13 มิ.ย.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 16 ซอยดารณี เทศบาลเบตง อ.เบตง จ.ยะลา ได้เปิดรับซื้อเมล็ดทุเรียนจำนวนมาก โดยให้ราคาสูงมากถึงกิโลกรัมละ 70-90 บาท ทำให้ชาวบ้านที่ทราบข่าว ต่างนำเมล็ดทุเรียนมาขายกันอย่างต่อเนื่อง เพราะราคาทุเรียนบ้านแค่กิโลกรัมละ 30-40 บาทเท่านั้น ซึ่งทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเอาเมล็ดมาขาย ยังได้ดีกว่าขายลูกทุเรียนอีก บางคนลงทุนไปเก็บตามสถานที่ที่เขากินทุเรียนกันอยู่ เพื่อจะขอเก็บเมล็ดทุเรียนมาขาย ทำให้มีเงินหมุนเวียนจำนวนมากในช่วงที่ทุเรียนกำลังออกผลผลิต ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยพบเจอว่ามีการรับซื้อเมล็ดทุเรียนมราคาสูงเท่านี้มาก่อน เคยมีรับซื้อแต่ราคาก็ไม่สูงถึงขนาดนี้
นายอับดุลอาซิ มาหะมะเพะ อายุ 46 ปี พ่อค้ารับซื้อเมล็ดทุเรียน กล่าวว่า ตอนแรกคนที่ผลิตต้นกล้าทุเรียนขาย ได้มาติดต่อให้ตัวเองรับซื้อเมล็ดทุเรียนให้ ในกิโลกรัมละ 30-40 บาท ตอนแรกก็ไม่ได้รับปาก ก่อนจะมาขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 70-90 บาท จึงรับปากและได้ประกาศรับซื้อเมล็ดทุเรียน ก็มีคนมาขายเมล็ดทุเรียนมากถึงวันละ 500-1,000 กิโลกรัม แต่มาช่วงหลังมีรถเร่มารับซื้อถึงบ้าน และมีคนรับซื้อจากตำบลอื่นอีกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ขณะนี้ราคาพุ่งไปถึงกิโลกรัมละ 90 บาทแล้วในช่วงเวลาไม่ถึง 1 เดือน และตนเองยังคงรับซื้อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะหมด ซึ่งราคารับซื้อเมล็ดทุเรียนในปีนี้ถือว่าถูกกว่าปีที่แล้ว เพราะปีที่แล้วเมล็ดทุเรียนมีราคาถึงกิโลกรัมละ 240 บาทแต่ปีนี้ราคาคงไม่ถึงเหมือนปีก่อน เพราะสวนทุเรียนทางภาคใต้ตอนบนมีผลผลิตทุเรียนบ้านในปีนี้ออกมาเป็นจำนวนมากเลยทำให้เมล็ดพันุ์ทุเรียนพื้นบ้านมีราคาถูกลง
อย่างไรก็ดีเกษตรกรจะหาซื้อเมล็ดทุเรียนมาขายต่อเนื่องจากมีราคาแพงกว่ารับซื้อลูกทุเรียนพื้นบ้านถึงเท่าตัว โดยเมล็ดทุเรียนที่รับซื้อมาทั้งหมดก็จะนำมาล้างน้ำ เพื่อทำความสะอาด และตรวจดูว่ามีเมล็ดลีบหรือไม่ ถ้ามีเมล็ดลีบก็จะคัดออก เพราะใช้ไม่ได้เนื่องจากเอาไปเพาะแล้วไม่แตกยอด หลังจากนั้นก็นำใส่เข่งแล้วนำไปส่งอีกที
นายอับดุลอาซิ มาหะมะเพะ กล่าวอีกว่า สาเหตุที่เมล็ดทุเรียนราคาสูง มาจากราคาทุเรียนทุกชนิดที่พุ่งสูงมากในปีนี้ ทำให้เกษตรกรและประชาชน หันกลับมาหาต้นพันธุ์ทุเรียนชนิดต่างๆไปปลูกกันมาก ทำให้เมล็ดทุเรียนพื้นบ้านที่จะนำไปเพาะเพื่อทำเป็นต้นตอแล้วนำยอดของทุเรียนสายพันธุ์ต่างๆมาเสียบยอดไม่เพียงพอกับการ ทำให้กลุ่มผู้ผลิตต้นพันธุ์ทุเรียนแย่งกันรับซื้อ นับเป็นเรื่องที่ดีที่ทำให้เกษตรกรได้มีรายได้เสริมอีกทางหนึ่ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี