นายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า ตามที่ครม.อนุมัติงบประมาณ 2 แผนงาน คือ 1.แผนงานยุทธศาสตร์เสริมสร้างศักยภาพและพัฒนาคุณภาพชีวิต 31,104,000 บาท 2.แผนงานยุทธศาสตร์ปฏิรูปโครงสร้างการผลิตภาคเกษตร 5,659,575,200 บาท ซึ่งในส่วนการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ปฏิรูปโครงสร้างการผลิตภาคเกษตร ในโครงการเสริมสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรรายย่อย ได้แบ่งเป็น 2 กิจกรรม คือ 1. กิจกรรมฝึกอบรมเกษตรกร และ 2.กิจกรรมการพัฒนากลุ่มเกษตรกร
โดยรายละเอียดของกิจกรรมฝึกอบรมเกษตรกร จะดำเนินการอบรมเกษตรกร 200 ราย จาก 9,101 ชุมชน เริ่มจากจัดเวทีชุมชนชี้แจงทำความเข้าใจในการดำเนินงานให้โครงการให้เกษตรกรรับทราบ พร้อมกับคัดเลือกคณะกรรมการพัฒนาด้านการเกษตรระดับชุมชน และจัดทำแผนการฝึกอบรมระดับชุมชน ซึ่งการดำเนินงานดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายในวันที่ 25 พฤษภาคมนี้ จากนั้นจะดำเนินงานประชาสัมพันธ์และประกาศรับสมัครเกษตรกร ที่จะเข้ารับการฝึกอบรมไปจนถึงสิ้นเดือนพฤษภาคม หลังจากนั้นก็จะตรวจสอบคุณสมบัติและคัดเลือกเกษตรกรผู้มีสิทธิ์เข้ารับการฝึกอบรมภายในวันที่ 5 มิถุนายน 2561
หลังจากเสร็จสิ้นการดำเนินงานในข้างต้น สำนักงานเกษตรอำเภอและคณะกรรมการ ศพก.ระดับอำเภอ จะมีการขออนุมัติโครงการและงบประมาณในการจัดฝึกอบรมแต่ละเรื่อง พร้อมกับติดต่อประสานวิทยากร เตรียมวัสดุการฝึกอบรม จัดเตรียมเอกสาร และจัดฝึกอบรมเป็นลำดับต่อไป ซึ่งการดำเนินงานจะเริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายนและโอนงบประมาณให้ชุมชนดำเนินโครงการภายในวันที่ 20 สิงหาคม 2561 โดยสนับสนุนงบประมาณให้ชุมชนละ 300,000 บาท
สำหรับคุณสมบัติของเกษตรกรที่สามารถสมัครเข้าร่วมโครงการดังกล่าวนี้ จะต้องเป็นเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับกรมส่งเสริมการเกษตร รวมทั้งต้องไม่สมัครเข้าร่วมการอบรมในกิจกรรมอื่นๆ ของโครงการไทยนิยมยั่งยืน โดยมีหลักสูตรฝึกอบรมจำนวน 1 หลักสูตร ประกอบด้วย 3 กลุ่มวิชา 1) กลุ่มวิชาสร้างการรับรู้ ความเข้าใจร่วมกันในการขับเคลื่อนประเทศ 2) กลุ่มวิชาเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตทางการเกษตร และ 3) กลุ่มวิชาการบริหารจัดการองค์กรเกษตรกร รวมจำนวน 18 ชั่วโมง โดยสามารถเข้าไปพิจารณาทางเลือกได้ http://k-room.doae.go.th
“ทั้งนี้ได้มอบหมายรองอธิบดีและเกษตรจังหวัดทุกจังหวัด ติดตามการดำเนินงานโครงการดังกล่าวทุกขั้นตอนให้เป็นไปด้วยความโปร่งใส หากพบปัญหาก็จะระดมทีมเข้าไปช่วยเหลือและสร้างการรับรู้ในพื้นที่ พร้อมเปิด Warroom เพื่ออำนวยการบริหารจัดการ โดยขอย้ำว่าการเบิกจ่ายเงินในการดำเนินงานทั้งหมดจะผ่านบัญชีของเกษตรกร และลงสู่ชุมชน โดยมีเจ้าหน้าที่ของภาครัฐทำหน้าที่ในการตรวจสอบเท่านั้น ทั้งนี้ก็เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาการเกษตรที่เข้าถึงชุมชนอย่างแท้จริง” นายสมชาย กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี