กองปราบผนึกกำลังกองพิสูจน์หลักฐานค้นวัดสัมพันธวงศ์-วัดสระเกศฯรอบ 2 เก็บลายนิ้วมือแฝงและดีเอ็นภายในกุฏิ "พระพรหมสิทธิ-พระพรหมเมธี" เชื่อมโยงคดีเงินทองวัด "ผบช.ก."เชื่อยังกบดานในไทยบีบให้รีบมอบตัวก่อนสายเกินไป ยันตำรวจทำตามกฎหมาย "ตม." สั่งสกัดทุกด่านหวั่นเผ่นช่องทางธรรมชาติ "ผบก.ป."แฉเกลือเป็นหนอนสะกิดหนีก่อนถูกรวบ "ปปช." รุกหนักเตรียมชงคดีเงินทอนวัดเข้าที่ประชุมใหญ่สัปดาห์หน้า
ความคืบหน้าการเข้าจับกุมดำเนินคดีกับอดีตพระเถระชั้นผู้ใหญ่ 5 รูปในคดีเงินทอนวัด ประกอบด้วย อดีตพระครูวิจิตรธรรมาภรณ์, อดีตพระศรีคุณาภรณ์, อดีตพระครูสิริวิหารการ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ, อดีตพระพรหมดิลก เจ้าอาวาสวัดสามพระยาและเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยอดีตพระอรรถกิจโสภณ เลขานุการอดีตพระผู้ใหญ่ ขณะที่ยังหลบหนีอีก 2 คือ พระพรหมสิทธิ (ธงชัย สุขญาโณ) เจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร กรรมการ มส.และเจ้าคณะภาค 10 และ พระพรหมเมธี (จำนงค์ ธมฺมจารี) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม กรรมการ มส. และเจ้าคณะภาค 4-7
ค้นวัดสระเกศเก็บลายนิ้วมือ-ดีเอ็นเอ
เมื่อเวลา 15.00 น.วันนี้ (25 พ.ค.) พ.ต.อ.อนุราช จิตศีล ผกก.กลุ่มงานตรวจสถานที่เกิดเหตุ กองพิสูจน์หลักฐานกลาง และ พ.ต.ท.กิตติเมศร์ โชติปิติเจริญรัฐ สว.กก.1 บก.ป.พร้อมกำลังตำรวจกองบังคับการปราบปราม เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เดินทางเข้าตรวจค้นกุฏิฉัตรลีลา ภายในวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ซึ่งเป็นที่พักอาศัยของพระพรหมสิทธิ (ธงชัย สุขญาโณ) พ.ต.ท.กิตติเมศร์ กล่าวหลังการตรวจค้นว่า ได้ขอหมายค้นครั้งที่ 2 เพื่อตรวจค้นหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมโดยเน้นในส่วนของเอกสารทางการเงินทั้งหมด
พ.ต.อ.อนุราช กล่าวว่า วันนี้เป็นการเก็บหลักฐานสำคัญเพิ่มเติมในส่วนของดีเอ็นเอและลายนิ้วมือแฝง เพื่อนำไปหาความเชื่อมโยงทางคดี แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่ามีดีเอ็นเอหรือลายนิ้วมือแฝงของบุคคลใดบ้าง ซึ่งต้องนำไปตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการอีกครั้ง ส่วนดีเอ็นเอและลายนิ้วมือแฝงที่พบในวันนี้จะบ่งชี้ถึงรายละเอียดในส่วนใดบ้างก็ยังไม่สามารถระบุได้เช่นกัน เพราะนี่ถือเป็นขั้นตอนแรก ที่ต้องนำไว้วิเคราะห์ร่วมกับข้อมูลส่วนอื่นอีกครั้ง
ส่วนหลังจากนี้จะมีการเข้าเก็บหลักฐานเพิ่มเติมที่วัดสระเกศราชวรมหาวิหารอีกหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวนกองปราบฯ ที่จะประสานให้เข้าดำเนินการ ส่วนกระแสข่าวลือว่ามี 2 ประตูลับที่เป็นช่องทางที่เจ้าอาวาสวัดสระเกศหลบหนีนั้นพบว่าประตูบานที่ออกไปทางถนนได้ปิดล็อคด้วยแม่กุญแจ ส่วนประตูบานที่ออกไปทางชุมชนยังคงเปิดทิ้งไว้
ลูกศิษย์โต้ปม"ประตูลับ"เงิน132ล้าน
ด้านลูกศิษย์วัดสระเกศ กล่าวว่า กรณีบัญชีของเจ้าอาวาสมีเงินฝากกว่า 132 ล้านบาทนั้นเป็นเงินที่ประชาชนบริจาคเพื่อบูรณะบำรุงวัดเท่านั้น ไม่ได้มีการใช้จ่ายส่วนตัว สามารถตรวจสอบได้ ส่วนกรณีเรื่องประตูลับที่สื่อหลายสำนักนำเสนอข่าวว่าเป็นทางหลบหนีของเจ้าอาวาสนั้น เป็นความเข้าใจผิดของสื่อ เพราะประตูดังกล่าวใช้สำหรับขนวัสดุก่อสร้างและมีคนเข้าออกบ้างบางเวลาเท่านั้น
ส่วนที่มีรายงานข่าวว่าเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ จะสร้างโรงแรมในพื้นที่วัดนั้นขอย้อนว่าความเป็นจริงแล้วสามารถทำได้หรือไม่ สำนักงานเขตจะอนุมัติให้ก่อสร้างหรือไม่ พร้อมเชื่อว่าเจ้าอาวาสไม่ได้เดินทไางออกนอกประเทศอย่างแน่นอน
ค้นวัดสัมพันธวงศ์ไร้เงา"พระพรหมเมธี"
ขณะที่กำลังเจ้าหน้าที่กองปราบปรามอีกชุด พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.3 กองปราบปราม ได้เข้าตรวจค้นวัดสัมพันธวงศาราม เพิ่มเติม หลังจากเมื่อวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมาได้เข้าตรวจค้น เพื่อจับกุมพระพรหมเมธี (จำนงค์ ธมฺมจารี) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาข้อหาฟอกเงิน แต่ไม่พบตัว โดยวันนี้เป็นการตรวจสอบภายในกุฏิพระทั้งหมด เพื่อสำรวจว่าแต่ละห้องว่าเป็นของพระรูปใดบ้าง ส่วนการค้นหาตัวพระพรหมเมธี ภายในวัดนั้นยังไม่พบตัว
รายงานข่าวแจ้งว่าในทางการสืบสวนพบมีข้อมูลว่าพระพรหมเมธี ยังอยู่ภายในประเทศไทย ไม่ได้หลบหนีไปต่างประเทศตามข่าวลือที่ออกมาเป็นระยะ สอดคล้องกับการสอบปากคำของพระคนสนิทที่ให้การว่าพระพรหมเมธี กำลังพิจารณาถึงการมอบตัวสู้คดี แต่เกรงว่าศาลจะไม่อนุญาตให้ประตัวเหมือนกับพระผู้ใหญ่ทั้ง 5 รูป ที่ถูกจับ และถูกสึก นอกจากนี้จากการตรวจสอบพระคนสนิทของพระพรหมเมธี พบว่า ยังไม่มีรูปใดหายไปแต่อย่างใด โดยชุดสืบสวนได้เร่งติดตามจับกุมตัวให้ได้มากที่สุด
ยันข่าวมั่วตู้ดำพา"พระพรหมสิทธิ"หนี
ด้าน พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1 บก.ป. กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจพบเบาะแสสำคัญเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดภายในวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ที่สามารถบันทึกภาพรถตู้โฟล์คสวาเกน สีดำ คันหนึ่ง ซึ่งขับมามาจอดบริเวณด้านข้างกุฏิพระพรหมสิทธิ และคาดว่า น่าจะเป็นคันที่รับตัวพระพรหมสิทธิ หนีออกไปนอกวัด ก่อนที่จะมีการเข้าตรวจค้นภายในวัดนั้นว่า ขอยืนยันว่า รถคันดังกล่าวไม่ใช่รถที่ใช้พาพระพรหมสิทธิ หลบหนีการจับกุม แต่ยอมรับว่า รถคันดังกล่าวได้ขับเข้ามารับตัวพระพรหมสิทธิ จริง โดยเข้ามารับในช่วงเวลาประมาณ 11.00 น. ของวันที่ 23 พ.ค. แต่เป็นการมารับเพื่อพาไปทำกิจของสงฆ์ที่พุทธมณฑล ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม ก่อนที่รถคันดังกล่าวจะขับกลับมาส่งพระพรหมสิทธิ ที่วัดอีกครั้งในช่วงเวลาประมาณเที่ยงวันกว่า ๆของวันเดียวกัน
จากนั้น พระพรหมสิทธิ ก็ได้นั่งรถกอล์ฟเพื่อเดินทางไปยังหอฉันภายในวัด เพื่อฉันภัตตาหารเพล แล้วจะเดินทางกลับมายังกุฏิ ก่อนที่ต่อมาจะใช้ช่วงเวลาหลังจากนั้นในการหลบหนี
แฉเกลือเป็นหนอนสะกิด2พระหลบหนี
พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผู้บังคับการปราบปราม (ผบก.ป.) เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลเพื่อขยายผลถึงผู้ร่วมขบวนการทุจริตเงินทอนวัด ซึ่งจะมีการประชุมในช่วงบ่ายวันนี้ ส่วนการติดตามตัวพระพรหมสิทธิ เจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ นั้นได้ประสานสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพื่อติดตามหากมีการหลบหนีออกนอกประเทศ ซึ่งจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในวัด พบว่ามีการลบทิ้งทำลายไปบางส่วน
"แต่จะมีเกลือเป็นหนอนแจ้งให้หลบหนีก่อนเข้าจับกุมหรือไม่อยู่ระหว่างตรวจสอบ ส่วนความเป็นห่วงที่อาจมีม็อบพระออกมาเคลื่อนไหวกดดัน อยากให้ทุกฝ่ายแยกแยะในเรื่องความศรัทธาและความถูกต้อง เพราะญาติโยมนำเงินมาทำบุญเพื่อทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา พระก็ไม่ควรนำเงินไปทำในสิ่งที่ไม่ถูกไม่
"ผบช.ก."จี้พระผู้ใหญ่2รูปเข้ามอบตัว
พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) กล่าวถึงการติดตามตัวพระพรหมสิทธิ เจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร และพระพรหมเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร ที่ยังหลบหนีหมายจับคดีทุจริตเงินอุดหนุนวัดว่า อยากขอให้ท่านทั้ง 2 รูปเข้ามามอบตัวดีกว่า เพราะจะได้เข้ามาพิสูจน์ทราบตัวเองจะได้เป็นประโยขน์กับทุกฝ่าย เพราะทั้ง 2 รูปก็มีคุณงามความดี มีคนเคารพท่านอยู่ จึงอยากให้เข้ามามอบตัว เพราะจะเป็นสิ่งที่งดงามมากกว่า และตนเชื่อว่าท่านทั้ง 2 ยังอยู่ในประเทศไม่ได้หลบหนีออกนอกประเทศตามที่มีกระแสข่าว เพราะขณะนี้ทราบว่าทั้ง 2 รูปได้พยายามใช้วิธีเจรจากับบุคลที่ใกล้ชิดแล้วและแนวโน้มก็เป็นไปในทางที่ดี ส่วนจะเข้ามอบตัวหรือไม่และมีเงื่อนไขอย่างไรไม่ขอเปิดเผย คดีนี้ถือว่าเพิ่งเริ่มต้น ตำรวจยังต้องขยายผล หากพบใครเกี่ยวข้องจะต้องถูกดำเนินคดีอย่างแน่นอน
ตำรวจทำตามกม.ยันมีพยานหลักฐาน
"เราดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งกฎหมายไม่ได้ละเว้นว่าใครเป็นใคร ใครกระทำความผิดก็ต้องถูกดำเนินคดี แต่ขอให้มั่นใจว่าเป็นการปฏิบัติการที่มีข้อมูล มีข้อเท็จจริง มีพยานหลักฐาน สำหรับการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ทุกท่านที่เป็นพระครองจีวร เราให้เกียรติทุกท่านอยู่แล้ว แต่บางครั้งในการทำงานแต่ละครั้งเราก็ต้องระมัดระวังการทำงานของเจ้าหน้าที่ด้วย เราคำนึงถึงทุกฝ่าย"
ส่วนการขอหมายค้นวัดสัมพันธวงศ์ฯ และวัดสระเกศฯ วันนี้ เป็นไปตามขั้นตอนที่ตำรวจต้องเก็บหลักฐานให้ได้มากที่สุด แม้หลักฐานที่มีอยู่ในขณะนี้สามารถเอาผิดพระชั้นผู้ใหญ่ที่ถูกออกหมายจับได้ทั้งหมดแล้วก็ตาม ส่วนการตรวจค้นวัดเป้าหมายเมื่อวันที่ 24 พ.ค.ยังพบสิ่งผิดกฎหมายอื่นๆ อีกด้วย แต่ยังไม่ขอเปิดเผย โดยจะมีการแจ้งดำเนินคดีในข้อหาอื่นเพิ่มเติมอย่างแน่นอน
2พระเถระยังล่องหน!ตม.สั่งสกัดทุกด่าน
พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) กล่าวถึงกรณีข้อมูลการเดินทางเข้าออกประเทศของพระพรหมสิทธิ และพระพรหมเมธีว่า จากการตรวจสอบข้อมูลการเดินทางออกนอกประเทศจนถึงขณะนี้ ยังไม่พบว่าพระชั้นผู้ใหญ่ทั้ง 2 รูป ได้ขออนุญาตเดินทางออกนอกประเทศแต่อย่างใด
ส่วนเรื่องการประสานให้เฝ้าระวัง ได้รับการประสานจากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางแล้วตั้งแต่วันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งทันทีที่ศาลอนุมัติหมายจับ ก็มีการนำรายชื่อพระชั้นผู้ใหญ่ทั้งสองใส่ลงในระบบบัญชีเฝ้าระวัง ซึ่งเป็นขั้นตอนตามปกติ ทำให้ทุกด่านตรวจคนเข้าเมืองขณะนี้มีรายชื่อเหล่านี้ปรากฏอยู่แล้ว ส่วนความเป็นไปได้กรณีการเดินทางหลบหนีผ่านช่องทางธรรมชาตินั้น ตนไม่ขอยืนยัน แต่ได้สั่งกำชับให้ทุกด่านเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดแล้ว
พระยังมี"สุวพันธุ์"แนะชาวพุทธแยกแยะ
นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการจับกุมพระเถระผู้ใหญ่ในคดีเงินทอนวัดว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องของคณะสงฆ์ การปกครองคณะสงฆ์มีมหาเถรสมาคมปกครองอยู่ พระบัญชาของสมเด็จพระสังฆราชเป็นอย่างไร สำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติและรัฐบาลก็มีหน้าที่ที่จะสนองพระบัญชานั้น ขณะเดียวกันสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ก็มีงานที่เกี่ยวกับคณะสงฆ์อยู่แล้ว เราจะดูแลส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนา กิจการของคณะสงฆ์ให้เป็นไปอย่างดีที่สุด เพื่อให้พระพุทธศาสนาของเรามีความมั่นคง และยั่งยืนต่อไป
"เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นเรื่องของปัจเจกบุคคล ไม่ใช่เรื่องของคณะสงฆ์โดยรวม คณะสงฆ์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบยังมีอยู่เป็นจำนวนมาก ผมคิดว่าเราชาวพุทธต้องแยกแยะว่าอะไรเป็นเรื่องของปัจเจกบุคคล อะไรเป็นเรื่องของคณะสงฆ์ ยังเชื่อว่าความศรัทธาของชาวพุทธยังมีอยู่ เรายังเข้าวัด เรายังไปกราบพระสงฆ์ได้สนิทใจกันอยู่ ก็อยากเชิญชวนพี่น้องคนไทยได้เข้าใจความเป็นไปของเรื่องนี้ และช่วยทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาของเราต่อไป การที่ตำรวจเข้าไปจับกุมเมื่อวานนี้ ก็เป็นเรื่องของตำรวจ ที่ทำไปตามอำนาจหน้าที่ของเขาที่จะมีวิธีการในการดำเนินการ" นายสุวพันธุ์ กล่าว
ป.ป.ช.ชงคดีเงินทอนวัดเข้าที่ประชุมใหญ่
ที่สำนักงาน ป.ป.ช. สนามบินน้ำ นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีการแสวงหาข้อเท็จจริงคดีทุจริตเงินทอนวัด ในสำนวนที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ส่งมาให้ในล็อตที่มีพระผู้ใหญ่ในมหาเถรสมาคม (มส.) ถูก พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมเสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษเอาไว้ ว่า ตนได้มีคำสั่งด่วนให้เจ้าหน้าที่ในคณะทำงานแสวงหาข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าวรีบดำเนินการสรุปเรื่องเพื่อเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการป.ป.ช.ชุดใหญ่พิจารณาในสัปดาห์หน้า ส่วนจะเป็นการประชุมคณะกรรมการป.ป.ช.ในวันพุธที่ 30 พ.ค. หรือพฤหัส 31 พ.ค.นั้น ต้องแล้วแต่ประธานป.ป.ช.จะเป็นผู้บรรจุวาระการประชุม
"สั่งให้เจ้าหน้าที่สรุปเสนอกรรมการป.ป.ช.พิจารณาสัปดาห์หน้านี้ สรุปจากเรื่องที่ปปป.ตร.ส่งสำนวนมากให้ป.ป.ช. กับสิ่งที่เจ้าหน้าที่ไปแสวงหาข้อมูลมา และได้ให้ประสานข้อมูลกับทางตำรวจกองปราบปรามในกรณีที่เป็นข่าวดังกล่าวว่ามีส่วนเกี่ยวโยง เกี่ยวข้องกันอย่างไรหรือไม่กับเรื่องที่ปปป.ตร.ส่งมานั้น ส่วนกรรมการป.ป.ช.ชุดใหญ่จะพิจารณาอย่างไรก็ต้องแล้วแต่ที่ประชุม" นายวรวิทย์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี