นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ เปิดเผยว่า สภาเกษตรกรฯได้รับเชิญจากรัฐบาลจีนให้ไปศึกษาดูงานด้านไผ่เป็นเวลา 10 วัน ระหว่างวันที่ 16-26 มีนาคม ซึ่งได้เห็นนวัตกรรม การแปรรูปหลากหลายรูปแบบมากจากเศรษฐกิจชุมชนจนถึงเศรษฐกิจระดับโลก นอกจากนี้ รัฐบาลจีนยังเสนอให้สภาเกษตรกรฯจัดส่งเกษตรกรหรือทายาทที่สนใจเรื่องไผ่ ให้ไปเข้ารับอบรมจากสถาบันวิจัยไผ่แห่งชาติของจีน โดยเบื้องต้นสภาเกษตรกรแห่งชาติได้ดำเนินการคัดเลือกแล้ว 5 คน จาก จ.เชียงใหม่ ลำปาง และบุรีรัมย์ ซึ่งจะใช้เวลาในการอบรม 2 เดือน เพื่อศึกษาตั้งแต่การเลือกสายพันธุ์ การปลูก การบำรุงรักษา การเก็บเกี่ยว การแปรรูปเบื้องต้นจนกระทั่งการแปรรูประดับสูง โดยเมื่อยุวเกษตรกรทั้ง 5 คนกลับมาต้องสรุปเป็นเอกสาร รูปเล่ม จัดทำโครงการที่จะลงไปพัฒนานำร่องในเชิงพื้นที่ของตัวเอง และสามารถพัฒนาเป็นศูนย์เรียนรู้หรือว่าเป็นศูนย์อบรมบ่มเพาะเกษตรกร ให้รู้จักการแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่มด้วยไผ่ให้หลากหลายมากขึ้น และหากมีเกษตรกรหรือทายาทเกษตรกรให้ความสนใจเพิ่มมากขึ้นสภาเกษตรกรฯจะประสานสถาบันวิจัยไผ่แห่งชาติของจีน เพื่อนำส่งเกษตรกรหรือทายาทเกษตรกรเพิ่มเติมเป็นรุ่นต่อๆ ไป
นายประพัฒน์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของประเทศไทย สภาเกษตรกรแห่งชาติ ได้ส่งเสริมการปลูกและแปรรูปไผ่ในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ จ.ลำปาง เตรียมปลูกไผ่เพิ่มอีกอย่างน้อย 20,000 ต้น และได้ขึ้นเตาเผาถ่านขนาดเล็ก 1 เตา ขนาด 8 คิว ที่ อ.แจ้ห่ม และภายในเดือนมิถุนายนจะขึ้นเตาอีกเป็นขนาด 18 คิว เพื่อนำร่องเรื่องพลังงานทดแทนจากไผ่ ด้วยการนำไผ่ เศษไผ่ ที่เหลือจากการขาย รวมทั้งข้อ ตา ราก หรือกิ่งก้าน มาเผาทำเป็นถ่านอัดแท่งซึ่งให้ความร้อนสูงรองจากกะลามะพร้าว ถ้าเผาด้วยวิธีที่ถูกต้องจะไม่มีควันและไม่แตก สามารถส่งขายเป็นพลังงานทั่วไปได้ และจะพยายามพัฒนาให้เป็นถ่านขาวหรือถ่านไวท์ชาโคล ซึ่งเป็นถ่านเพื่ออุตสาหกรรมด้วยต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี