียกละเมิดแก่ฝ่ายบริหารและผู้บังคับบัญชา กรณีการใช้อำนาจหรือคำสั่งทางปกครองไม่เป็นธรรม และ 8.ส่งเสริมจัดตั้ง "สหภาพพนักงานมหาวิทยาลัยขึ้นในระดับประเทศ" เพื่อส่งเสริมพัฒนาบุคลากรทางการศึกษาของรัฐ
"กลุ่มขับเคลื่อนฯ จะติดตามข้อเสนอที่ยื่นในวันนี้ และจะออกมาเคลื่อนไหวทำกิจกรรมเพื่อเรียกร้องให้ใช้ ม.44 ในการแก้ไขปัญหาในอุดมศึกษากันมากขึ้น เพราะได้รับผลกระทบมาก พร้อมกันนี้ผมก็ได้ยื่นข้อเสนอดังกล่าวถึง นายวิริยะ ศิริชานนท์ ประธานที่ประชุมประธารสภาคณาจารย์และข้าราชการแห่งประเทศไทย (ทปสท.) และะนายจิตเจริญ ศรขวัญ ประธานที่ประชุมประธานสภาคณาจารย์และข้าราชการมหาวิทยาลัยราชภัฏ (ทป.มรภ.) เพื่อร่วมติดตามด้วย" นายจอห์นนภดล กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี