.
31 พ.ค.61 สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือสภาพัฒน์ รายงานภาวะสังคมไทยไตรมาสแรก ปี 2561 โดยสถานการณ์ทางสังคมที่สำคัญ ในหัวข้อ “เด็กและเยาวชนไทยกับการเล่นพนันทายผลฟุตบอล” นั้น ทางสภาพัฒน์ ระบุว่า ปัจจุบันมีเด็กและเยาวชนเข้าสู่วงจรการพนันทายผลฟุตบอลมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลกซึ่งเป็นรายการใหญ่ที่ได้รับความนิยมในการดูการถ่ายทอดสด ทำให้เกิดนักพนันทายผลฟุตบอลหน้าใหม่จำนวนมาก
จากรายงานสถานการณ์การพนันในสังคมไทย ปี 2560 ของศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) พบว่า คนไทยร้อยละ 54.6 หรือประมาณ 28.9 ล้านคนเล่นการพนันในปี 2560 ในจำนวนนี้เป็นเด็กและเยาวชน 15-25 ปี 3.6 ล้านคน
โดยการพนันทายผลฟุตบอล เป็นการพนันที่ได้รับความนิยมในอันดับต้นๆ รองจากสลากกินแบ่งรัฐบาล หวยใต้ดิน และไพ่ มีนักพนันประมาณ 2.47 ล้านคน เป็นนักพนันหน้าใหม่ 1.17 แสนคน มีวงเงินหมุนเวียนในตลาดการพนันทายผลฟุตบอล 140,016 ล้านบาท
แม้นักพนันส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงวัยทำงาน แต่ก็ต้องเฝ้าระวังในกลุ่มเด็กและเยาวชนซึ่งเล่นพนันทายผลฟุตบอลมากถึงประมาณ 6.09 แสนคน ในจำนวนนี้เป็นเด็กอายุ 15-18 ปีถึง 1.38 แสนคน โดยส่วนมากเล่นกับเพื่อน ญาติ คนรู้จัก โต๊ะบอล และเล่นผ่านเว็บไซต์รับแทงพนัน ซึ่งปัจจุบันสามารถเล่นได้เกือบทุกวัน เนื่องจากมีโปรแกรมการแข่งขันที่หลากหลายให้เลือกจากรายการแข่งขันชั้นนำทั่วโลก
สำหรับการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งที่ผ่านมา จากผลการสำรวจพฤติกรรมรับชมและการเล่นพนันทายผลฟุตบอลโลก 2014 พบว่า กลุ่มตัวอย่างเกือบครึ่งติดตามชมการถ่ายทอดสดการแข่งขัน โดยร้อยละ 9.4 หรือประมาณ 4.6 ล้านคนเล่นพนันทายผลฟุตบอล
ที่น่ากังวลคือ มีประมาณ 2 ล้านคนเป็นนักพนันทายผลฟุตบอลหน้าใหม่ และในจำนวนนี้ประมาณ 1 ใน 4 คิดจะเล่นพนันทายผลฟุตบอลรายการอื่นต่อไป
จำนวนนักพนันทายผลฟุตบอลที่เพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งเกิดจากสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวย อาทิ การมีบุคคลรอบข้างเล่นพนันทายผลฟุตบอลแล้วชวนไปเล่นด้วย การเข้าถึงแหล่งรับพนันได้ง่าย และสังคมส่วนหนึ่งยอมรับว่าการเล่นพนันกับเพื่อน โดยใช้สิ่งอื่นที่ไม่ใช่เงินเป็นเรื่องปกติ ทำให้กลุ่มผู้ที่เล่นพนันทายผลฟุตบอลโดยส่วนใหญ่มองว่าการเล่นพนันทำให้เชียร์ฟุตบอลได้สนุกตื่นเต้นขึ้น
ทั้งนี้ พบว่า คนเล่นพนันทายผลฟุตบอลร้อยละ 6.6 หรือประมาณ 303,087คน มีหนี้สินจากการเล่นพนันทายผลฟุตบอลโลก และบางส่วนก่อให้เกิดปัญหาต่างๆ อาทิ ความเครียด ทะเลาะกับคนในครอบครัวและคู่พนัน ถูกโกง เสียการเรียน/เสียงาน ถูกขู่กรรโชกทำร้ายร่างกาย
สำหรับการแข่งขันฟุตบอลโลก 2561 รอบสุดท้ายที่จะมีขึ้นในช่วงเดือนมิถุนายน ศกนี้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ ภาคประชาสังคม และเครือข่ายเด็กและเยาวชน ได้ร่วมกันกำหนดมาตรการป้องกัน ปราบปราม และช่วยเหลือเยียวยาอย่างเป็นระบบ ทั้งการสื่อสารและสร้างความตระหนักแก่สังคม โดยเฉพาะผลกระทบจากการพนันทายผลฟุตบอลออนไลน์ต่อเด็ก และเยาวชน การประชาสัมพันธ์สายด่วนแจ้งเบาะแส มาตรการป้องกันเพื่อลดผลกระทบจากการพนันทายผลฟุตบอลออนไลน์ มาตรการปราบปรามและบังคับใช้กฎหมาย และมาตรการช่วยเหลือและเยียวยาเด็กที่ได้รับผลกระทบจากการพนันทายผลฟุตบอลออนไลน์
ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ออกมาตรการในการป้องกันและแก้ปัญหาการเล่นพนันบอลในสถานศึกษาในสังกัด โดยให้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด อาทิ ให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษาดูแลรับผิดชอบ การป้องกันและแก้ปัญหาการเล่นพนันทายผลฟุตบอลอย่างเป็นรูปธรรม โดยให้ถือเป็นพันธกิจที่ต้องปฏิบัติทุกระดับชั้น หากบุคลากรที่ได้รับมอบหมายละเลย ให้ถือว่าจงใจละเลยการปฏิบัติหน้าที่ ต้องถูกดำเนินการทางวินัย หากโรงเรียนไม่สามารถแก้ปัญหาเองได้ ให้ขอความช่วยเหลือจากสำนักพัฒนากิจกรรมนักเรียน สพฐ. นอกจากนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้จัดตั้งศูนย์ป้องกันและปราบปรามการลักลอบเล่นการพนันทายผลการแข่งขันฟุตบอล โดยประชาชนสามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วน 1599
จากข้อมูลผู้ใช้บริการสายด่วนสุขภาพจิตเลิกพนัน 1323 พบว่า ปัญหาที่มีผู้โทรมาขอรับคำปรึกษามากที่สุดคือพนันบอล โดยในช่วงฟุตบอลยูโร 2559 มีผู้โทรมาปรึกษาเพิ่มสูงกว่าช่วงฟุตบอลโลก 2557 ถึง 8 เท่า สำหรับผลในการบำบัดผู้มีปัญหาติดการพนันในกลุ่มของผู้ใหญ่พบว่าร้อยละ 30 สามารถเลิกได้ มีร้อยละ 5 ที่กลับไปติดซ้ำ ส่วนในกลุ่มเยาวชนพบว่าสามารถเลิกได้ร้อยละ 9 และกลับไปเล่นการพนันและติดซ้ำร้อยละ 5
ประเด็นที่น่าเป็นห่วงคือ เด็กและเยาวชนที่ติดการพนันจะบำบัดได้ยากกว่าผู้ใหญ่ เนื่องจากสมองส่วนหน้าซึ่งเกี่ยวกับการคิดการตัดสินใจด้วยเหตุผลยังไม่พัฒนาเท่าผู้ใหญ่ ขณะที่สมองส่วนหลังซึ่งเกี่ยวข้องกับความอยากได้พัฒนาไปก่อน เด็กจึงไม่สามารถยับยั้งชั่งใจได้ และหันไปติดพนันซ้ำได้ง่าย ซึ่งหากติดตั้งแต่อายุยังน้อยก็จะทำให้มีโอกาสติดการพนันไปตลอดชีวิต
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี