จากกรณีกระทรวงการคลัง ออกระเบียบห้ามโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงโรงเรียนแพทย์ และหน่วยบริการรัฐทั้งหมด ทำการจ้างและขึ้นเงินเดือนให้กับลูกจ้างจากเงินนอกงบประมาณ หรือหากต้องการจ้างก็ต้องขออนุญาตจากกรมบัญชีกลางก่อน ทำให้บุคลากรทางการแพทย์จำนวนมากไม่พอใจ เนื่องจากหน่วยงานส่วนกลางออกกฎเกณฑ์ไม่เข้าใจความเป็นจริงในพื้นที่ โดยประกาศแสดงพลังผ่านเฟซบุ๊ก “ชมรมแพทย์ชนบท” เตรียมนัดชุมนุมใหญ่ 1 มิ.ย.61 นั้น
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 24 พ.ค.61 “ชมรมแพทย์ชนบท” โดยนายแพทย์เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ประธานชมรมแพทย์ชนบทและเครือข่าย ออกแถลงการณ์ชมรมแพทย์ชนบท ฉบับที่ 1 ระบุว่า ข้อเรียกร้อง 3 ประการต่อกระทรวงการคลังว่าด้วยการจ้างลูกจ้างเงินนอกงบประมาณ
จากการที่กระทรวงการคลังได้ออกระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจ้างพนักงานหรือลูกจ้างโดยใช้จ่ายเงินนอกงบประมาณ พ.ศ.2561 ได้ลงนามในวันที่ 18 พฤษภาคม 2561โดยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง
มีสาระสำคัญคือ หากส่วนราชการมีความจำเป็นต้องจ้างลูกจ้างจากเงินนอกงบประมาณ ต้องทำความตกลงกับกระทรวงการคลังก่อน รวมทั้งให้มีการจ้างขั้นต่ำสุดและไม่ให้มีการเลื่อนค่าจ้าง จนนำไปสู่การขึ้นป้ายคัดค้านอย่างกว้างขวางทั่วประเทศจากโรงพยาบาลต่างๆ จนทางกระทรวงการคลังและกระทรวงสาธารณสุขได้มีการประชุมและออกมาชี้แจงว่า เรื่องนี้ทางผู้เกี่ยวข้องเข้าใจผิด และกระทรวงสาธารณสุขไม่ได้รับผลกระทบใดๆ
ชมรมแพทย์ชนบทเห็นว่า การชี้แจงดังกล่าวยิ่งตอกย้ำว่า กระทรวงการคลังไม่ถอย เพียงแต่พยายามอธิบายอย่างเอาสีข้างเข้าถู เพื่อไถไปให้พ้นๆตัวและซื้อเวลาจากความร้อนระอุที่เกิดขึ้นในขณะนี้ หลักฐานที่ชัดเจนที่เอาสีข้างเข้าถูคือ การที่ประกาศฉบับนี้ได้ระบุข้อความว่า พนักงานกระทรวงสาธารณสุข เพราะเป็นกลุ่มที่มีข้อตกลงไว้ก่อนแล้วในระเบียบเงินบำรุง พ.ศ.2561
ขณะที่คนทั้งประเทศ รวมถึงปลัดและรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ก็ให้สัมภาษณ์สื่อว่าเดิมก็เข้าใจว่ากระทบ คำชี้แจงของอธิบดีกรมบัญชีกลาง จึงเป็นเพียงการเลี่ยงบาลีเหมือนศรีธนญชัยในภายหลังเท่านั้น
อีกทั้งในระเบียบเงินบำรุงปี 2561 เอง ซึ่งลงนามโดยรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข ก็ได้ระบุชัดเจนว่าได้ประเคนอำนาจในการพิจารณาขั้นสุดท้ายให้กับกระทรวงการคลังไปแล้ว โดยที่คนในกระทรวงส่วนใหญ่แทบจะไม่ทราบเรื่อง ซึ่งเป็นอีกหายนะที่คนในกระทรวงสาธารณสุขเพิ่งจะรับรู้
ดังนั้นการที่กระทรวงการคลังอ้างว่าไม่กระทบนั้น จึงไม่จริง เพราะสุดท้ายการขออนุมัติจ้างลูกจ้างชั่วคราวเงินนอกงบประมาณก็ต้องไปจบที่กระทรวงการคลังตามประกาศที่ได้ระบุไว้อยู่ดี ตามข้อ 10 ในระเบียบเงินบำรุง พ.ศ.2561
ชมรมแพทย์ชนบท จึงขอเรียกร้องต่อรัฐบาลดังนี้
1.ขอให้ยกเลิกระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจ้างลูกจ้างเงินนอกงบประมาณ ซึ่งลงวันที่ 18 พฤษภาคม 2561 โดยขอให้รมต.คลังลงนามยกเลิกคำสั่ง ไม่ใช่ให้อธิบดีกรมบัญชีกลางมาแก้ไข อธิบดีจะใหญ่กว่าการลงนามของรัฐมนตรีช่วยไม่ได้
2.ขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขแก้ไขระเบียบเงินบำรุงปี 2561 ให้กระจายอำนาจให้สถานบริการของกระทรวงสาธารณสุขมีอิสระในการบริหารเงินบำรุงให้มีประสิทธิภาพตามความต้องการของประชาชนในพื้นที่มากขึ้น เพื่อให้ตอบสนองต่อการจัดบริการเพื่อประชาชนและแข่งขันเอกชนได้ เหมือนระเบียบเงินบำรุงฉบับก่อนหน้านี้
3.การออกระเบียบใหม่หรือแก้ไขระเบียบเดิมที่เกี่ยวข้องกับสถานบริการ ต้องมีผู้แทนของสถานบริการในพื้นที่ไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งเข้าร่วมทุกครั้ง
ชมรมแพทย์ชนบทขอย้ำว่า การออกระเบียบกระทรวงการคลังฉบับนี้ ระบุไว้ชัดเจนว่ามุ่งเน้นกับลูกจ้างของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งคลุมไปถึงทุกสาขาวิชาชีพ ทั้งแพทย์ พยาบาลวิชาชีพ นักเทคนิคการแพทย์ นักรังสีการแพทย์ นักกายภาพบำบัด นักกิจกรรมบำบัด แพทย์แผนไทย แพทย์แผนจีน และอีกกว่า20สาขา
ขออธิบดีกรมบัญชีกลางและปลัดกระทรวงสาธารณสุขอย่าเอาสีข้างเข้าถู
หากยังเอาสีข้างเข้าถู ซื้อเวลา ปัดให้พ้นตัว ปล่อยให้เป็นระเบิดเวลาที่จะกระทบต่อการจัดบริการช่วยชีวิตประชาชน กระทรวงการคลังต้องรับผิดชอบ และข้อเรียกร้องทั้ง 3 ประการไม่ได้รับการตอบสนองแก้ปัญหาอย่างรวดเร็ว การแสดงออกถึงการคัดค้าน จะขยายวงกว้างมากยิ่งขึ้น อย่างต่อเนื่อง
การรวมพลังของพี่น้องชาวสาธารณสุขทุกระดับก็ย่อมมีความจำเป็นต้องไปรวมตัวเพื่อแสดงออกหน้ากระทรวงการคลังอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในวันที่ 1 มิถุนายน 2561 นี้อย่างแน่นอน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี