สกัดม็อบหมอ
สธ.ก้นร้อนนัดถก‘คลัง’
‘แพทย์ชนบท’ทุบโต๊ะ
จี้ล้มระเบียบไดโนเสาร์
รมว.สาธารณสุข เตรียมนำทีมบุกเคลียร์ รมว.คลัง รอบใหม่ 31 พฤษภาคมนี้ ปมออกระเบียบ “ไดโนเสาร์” ห้ามรับ-ขึ้นเงินลูกจ้าง เสียงอ่อยยอมรับกระทบบริการประชาชน ด้าน “ชมรมแพทย์ชนบท” ยืนกรานต้องล้มเท่านั้น ฮึ่มขืนดื้อด้าน 1 มิ.ย.เจอหมอม็อบบุกหาถึงกระทรวง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 31 พฤษภาคม นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุข นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมตัวแทนคณะแพทย์ที่เกี่ยวข้อง จะเข้าพบ อภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เพื่อหาทางออกเกี่ยวกับระเบียบกระทรวงคลัง ว่าด้วยการจ้างพนักงานหรือลูกจ้าง โดยใช้จ่ายเงินนอกงบประมาณ พ.ศ.2561 ไม่ให้กระทบกระเทือนการทำงานของแพทย์ ในการให้บริการประชาชน โดย นพ.เจษฎา เผยว่า การหารือร่วมกันดังกล่าวคงจบลงด้วยดี เพราะเป็นการหารือในระดับรัฐมนตรี
ด้าน นพ.เกรียงศักดิ์ วัชระนุกูลเกียรติ ประธานชมรมแพทย์ชนบท กล่าวว่าตนเป็นคนหนึ่งที่ต้องไปพบ รมว.คลังด้วย และขอยืนยันคัดค้านระเบียบตัวนี้ พร้อมขอให้มีการยกเลิก และให้มีการปรับแก้ระเบียบเงินบำรุงกระทรวงสาธารณสุข ในข้อที่ 10 เนื่องจากมีการเอาไปผูกโยงให้การจ้างงานลูกจ้างที่ต้องขออนุมัติจากกระทรวงการคลังก่อน ไม่สอดคล้องกับการให้บริการประชาชนในทางการแพทย์
“ถ้ายกเลิกระเบียบการคลัง เราก็จะยกเลิกการชุมนุมที่จะมีขึ้นที่หน้ากระทรวงการคลังและทำเนียบรัฐบาล ในวันที่ 1 มิถุนายนนี้ แต่ถ้าไม่ยกเลิกก็ต้องชุมนุม โดย ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง”ประธานชมรมแพทย์ชนบท กล่าว และว่า ขณะนี้บางโรงพยาบาลมีทหารเข้าไปเจรจาให้ปลดป้ายคัดค้านระเบียบดังกล่าว ส่วนตนได้รับการเจรจาทางโทรศัพท์ ก็ไม่เป็นไร ไม่ให้ขึ้นป้ายหน้า รพ. เราก็ย้ายไปขึ้นป้ายหน้าห้องผู้ป่วยนอกแทน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนได้ข้อสรุปไปพบ รมว.คลังหนนี้ ทางนาย นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้เรียกประชุมนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ผอ.รพ.ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ผู้บริหารเขตสุขภาพ ราวๆ 800 คน เมื่อเช้าวันที่ 30 พฤษภาคมเพื่อชี้แจงทำความเข้าใจกับระเบียบดังกล่าว
โดยช่วงแรก พญ.พรรณพิมล วิปุลากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นตัวแทนในการรับฟังความคิดเห็นก่อน โดยการประชุมดำเนินไปได้ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง นพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผอ.รพ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ในฐานะกรรมการชมรมแพทย์ชนบทได้ขึ้นแสดงความคิดเห็น โดยกล่าวตอนหนึ่งแนวตัดพ้อว่า ปลัดกระทรวงสาธารณสุขใกล้ถึงเวลาเกษียณแล้วควรทำอะไรที่ถูกต้อง และไม่ควรอิงตามระเบียบกระทรวงการคลัง และปรับปรุงระเบียบเงินบำรุง ของกระทรวงสาธารณสุขที่ไม่แตกต่างจากระเบียบกระทรวงการคลังเลย
ปรากฎว่า ระหว่างที่ นพ.อารักษ์ กล่าวอยู่นั้น พบว่ามีแพทย์จำนวนหนึ่งต่างทยอยเดินออกจากห้องประชุม ซึ่งจากการสอบถามต่างรู้สึกไม่พอใจและต้องการทำความเข้าใจเรื่องระเบียบที่ออกมาจริงๆ ไม่ได้ต้องการมาฟังอะไรแบบนี้ จนกระทั่ง นพ.เจษฎา เดินทางมาถึงที่ประชุมกลุ่มแพทย์จึงได้กลับเข้าไปในห้องประชุมอีกครั้ง อย่างไรก็ตามในเรื่องดังกล่าวปลัดกระทรวงสาธารณสุข ย้ำว่าระเบียบของกระทรงวการคลังไม่ชัดเจน ทำให้ตีความยากและขอให้มีการปรับปรุง ซึ่งเชื่อว่าการไปพบ รมว.คลัง คงจบลงด้วยดี
ศาลอนุมัติหมายจับทนายหนุ่ม บงการทนายสาว ขนยาไอซ์ 860 กก. ตำรวจภาค 5–ป.ป.ส.ยกกำลังบุกบ้านยึดทรัพย์เกลี้ยง เจ้าตัวรู้แกวเผ่นหนีทัน ส่งชุดไล่ล่าติดตาม คาดได้ตัวในเร็วๆ นี้
จากกรณีที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภาค 5 ทำการจับกุมตัว น.ส.ชญาดา ชัยแว่นแคว้น อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 101/14 หมู่ 11 ต.ป๋าแป๋ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ อาชีพทนายความ พร้อมด้วยของกลาง ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) จำนวน 32 กระสอบ หนักรวมประมาณ 860 กิโลกรัม รถยนต์กระบะติดตั้งห้องเย็น สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จำนวน 1 คัน รถยนต์กระบะ โตโยต้า วีโก้ สีดำ หมายเลขทะเบียน 5กข 1759 กรุงเทพมหานคร โทรศัพท์มือถือ จำนวน 5 เครื่อง โดยจับกุมได้บนนถนน สายเทิง - เชียงราย เชิงสะพานข้ามแม่น้ำลาว ต.ท่าสาย อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย ขณะที่ทนายสาวกำลังลอบลำเลียงยาไอซ์ เข้าไปในพื้นที่ภาคกลางของประเทศ ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้วนั้น
เมื่อวันที่ 30 พ.ค. พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.ภาณุเดช บุญเรือง รอง ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.จารึก ลิ้มสุวรรณ ผบก.สส.ภ.5 พร้อมเจ้าหน้าที่ปปส.ภาค 5 ได้นำเสนอศาลออกหมายจับตัว นายเอกราช พิทักษ์ไพร อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 26/3 หมู่ 12 ต.แม่วิน อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ ทนายหนุ่มชื่อดังของจังหวัดเชียงใหม่ หมายจับที่ จ.192/2561 ศาลจังหวัดเชียงราย ข้อหา”ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์)มีปริมาณคำนวนเป็นสารบริสุทธิ์เกินยี่สิบกรัมขึ้นไปไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยไม่ได้รับอนุญาต”
หลังศาลออกหมายจับทางเจ้าหน้าที่ได้นำกำลังบุกไปค้นที่บ้านเลขที่ 116/95 หมู่ 5 ต.สันผีเสื้อ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นบ้านของ นส.ชญาดา สามารถตรวจยึดเงินสด 3 แสนบาท แหวนและสร้อยคอทองคำมูลค่ากว่า 2 แสนบาท รถยนต์เก๋ง ฮอนด้า ซีวิค สีดำ หมายเลขทะเบียน งค 6166 เชียงใหม่ สมุดบัญชีธนาคาร 5 เล่มยอดเงินรวม 5 แสนบาท จึงอายัดทรัพย์สินไว้ทั้งหมด
และกำลังอีกส่วนหนึ่งบุกค้นที่บ้านเลขที่ 26/3 หมู่ 12 ต.แม่วิน อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ สำนักงานเอกพิทักษ์ยุติธรรมทนายความ ซึ่งเป็นบ้านของนายเอกราช แต่ไม่พบตัวจึงอายัดบ้านหลังดังกล่าวมูลค่า 5 ล้านบาท รถยนต์กระบะ อีซูซุ สีส้ม หมายเลขทะเบียน ผษ 8981 เชียงใหม่ ปืนพกสั้น 9 มม. 1 กระบอก ปืนลูกซองยาว 5 นัด 1 กระบอก ปืนไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก กระสุนปืนชนิดต่างๆรวม 742 นัด เงินสด 55,000 บาท ทองคำขาว 3 แท่ง และเครื่องประดับอีกจำนวนมาก จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้บุกค้นบ้านเลขที่ 299/28 หมู่ 2 ต.สันทรายน้อย อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ซึ่งมีป้ายหน้าบ้านเป็นสำนักงานเอกพิทัก์ยุติธรรมทนายความ ซึ่งเป็นบ้านของ นายเอกราช อีกแห่งหนึ่ง ก็ทำการอายัดบ้านไว้ ราคาประมาณ 4 ล้านบาท
พล.ต.ต.ภาณุเดช เปิดเผยว่า การจับกุมทนายความสาวนั้นเมื่อสอบสวนขยายผลก็ทราบว่าตัว นส.ชญาดา นั้นมีความสัมพันธ์ส่วนตัวกับ นายเอกราช ทนายความหนุ่มที่เปิดสำนักงานทนายความ 2 แห่งโดยนายเอกราช จากการตรวจสอบประวัติเคยว่าความให้กลุ่มผู้ค้ายาหลายครั้ง มีความสนิทชิดเชื้อ จนผันตัวมาเป็นคนดำเนินการขนส่งยาโดยให้ น.ส.ชญาดา ลอบขนยาล็อตใหญ่ที่สุดในประเทศไทย 860 กิโลกรัม แต่การข่าวตำรวจก็ดักจับไว้ได้ เมื่อ น.ส.ชญาดา ถูกจับได้ นายเอกราช ก็ชิงหลบหนีไปก่อน ทางตำรวจจึงขอศาลออกหมายจับพร้อมกับส่งกำลังไล่ติดตามล่าตัวแต่ก็ไม่พบ แต่เชื่อว่ายังคงหลบหนีภายในประเทศ
นอกจากนี้ ในบ้านของนายเอกราช ยังพบแผนที่ประเทศไทย ซึ่งมีจุดดำ ที่บอกถึงตำแหน่งด่านสกัดของตำรวจ และทหาร ตั้งแต่พื้นที่ภาคเหนือยันพื้นที่ภาคใต้ แสดงว่าต้องศึกษาเส้นทางการขนส่งยาอย่างดี และอาจจะขนยาเสพติดมาแล้วหลายครั้ง ซึ่งทางตำรวจกำลังสืบสวนขยายผลการต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี