กยศ.เผยปี 61 ไล่ฟ้องดำเนินคดีนิสิต นักศึกษา 1.2 แสนราย มูลหนี้ 1.2 หมื่นล้านบาท แจง ก.ค.นี้ลุยหักบัญชีเงินเดือนข้าราชการ พร้อมนำร่องหักเงินลูกจ้างบริษัทเอกชนถัดไป
6 มิ.ย.61 นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมา กยศ.ให้กู้กับนักเรียนนักศึกษาไปแล้ว 5.4 ล้านราย มูลหนี้ 5.7 แสนล้านบาท ปัจจุบันมีการชำระปิดบัญชีไปแล้ว 8 แสนราย มีสถานะตายและพิการประมาณ 5 หมื่นราย ปัจจุบันเหลือผู้กู้ที่ยังในระบบ 4 ล้านกว่าคน โดยมีการชำระหนี้ปกติ 1 ล้านกว่าราย ผิดชำระหนี้ 2 ล้านกว่าราย คิดเป็นมูลหนี้ 6.8 หมื่นล้านบาท
โดยในปีนี้มีผู้กู้ยืมที่ครบกำหนดชำระประมาณ 3.5 ล้านราย คิดเป็นมูลหนี้ 4 แสนล้านบาท โดยในปีนี้ กยศ.เตรียมฟ้องดำเนินคดีลูกหนี้ที่ผิดนัดชำระประมาณ 1.2 แสนราย มูลหนี้ 1.2 หมื่นล้านบาท เฉลี่ยรายละ 1 แสนบาท ซึ่งในรอบ 10 ปีที่ผ่าน กยศ.ได้ทำการฟ้องร้องดำเนินคดีไปแล้วประมาณ 1.2 ล้านคดี มูลหนี้ 4.8 หมื่นล้านบาท
"ในปีนี้ กยศ.ตั้งเป้าหมายปล่อยกู้ให้นักเรียน นิสิต นักศึกษา ประมาณ 7 แสนราย เป็นเงิน 3 หมื่นล้านบาท โดยปัจจุบันกองทุนมีเงินทุนหมุนเวียนเพียงพอที่จะรองรับการดำเนินการในแต่ละปี โดยในแต่ละปีมีแนวโน้มการชำระหนี้ที่เพิ่มขึ้น โดยในปี 58 มีการชำระหนี้ 1.8 หมื่นล้านบาท ปี 59 มีการชำระหนี้ 2.1 หมื่นล้านบาท ปี 60 มีการชำระหนี้ 2.6 หมื่นล้านบาท และคาดว่าใน 61 จะมีการชำระหนี้กว่า 3 หมื่นล้านบาท ทั้งผู้กู้ยืมต้องชำระเงินคืนภายในวันที่ 5 ก.ค.ของทุกปี หากล่าช้าเกินกำหนดอาจต้องเสียเบี้ยปรับจำนวนมากได้" นายชัยณรงค์ กล่าว
ทั้งนี้ ในเดือน ก.ค.61 จะเริ่มดำเนินแนวทางการหักเงินเดือนข้าราชการ พนักงาน หรือลูกจ้างชั่วคราวที่เป็นลูกหนี้ กยศ.นำร่องกับข้าราชการกรมบัญชีกลางก่อน หลังจากนั้นจะดำเนินการหักเงินเดือนกับข้าราชการกระทรวงการคลัง และส่วนราชการทั้งหมดต่อไป โดยปัจจุบันมีข้าราชการที่เป็นลูกหนี้ กยศ.ทั้งสิ้น 1.7 แสนราย มูลหนี้ 1.6 หมื่นล้านบาท โดยในจำนวนนี้ มีสถานะชำระปกติ 9 หมื่นกว่าราย และผิดนัดชำระอีก 7 หมื่นกว่าราย โดยลูกหนี้ที่ผิดนัดชำระติดกัน 5 งวด จะถูกดำเนินคดีฟ้องร้อง
นอกจากนี้ ได้มีการเจรจากับบริษัทเอกชนรายใหญ่ก่อนในการหักเงินเดือนลูกหนี้ โดยจะเริ่มดำเนินการได้ในปลายปี 2561 ซึ่งจะนำร่องกับบริษัทเอกชนขนาดใหญ่และพนักงานรัฐวิสหกิจ อาทิ ซีพี , กรุงไทย และรัฐวิสาหกิจ เช่น การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นต้น และหลังจากนั้นจะดำเนินการกับทุกบริษัท ทุกหน่วยงานต่อไป
นอกจากนี้ กยศ.ได้ร่วมกับธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB ได้เพิ่มความสะดวกให้แก่ผู้ยืมกยศ.และกรอ.ด้วยระบบคิวอาร์โค้ด (QR Code) เนื่องจากในปัจจุบันธนาคาร เป็นช่องทางหลักที่ให้บริการโอนเงินกู้ยืมและรับชำระหนี้ กยศ.และ กรอ.มาตั้งแต่แรกเริ่ม โดยผู้กู้ยืมสามารถชำระเงินคืนกองทุนได้หลากหลายช่องทาง ได้แก่ 1) หักบัญชีออมทรัพย์อัตโนมัติ 2) หน้าเคาน์เตอร์ธนาคาร 3) ตู้ ATM 4) กรุงไทยเทเลแบงก์ 5) อินเทอร์เน็ต และ 6) โทรศัพท์มือถือ (KTB netbank) โดยการสแกนผ่าน QR Code จะช่วยลดขั้นตอนการคีย์ข้อมูลของทางฝั่ง ผู้กู้ยืมหรือฝั่งผู้รับชำระ ทำให้การเข้าถึงระบบการชำระเงินมีความสะดวก รวดเร็วยิ่งขึ้น และยังเชื่อมกับระบบพร้อมเพย์ ซึ่งสามารถชำระได้กับทุกธนาคารที่เป็น Mobile Banking โดยไม่เสียค่าธรรมเนียมอีกด้วย
นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ธนาคารได้พัฒนาช่องทางในการชำระหนี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้กู้ยืมที่ครบกำหนดชำระหนี้ และเพื่อสนับสนุนนโยบายการทำธุรกรรมผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ตามโครงการ National e-Payment ของรัฐบาล ธนาคารจึงได้พัฒนาระบบงานเพื่อให้ผู้กู้ยืมชำระหนี้คืน กยศ.และ กรอ.ผ่านการสแกน QR Code โดยสามารถชำระผ่าน Mobile Banking Application ของทุกธนาคาร ระหว่างเวลา 07.30 - 20.30 น.โดยไม่เสียค่าธรรมเนียมในการใช้บริการ
สำหรับสินเชื่อรวมปีนี้ยังเป็นไปตามเป้าหมายที่ 6 - 7% แม้ไตรมาส 1/61 จะหดตัวก็ตาม โดยในช่วงเดือน เม.ย.และ เดือน พ.ค.เห็นสัญญาณการใช้สินเชื่อเข้ามามากขึ้น ซึ่งขยายตัวทุกด้านไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อรายใหญ่ สินเชื่อภาครัฐ สินเชื่อเอสเอ็มอี และสินเชื่อรายย่อย
นายผยง กล่าวว่า ในส่วนหนี้ที่มิก่อให้เกิดรายได้ (NPL) นั้น ธนาคารคาดว่าจะทรงตัวจากไตรมาส 1/61 ที่อยู่ 4.33% โดยเป็น NPL รายเก่าที่เมื่อปรับโครงสร้างแล้วยังไหลกลับมาเป็น NPL ซึ่งเป็นกลุ่มเกษตร มันสำปะหลัง และโรงสี ในขณะที่สินเชื่อที่ปล่อยใหม่พบกลายเป็น NPL น้อยมาก หรืออยู่ในระดับต่ำ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี