เจ้าหน้าที่ยังคงเดินหน้ากวาดล้างขบวนการพระสงฆ์และฆราวาส ที่ร่วมมือกันทุจริตงบประมาณงบประมาณสำนักงานพระพุทธศาสนา หรือเงินทอนวัดอย่างต่อเนื่อง
ล็อต4มาแล้วล็อกเป้าสอบอีก60วัด
ล่าสุด 27 พ.ค.61 มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) ลงพื้นที่ตรวจสอบการทุจริตงบประมาณสำนักงานพระพุทธศาสนา ล็อตที่ 4 ช่วง พ.ศ.2554 - 2559 โดยมีเป้าหมาย 60 วัดทั่วประเทศ
เจอทุจริต26แห่งมูลค่าเสียหายกว่า100ล.
ขณะนี้ทำการตรวจสอบไปแล้วประมาณ 60% หรือประมาณ 40 วัด พบเข้าข่ายทุจริต 26 วัด แบ่งเป็น โซนภาคเหนือ เข้าข่ายทุจริต 3 วัด โซนภาคใต้ เข้าข่ายทุจริต 4 วัด โซนภาคกลาง เข้าข่ายทุจริต 16 วัด โซนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าข่ายทุจริต 1 วัด และโซนภาคตะวันออก เข้าข่ายทุจริต 2 วัด ความเสียหายประมาณ 100 ล้านบาท
ลุ้น"พงศ์พร"แจ้งความดำเนินคดี
หลังจากนี้จะมีการประชุมสรุปผลให้ พล.ต.ต.กมล เหรีญราชา ผบก.ปปป.เวลา 10.00 น.วันที่ 29 พ.ค.นี้ นอกจากนี้ ต้องรอ พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.พศ.ในฐานะผู้เสียหรือตัวแทนหน่วยงานที่เสียหาย เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษ พนักงานสอบสวน บก.ปปป.ดำเนินคดีการทุจริตเงินทอนวัดล็อต 4 จากนั้นนำพยานหลักฐานทั้งหมดสรุปสำนวนส่งให้ ป.ป.ช.ดำเนินการตามขั้นตอน ไม่เกินเดือน ก.ย.61
ผบก.ปปป.ยืนยันพบทุจริตแล้ว
ด้าน พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผบก.ปปป.กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบทุจริตเงินทอนวัด ล็อตที่ 4 ยืนยันว่า ในส่วนของล็อตที่ 4 พบการกระทำผิดแล้ว มีทั้งข้าราชการและพระสงฆ์ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ยังไม่มีการสรุปจำนวนวัดและบุคคลที่กระทำผิดอย่างชัดเจน ต้องใช้เวลาอีกสักระยะแต่ไม่ได้กำหนดกรอบระยะเวลาในการทำงานเพราะเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน ต้องดำเนินการอย่างละเอียดรอบคอบ
เตรียมสรุปสำนวนให้ปปช.เชือด
ส่วนขั้นตอนการดำเนินการหลังตรวจสอบพบการทุจริต ซึ่งหากผู้กระทำผิดเป็นข้าราชการก็จะสรุปรายงานส่งให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พิจารณาไต่สวนชี้มูลคดี หากเป็นพระสงฆ์ หรือบุคคลทั่วไป ก็จะออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหา
"สุวพันธุ์"เข้มงวดรับเงินบริจาค
นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงระเบียบของวัดในการรับเงินบริจาค ควรจะนำเข้าบัญชีของเจ้าอาวาสหรือบัญชีของวัดซึ่งเปิดขึ้นมาโดยเฉพาะหรือไม่ ว่า การดำเนินการของคณะสงฆ์หลายเรื่องมีความเข้มงวด เช่น การทำบุญ การรับเงินบริจาค การปฏิบัติกิจของสงฆ์ ซึ่งออกเป็นมติมหาเถรสมาคมหลายฉบับ โดยหลังจากนี้จะมีการวางกฎเกณฑ์ และมติมหาเถรสมาคมเพิ่มมากขึ้น
จับกุมพระเถระไม่กระทบศาสนา
ส่วนที่มีข่าวการจับกุมพระผู้ใหญ่ในช่วงวันสำคัญ จะมีผลต่อความเชื่อและศรัทธาของประชาชนหรือไม่ นายสุวพันธุ์ ย้ำว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องปัจเจก ไม่ใช่คณะสงฆ์โดยรวม และไม่เกี่ยวข้องกับความเชื่อมั่นและศรัทธาในพระพุทธศาสนา ส่วนตัวคิดว่าจะต้องจำแนก ระหว่างเรื่องปัจเจกบุคคลและคณะสงฆ์ และพระธรรมคำสอน เพราะศาสนาพุทธดำรงคำสอนมากว่า 2561 ปีแล้ว จะอย่างไรก็ยั่งยืน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี