8 มิ.ย.61 นายอรรถพล เภาอ่อน หัวหน้าวนอุทยานชะอำ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดหน่วยเฉพาะกิจพญาเสือ , ด.ต.สราวุธ ชมอินทร์ จนท.ชปข.ร้อย ตชด.144 พร้อมเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าแก่งกระจาน สนธิกำลังกับหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก , เจ้าหน้าที่ กอ.รมน. ร้อย.รส.จว.เพชรบุรี มทบที่15 และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เข้าตรวจยึดพื้นที่บุกรุกเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน บริเวณ หมู่ 14 บ้านพุบอน ต.แก่งกระจาน อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี
สำหรับสถานที่ดังกล่าว พบพื้นที่ริมอ่างเก็บน้ำแก่งกระจาน เลขที่ 89 ถูกบุกรุกกว้างกว่า 10 ไร่ ก่อสร้างเป็นรีสอร์ท ปลูกเป็นห้องพักจำนวน 5 หลัง ภายในมีเครื่องใช้อำนวยความสะดวกจำนวนมาก ในบริเวณมีการปรับพื้นที่เป็นลานจุดชมวิว และลานใช้สำหรับกางเต้นท์
สอบถามนายอองมิว อายุ 48 ปี ผู้ดูแลรีสอร์ท ซึ่งเป็นแรงงานชาวเมียนมา เปิดเผยว่า ตนรับจ้างเป็นผู้ดูแลรีสอร์ทแห่งนี้มากว่า 10 ปี เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวนายอองมิว มาทำการสอบสวน
ด้านนายอรรถพล เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจได้รับการร้องเรียนว่า พื้นที่รีสอร์ทดังกล่าวบุกรุกพื้นที่เขตอุทยาน และได้มีการใช้เครื่องจักรปรับปรุง ก่อสร้างเป็นบ้านพักตากอากาศจำนวนหลายหลัง จากการตรวจสอบจากภาพถ่ายดาวเทียมปี 2545 พบเดิมมีสภาพป่าที่สมบูรณ์ มีสภาพเป็นเขา มีความลาดชัน และพบว่าไม่ได้มีการแจ้งสำรวจถือครองตามมติคณะรัฐมนตรี(ครม.)
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบแนวเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานแล้ว ปรากฏว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นแนวเขตประชิดแนบท้ายพระราชกฤษฎีกาปี 2524 พื้นที่ดังกล่าวจึงเป็นพื้นที่ที่ถูกยึดถือครอบครองบุกรุกอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานอย่างชัดเจน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงดำเนินการยึดพื้นที่ พร้อมอาคารปลูกสร้างและทรัพย์สินอื่นๆทั้งหมด พร้อม ควบคุมตัวนายอองมิว ผู้ดูแลสถานที่นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.แก่งกระจาน และติดตามเจ้าของรีสอร์ทมาสอบสวนดำเนินคดี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี