วันนี้ (31 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานข่าวความคืบหน้าคดีทุจริตเงินทอนวัดตั้งแต่ล็อตที่ 3 กับล็อตที่ 4 ว่า คดีทุจริตเงินทอนวัดล็อต 3 ที่พนักงานสอบสวนปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) ส่งสำนวนคดีกล่าวหานายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ อดีตผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (อดีต ผอ.พศ.) กับพวกทุจริตเงินงบประมาณ พศ.กว่า 100 ล้านบาทรวม 10 วัด จำนวน 11 คดี โดย ปปป.ส่งสำนวนล็อต 3 ชุดแรก เมื่อวันที่ 11 เม.ย.61 ดำเนินคดี 3 วัด 4 คดี และส่งสำนวนล็อต 3 ชุดสองให้ ป.ป.ช.เมื่อวันที่ 23 เม.ย.61 ดำเนินคดี 7 วัด 7 คดี กระทั่งวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (เลขาฯ ป.ป.ช.) ได้แถลงข่าวว่า ป.ป.ช.มีมติส่งสำนวนคดีเงินทอนวัดล็อต 3 ชุดแรกคืนให้ ปปป.ส่งฟ้องอัยการเพื่อความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
คดีเงินทอนวัดล็อต 3 ชุดแรกพนักงานสอบสวนมีหลักฐานเอาผิดอดีตพระพรหมสิทธิ หรืออดีตเจ้าคุณธงชัย อีดตเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร, แดีตพระพรหมเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม, อดีตพระพรหมดิลก เจ้าอาวาสวัดสามพระยา, อดีตพระเมธีสุทธิกร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร และอดีตพระวิจิตรธรรมาภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร
ในส่วนของคดีเงินทอนวัดล็อต 4 นั้น ขณะนี้ ปปป.ได้ดำเนินการตรวจ 90 วัดทั่วประเทศ พบเกี่ยวข้องกับการทุจริตแล้ว 29 วัด และทาง ปปป.จะยังดำเนินการตรวจสอบต่อไป จนกว่าจะไม่พบวัดที่กระทำความผิด
พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) เปิดเผยผลสืบสวนเพื่อเอาผิดคดีทุจริตเงินทอนวัดล็อต 4 ว่า อยู่ระหว่างตรวจสอบวัดทั่วประเทศที่ได้รับงบประมาณจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) มากกว่า 1,000,000 บาท ช่วงปี 2555-2560 โดยพบการกระทำความผิดบ้างแล้ว รอ พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (ผอ.พศ.) มาร้องทุกข์กล่าวโทษเท่านั้น
"ที่ผ่านมา ปปป.ได้ประสานเรื่องข้อมูลกับ พศ.มาตลอด ล็อตที่ 4 นี้ยังคงเน้นเอาผิดกลุ่มข้าราชการที่ทุจริตเงินของรัฐเป็นหลัก และผู้กระทำความผิดส่วนใหญ่เป็นข้าราชการของ พศ.ดำรงตำแหน่งช่วงปี 2555-2560 ซึ่งถูกดำเนินคดีไปแล้วก่อนหน้านี้ เพราะเป็นผู้มีอำนาจเบิกจ่ายและโอนเงินในช่วงดังกล่าว" พล.ต.ต.กมล กล่าว
ผบก.ปปป.กล่าวยืนยันว่า คดีทุจริตเงินทอนวัดล็อต 4 นี้อาจไม่ใช่ล็อตสุดท้าย เพราะ ปปป.จะตรวจสอบจนกว่าจะไม่พบวัดที่กระทำความผิด
พล.ต.ต.กมล กล่าวต่ออีกว่า ส่วนกรณีสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โอนสำนวนคดีเงินทอนวัด ล็อต 2 กลับมาให้ ปปป.ดำเนินการนั้น เป็นเรื่องดีที่ ป.ป.ช. มองเห็นศักยภาพการทำงานของ ปปป. อีกทั้งยังเป็นอำนาจหน้าที่ที่ ปปป. จะดำเนินการได้ หลังจากรับสำนวน จะดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยจะส่งสำนวนให้อัยการพิจารณาได้ทันที
"สำหรับคดีเงินทอนวัด ดำเนินการไปแล้ว 3 ล็อต มูลค่าความเสียหายกว่า 340 ล้านบาท และเป็นการตรวจสอบทุจริตใน 3 งบประมาณ คือ งบบูรณะปฏิสังขรณ์และพัฒนาวัด,งบอุดหนุนส่งเสริมการเผยแผ่พระพุทธศาสนา และเงินอุดหนุนการศึกษาพระปริยัติธรรม โดยวัดสระเกศฯซึ่งถูกดำเนินคดีในล็อต 3 ถือเป็นการทุจริตงบสูงสุดกว่า 150 ล้านบาท" ผบก.ปปป.กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี