การใส่ผ้าถุง หรือนุ่งซิ่น เป็นรากเหง้าวัฒนธรรมการแต่งกายของสตรี ที่แสดงถึงอัตลักษณ์ของชนชาติมายาวนาน และเป็นหนึ่งในองค์ประกอบหลักของการแต่งกายในชุดประจำชาติ เห็นชัดเจนที่สุดในแถบภูมิภาคเอเชีย ได้แก่ ไทย เมียนมา ลาว เวียดนาม มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ อินโดนีเซีย จีน เกาหลี ญี่ปุ่น ซึ่งแต่เดิมผ้าถุงหรือซิ่นจะได้จากผืนผ้า ที่ถักทอจากผ้าไหมหรือผ้าฝ้าย นำมาแปรรูปหรือตัดเย็บ สวมใส่ในชีวิตประจำวัน ก่อนที่ในสมัยหลังๆต่อมา จะพบว่ามีการใช้ไยสงเคราะห์จากโรงงานอุตสาหกรรม ที่เรียกว่าผ้าโทเร เข้ามาเป็นอีกทางเลือกเลือกหนึ่งในวงการผ้าไทย
จากยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลง ทุกคนต้องทำงานต้องแข่งขันกับเวลา สตรีออกทำงานนอกบ้านมากขึ้น และต้องอาศัยความคล่องตัวในการทำงาน ตามลักษณะงาน จึงหันไปสวมใส่กระโปรง หรือกางเกงแทนการนุ่งซิ่น ประกอบกับได้รับอิทธิพลจากชาติตะวันตก ในการนุ่งกางเกงแทนการนุ่งซิ่นมากขึ้น ขณะที่การทอผืนผ้าที่จะนำตัดเย็บเป็นผ้าซิ่นสวมใส่นั้น จะต้องผ่านกระบวนการผลิตหลายขั้นตอน ใช้ระยะเวลาในการถักทอเป็นเวลานาน ในระยะหลังต่อมาการนุ่งซิ่นในกลุ่มสตรี จึงลดน้อยลง โดยเฉพาะในสังคมเมือง จะพบเห็นส่วนใหญ่ก็ในตอนใส่ไปทำบุญ หรือในโอกาสพิเศษเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม การนุ่งซิ่น ยังอยู่สายเลือดของสังคมไทยทุกยุคทุกสมัย ซึ่งในระยะหลังรัฐบาลและส่วนราชการ ได้ให้ความสำคัญกับการนุ่งซิ่น โดยมีการรณรงค์การใช้ผ้าไทย ตัดเย็บเป็นผ้าถุงหรือผ้าซิ่น โดยให้มีการอนุรักษ์และสืบสาน รวมถึงเชิญชวนให้มีการสวมใส่หรือนุ่งซิ่นอย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนี้ยังได้ส่งเสริมกลุ่มอาชีพผลิตผ้าไทยหลากหลายลาย หลายรูปแบบ ทำให้เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ และมีการต่อยอดให้เกิดการเพิ่มมูลค่า สร้างรายได้ให้กับผู้ผลิต ผู้ประกอบการแปรรูป บรรจุภัณฑ์และส่งออกได้เป็นอย่างดี
นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ความสำคัญของผ้าไทย ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ผืนผ้าจากผ้าไหม ผ้าฝ้าย ซึ่งเป็นผ้าพื้นเมือง ที่ได้จากการถักทอด้วยหัตถกรรมหรือเครื่องจักร ล้วนมีความประณีต งดงาม เหมาะกับการสวมใส่ เลือกใส่ไปในร่วมงานต่างกันคนละแบบ โดยผู้ผลิตได้ใช้ภูมิปัญญาในการย้อมสี ใส่รูปลายและลงรายเอียดลงไป จึงเพิ่มความสวยงามให้กับผืนผ้าในเชิงวิจิตรศิลป์ และยิ่งนำมาแปรรูปเป็นผ้าถุงหรือผ้าซิ่น หรือตัดเย็บเป็นเสื้อสวมใส่แล้ว ก็ยิ่งเพิ่มคุณค่าให้กับผ้าซิ่น และเสริมสง่าราศีให้คนที่สวมใส่อีกด้วย ทั้งนี้จากการที่กระแสความนิยมนุ่งซิ่นในภาพรวมลดลง ขณะที่ยังมีกลุ่มผู้ผลิตที่มีฝีมือ มีคุณภาพ สามารถรังสรรค์ผืนผ้า ด้วยการบรรจงใส่รูปลายได้อย่างมีชีวิตชีวาหลายเฉดสี และนอกจากนี้ยังมีคนเก็บรักษาผ้าซิ่นเป็นมรดกตกทอด ทั้งที่ยังไม่ตัดเย็บ และตัดเย็บแล้วมากมาย หากแต่ยังไม่มีโอกาสนำออกมาใช้ หรือจำหน่าย ที่อาจจะทำให้เกิดความเสื่อมตามกาลเวลา ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย
นายไกรสรกล่าวอีกว่า ประกอบ จ.กาฬสินธุ์ ได้ขับเคลื่อนโครงการกาฬสินธุ์แฮปปี้เนส โมเดล เพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนให้กับประชาชนตามนโยบายรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จึงได้ร่วมกับนายประจักษ์ จอมทรักษ์ พัฒนาการ จ.กาฬสินธุ์ และกลุ่มจังหวัดร้อยแก่นสารสินธุ์ ประกอบด้วย ร้อยเอ็ด ขอนแก่น มหาสารคาม จัดงานแพรวา 4.0 ภูมิปัญญาทันยุคบุกตลาดโลก ระหว่างวันที่ 30 พฤษภาคม - 3 มิถุนายน 2561 ที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา องค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ หน้าศาลากลางจังหวัดหลังเก่า โดยเปิดโอกาสให้กลุ่มผู้ผลิตผ้าประเภทต่างๆ รวมทั้งสินค้าประเภทอื่นๆ ทั้งผลิตภัณฑ์ชุมชน สินค้าโอท็อป และกลุ่มเกษตรกร นำผลผลิตมาจำหน่ายภายในงานอย่างเต็มที่ ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมการตลาด เกิดการหมุนเวียนของเม็ดเงินเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน ทำให้เกิดรายได้มวลรวม ซึ่งเป็นอีกแนวทางหนึ่งในการแก้ไขปัญหาความยากจนให้ประสบผลสำเร็จ
“ทั้งนี้ ในส่วนการส่งเสริมและสนับสนุนกลุ่มผู้ผลิต ผู้แปรรูป ผู้จำหน่าย ผลิตภัณฑ์ผ้าทุกชนิด ทางจังหวัดได้ตระหนักในความสำคัญและเห็นคุณค่าของผ้าทุกผืน ที่กว่าจะถักทอออกมาเป็นผืนผ้าได้นั้น ต้องผ่านกรรมวิธีที่ละเอียดลึกซึ้ง บางผืนต้องใช้เวลาทอหลายหรือเป็นปี จึงเป็นผืนผ้าที่เกิดจากจิตวิญญาณ มีคุณค่าทั้งในเชิงจิตใจและพาณิชย์ ในงานแพรวา 4.0 ดังกล่าว จึงได้จัดเวทีเวิร์กช็อปนุ่งซิ่นยุคใหม่ไทยแลนด์ 4.0 โดยนางอังคณารักษ์ ทรงสวัสดิ์กุล เจ้าของเพจนุ่งซิ่นก็สวยได้ เป็นพิธีกรให้ความรู้ ด้านการเก็บรักษาผ้าไหม ผ้าฝ้าย ที่ถูกวิธี เพื่อให้มีคุณภาพคงทน ใช้งานได้นานปี พร้อมกับให้คำแนะนำวิธีนุ่งผ้าซิ่นแบบต่างๆ ให้ดูดี มีคุณค่า ใส่แล้วสวยงามทุกอิริยาบถ จากนั้นเป็นการเดินแฟชั่นด้วยชุดนุ่งซิ่นงดงามตระการตา โดยนางแบบกิตติมศักดิ์ ข้าราชการ ผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ผ้า เยาวชน จากกลุ่มร้อยแก่นสารสินธุ์ ร่วมขึ้นเวทีแคทวอล์กเดินแบบเป็นจำนวนมาก จึงเป็นมิติใหม่การรีวิววัฒนธรรมนุ่งซิ่น ด้วยชุดที่ตัดเย็บจากผืนผ้าได้อย่างลงตัว หลายสไตล์ ล้ำสมัย จึงการันตีได้ว่าผลิตภัณฑ์จากผืนผ้า โดยเฉพาะแพรวา 4.0 ที่ จ.กาฬสินธุ์ พร้อมแล้วที่จะบุกตลาดโลก” นายไกรสรกล่าว
นางอังคณารักษ์ ทรงสวัสดิ์กุล เจ้าของเพจนุ่งซิ่นก็สวยได้ กล่าวว่า การนุ่งซิ่น เป็นการแต่งกายที่เรียบง่าย สะดวก สบาย พูดได้เลยว่าเมื่อได้นุ่งผ้าถุงหรือนุ่งซิ่นเข้าชุดกับเสื้อชนิดไหนๆ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อเชิ้ต เสื้อยืด เสื้อลายดอกไม้ ลายลูกไม้ หรือใส่สูท ก็ดูดี มีสไตล์ เก๋ไก๋ ใส่แล้วมั่นใจ เหมาะสมตามวัยและสามารถใส่ได้สวยงามทุกกาละ
“โดยส่วนตัวเป็นคน จ.สมุทรปราการ โดยกำเนิด ก่อนหน้านี้ก็ใส่แต่กระโปรงกับกางเกง ไม่เคยนุ่งซิ่น สังคมรอบด้านเขาก็ใส่กันอย่างนี้ แทบจะไม่มีใครนุ่งซิ่นเลย คุณแม่เองก็ไม่เคยนุ่งซิ่นให้เห็น มีอยู่วันหนึ่ง ประมาณ 6 ปีที่แล้ว มีโอกาสไปทำบุญที่วัด เห็นผู้หญิงกลุ่มหนึ่งนุ่งซิ่นก็สะดุดตาว่าสวยดี ก็เกิดความรู้สึกอยากนุ่งซิ่นกับเค้าด้วย ต่อมามีโอกาสไปเดินตามงานโอท็อป ก็พบเห็นคนนุ่งซิ่น และนำผ้าถุงผ้าซิ่นมาโชว์มาจำหน่าย ทีนี้เกิดแรงบันดาลใจอยากนุ่งซิ่นเอามากๆ สอบถามราคาก็ไม่แพงอย่างที่คิด เพียงผืนละประมาณ 600-700 บาท จึงตัดสินใจซื้อมา ทั้งแบบผืนและตัดเย็บ นุ่งทีแรกรู้สึกแปลกดี นุ่งอยู่บ้าน นุ่งไปวัด มีคนทักว่านุ่งแล้วสวยก็ปลื้ม ต่อมานุ่งไปทำงาน นุ่งออกงานพิธีต่างๆจนเป็นความเคยชิน แบบว่าวันไหนมาได้นุ่งซิ่น ก็แทบจะไม่อยากออกบ้านไปไหนเลย”
นางอังคณารักษ์กล่าวอีกว่า เมื่อนุ่งซิ่นติดคือเกิดเป็นความเคยชิน ก็ชักชวนเพื่อนร่วมงาน ญาติมิตร คนรู้จัก มาจับกลุ่มนุ่งซิ่นกันบ้าง ก่อนที่จะสร้างเว็บเพจนุ่งซิ่นก็สวยได้ ก็โพสต์ก็แชร์กันเล่นเพลินๆในกลุ่ม เพื่อนคนไหนนุ่งซิ่นผืนไหน ดีไซน์ใหม่ๆออกมาแบบไหน ก็ส่งอวดกันในกลุ่ม ก่อนที่จะกระจายออกไปในวงกว้างขึ้น ซึ่งปัจจุบันนี้มีลูกเพจหรือสมาชิกในกลุ่มนุ่งซิ่นก็สวยได้ประมาณ 4 หมื่นกว่าคน
“การนุ่งซิ่นจึงเป็นการเสริมเสน่ห์ให้กับตนเอง นุ่งซิ่นแล้วเกิดความมั่นใจ จึงขอเชิญชวนมานุ่งซิ่นให้เป็นภาพจำ นุ่งให้เป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชน คนรุ่นใหม่ ซึ่งจะต้องหันมาให้ความสนใจนุ่งซิ่นกันให้มากๆ เพื่อแสดงอัตลักษณ์ของสาวไทยที่นุ่งซิ่นแล้วสวย และยังเป็นการเอื้อให้กลุ่มผู้ผลิตอยู่ได้ เพราะถ้าผลิตผ้าออกมาแล้วไม่มีอนุชนรุ่นหลังสืบสานก็จะเป็นเรื่องที่เสียดายมาก เพราะถือว่าเป็นมรดกทางภูมิปัญญาในการผลิตผ้าไทย”
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาก็ได้ร่วมกับภาคส่วนต่างๆ เป็นวิทยากรอบรม เกี่ยวกับการนุ่งซิ่นอยู่เสมอ ทั้งการนุ่งแบบผืนผ้า การนุ่งแบบตัดเย็บหลายรูปแบบ เช่น นุ่งซิ่นอินเทรนด์ และล่าสุด นุ่งซิ่นยุคใหม่ไทยแลนด์ 4.0 ในงานแพรวา 4.0 ภูมิปัญญาทันยุคบุกตลาดโลกครั้งนี้ เพื่อรวมพลังกันรีวิววัฒนธรรมการนุ่งซิ่นยุคใหม่ และเป็นการเรียกเรตติ้งคุณภาพภูษาหรืออาภรณ์ ของกลุ่มร้อยแก่นสารสินธุ์ เป็นภูษาล้ำค่าในระดับสากลต่อไป
กฤษณ์ ทิพเลิศ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี