25 พ.ค.61 เพจ UDD news อ้างคำพูดของนางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานที่ปรึกษาแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับคดีเงินทอนวัด ซึ่งมีการจับกุมพระเถระผู้ใหญ่หลายรูป มีเนื้อหาสรุป ว่า “สถานการณ์การเมืองกับเรื่องหน้าเรือนจำ! วันนี้อ.ธิดาไปเยี่ยมคุณจตุพรที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ตามปกติ ปรากฎว่าวันนี้มีฝ่ายข่าวตำรวจทหารที่มาติดตามสถานการณ์เป็นประจำเขาก็เข้ามาเตือนว่าให้ระวังนะ มีคนพวกนั้นพวกนี้มาด้วย อ.ธิดาก็หัวเราะและบอกว่าไม่เป็นไรหรอก ใครมาเยี่ยมใครตอนนี้สุดท้ายก็อยู่ในเรือนจำเหมือนกัน ถือว่าอยู่ในสภาพเดียวกันคือมาเยี่ยมคนในเรือนจำ และไม่ว่าคนในเรือนจำนั้นจะเป็นใคร คนที่มาเยี่ยมนั้นเขาก็มีความผูกพัน นี่ไม่ใช่เวลาที่ใครจะมาทะเลาะกับใคร!
อ.ธิดาบอกว่าวันนี้คุณจตุพรก็อารมณ์ดียิ้มแย้มแจ่มใสเหมือนเช่นเคย โดยคุณจตุพรได้เล่าให้ฟังว่าอยู่ห้องติดๆกัน อยู่ในแดนเดียวกัน คุณจตุพรอยู่ห้องหนึ่ง 5 อดีตพระเถระอยู่ห้องหนึ่ง พุทธะอิสระหรือนายสุวิทย์อยู่อีกห้องหนึ่ง คุณจตุพรเล่าว่าเมื่อเช้าได้นำของไปถวายเพราะว่าเขาก็เป็นอดีตพระมาหมาดๆ ในฐานะที่เรียกว่าเป็นซีเนียร์คงจะมีข้าวของอะไรที่ถวายได้
ตนถามว่าเขาเป็นอย่างไรกันบ้าง คุณจตุพรก็บอกว่าคงอยู่ในระหว่างการปรับตัว ไม่ได้เล่าอะไรมาก ทราบมาจากเจ้าหน้าที่ว่าเขาต้องคอยดูแลคนทั้งคนที่มาเยี่ยมและคนข้างในที่นั่งสมาธิกันตลอดเพราะคงไม่ชินกับสภาพในเรือนจำ เชื่อว่าทุกคนที่อยู่ในเรือนจำคงไม่มีทะเลาะเบาะแว้ง เพราะมีความทุกข์เหมือนกัน”
นอกจากนี้ นางธิดา ยังกล่าวว่า “อ.ธิดาได้แสดงทัศนะต่อวงการสงฆ์ในเรื่องเงินทอนวัดว่า ประเด็นที่น่าจะเป็นปัญหามากก็คือหน่วยงานรัฐที่เข้ามาเกี่ยวข้องคือสำนักพระพุทธศาสนาด้วย ลำพังคณะสงฆ์ก็มีปัญหา ระบบสงฆ์ก็มีปัญหา แต่เมื่อมาผสมกับระบบราชการไทยเราจะเห็นว่ามีปัญหาเรื่องเงินทอนทุกที่ ทุกกระทรวง
ปัญหานี้มารวมศูนย์ ทั้งเรื่องของศาสนจักร เรื่องของระบบราชการ และเรื่องของเศรษฐกิจแบบทุนนิยม ทั้งหมดนี้จึงทำให้วงการสงฆ์ถูกตั้งคำถาม
อ.ธิดามองการปฏิรูปวงการสงฆ์ว่าควรทำให้สอดคล้องกับยุคสมัย สอดคล้องกับการเมืองการปกครอง ระบบที่ประชาชนมีส่วนร่วมกับวัดควรจะเข้มแข็ง การกวดขันด้านวินัยสงฆ์ก็ต้องเป็นระบบที่ดี ที่สำคัญยิ่งกว่าอื่นใดคือระบบราชการที่มาเกี่ยวข้องกับวัด
สิ่งที่อ.ธิดาอยากฝากก็คือการจับกุมดำเนินคดีพระเถระผู้ใหญ่ครั้งนี้จะต้องไม่เอาเรื่องการเมืองเข้ามาจับ ไม่ควรจะไปเกี่ยวข้องกับเรื่องทางธรรมกาย และมันยิ่งไม่ควรจะไปเกี่ยวข้องใหญ่กับเรื่องนิกาย ก็ให้เป็นเรื่องของคดีความว่ากันไปตามหลักฐานและไม่มีอคติ แต่ตัวละครสำคัญคือข้าราชการในการจัดการต่าง ๆ เหล่านี้ ควรจะต้องถูกลงโทษอย่างหนัก เพราะต้องพิสูจน์ด้วยว่าบางทีพระเถระท่านอาจจะไม่เข้าใจหรือไม่มีความรู้ ไม่ว่าทางสำนักพุทธศาสนามาให้เซ็นอะไรท่านก็เซ็นไป”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี