28 พ.ค.61 จากกรณีที่พระมหาสมิทธิ์ โชติโก แก้วขันตี เจ้าอาวาสวัดศรีจันทร์ประดิษฐ์ โพสต์เผยแพร่ภาพของพระพุทธรูปหลวงพ่อขาว ปรางสมาธิ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปสมัยลานช้าง ที่มีอายุกว่าร้อยปี ที่เรือขุดสันดอนของกรมเจ้าท่าที่มาขุดลอกสันดร ทีบริเวณชายทะเลด้านหลังวัด ขุดพบพระพุทธรูปองค์ดังกล่าวจมอยู่กลางสันดรในทะเล และนำมาตั้งประดิษฐานวันที่วัดศรีจันทร์ประดิษฐ์ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2511 ซึ่งเป็นพระศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านด้วยความศรัทรา ถูกคนร้ายลักตัดเศียรจนขาด แต่เอาเศียรของพระพุทธรูปองค์ดังกล่าวไปไม่ได้ เพราะคิดว่าเป็นพระทองคำอยู่ด้านใน
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางเข้าทำการตรวจสอบที่วัด พบว่าพระพุทธรูปองค์ดังกล่าวตั้งอยู่ด้านหน้าศาลา ตรงข้ามกับโบสถ์ ห่างจากประตูทางเข้าวัดประมาณ 200 เมตร ซึ่งเป็นพระพุทธรูปหน้าตัก 36 นิ้ว สูงประมาณ 1 เมตร เป็นพระปรางสมาธิอยู่ในสมัยลานช้าง ที่บริเวณรอบลำคอมีร่องลอยถูกคนร้ายใช้ของแข็งตัดรอบเศียรของพระพุทธรูป ขาดออกจากองค์พระแต่ยังไม่หลุดเนื่องจากติดเหล็กเส้นของโครงสร้างองค์พระจำนวน 3 เส้นที่ยึดเว้นด้านใน จึงทำให้คนร้ายที่ลงมือก่อเหตุไม่สาสารถนำเศียรพระองค์ดังกล่าวไปได้ ทำให้ส่วนประกอบของติ่งหูพระพุทธรูปองค์ดังกล่าวขาดหายไป
โดยคาดว่าเหตุการณ์ดังกล่าว น่าจะเกิดขึ้นเมื่อกลางดึกเมื่อ 2 คืนที่ผ่านมา เป็นช่วงที่มีฝนตกลงมาอย่างหนัก และพระลูกวัดมาพบเห็นเมื่อวานนี้ที่ 27 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ซึ่งได้มีการแจ้งความร้องทุกข์เอาไว้ที่โรงพัก สภ.บางปู สมุทรปราการ ไว้แล้ว
พระมหาสมิทธิ์ โชติโก แก้วขันตี เจ้าอาวาสวัดศรีจันทร์ประดิษฐ์ กล่าวว่า พระพุทธรูปองค์ดังกล่าวเป็นพระพุทธรูปที่ได้มาจากกรมเจ้าท่าเมื่อประมาณปี พ.ศ.2511 ที่กรมเจ้าท่ามาทำการขุดลอกสันดอน ทีร่องน้ำกลางทะเลและพบพระพุทธรูปองค์นี้จมอยู่กลางทะเล ทางกรมเจ้าท่าจึงเอามาถวายเจ้าอาวาสวัดองค์เก่า ท่านเจ้าอาวาสวัดองค์เก่าก็เลยเอามาตั้งไว้ในวัด จนมีชาวบ้านมากราบไหว้เป็นจำนวนมาก ชาวประมงก็นำเอาดอกมะลิมากราบไหว้เป็นจำนวนมาก ก็เลยนับถือกันเลื่อยมา และญาติโยมทั่วไปต่างให้ความนับถือ อาตมาจึงนำองค์พระขึ้นมาทำการซ่อมแซม บรูณะใหม่ ทั้งหัวเข่าลำคอและฐานลอง และก็ไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น มีแต่ตู้บริจาคที่ถูกก่อเหตุบ่อยครั้ง พอมาเมื่อวานนี้ทางวัดจะทำการย้ายองค์หลวงพ่อไปไหว้หน้าศาลา เพราะจะทำการบูรณและทำเป็นหลังคาเมทัลชีท ก็มาสังเกตเห็นว่า หลวงพ่อมารอยร้าวที่คอ พอตนออกมาดูก็ได้บอกว่าไม่ใช่ มีคนร้ายพยามยามจะตัดเศียรของหลวงพ่อ
โดยการใช้ขวานเซาะดูก่อนว่าด้านในมีพระทองคำองค์เล็กอยู่ข้างใน ก็เลยมีการใช้ขวานเซาะที่องค์หลวงพ่อดูก่อนว่าเป็นทองเหลืองหรือเป็นปูน พอเป็นปูนก็สันนิฐานว่า ด้านในจะเป็นทองคำอยู่ด้านใน คนร้ายจึงใช้ขวานหรือเหล็กสกัดบริเวณคอ และก็สันนิฐานว่าคนร้ายน่าจะคิดว่าเป็นพระทองคำอยู่ด้านใน หรือจะลักตัดเศียรพระไปขายนักสะสมของโบราญ ก็เลยทำการงัดเศียรดูก่อนเพราะตรงเศียรเป็นจุดที่เปาะบางขององค์พระ แต่ปรากฏว่ามีเหล็กอยู่ด้านในอีก 3 เส้น เพราะในช่วงที่วัดบูรณองค์หลวงพ่อได้นำเหล็กเสียบไว้ 3 เส้น สมัยก่อนเราจะนำไปแห่ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ให้คนสรงน้ำ ด้วยแรงสะเทือนกลัวเศียรท่านจะพัง ก็เลยเอาเหล็กดามเอาไว้ด้านใน จึงทำให้คนร้ายเอาเศียรท่านไปไม่ได้
ทางวัดก็เลยหวั่นใจว่ามีคนจ้องตัดเศียรพระ หรืออาจจะเป็นแก๊งลักตัดเศียรพระออกอาละวาด ก็เลยไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่โรงพักบางปู ให้ช่วยติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุ หลังจากที่เกิดเหตุทางวัดก็เลยนำพระพุทธรูปเก่าที่มีอายุกว่าร้อยปีเข้าไปเก็บไว้ในศาลาเพื่อความปลอดภัย ก็เลยอยากจะบอกคนที่มาก่อเหตุลักตัดเศียรพระ ว่าถึงจะไม่มีค่ามากอะไรแต่ก็มีค่าทางจิตใจของชาวพุทธของพระเณร ของญาติโยมชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียงวัด และขอยืนยันว่าพระพุทธรูปองค์นี้เป็นพระปูนปั้นเท่านั้นเอง ไม่ใช้พระทองคำอะไร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี