ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (13 มิ.ย.) ตำรวจ สภ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ได้จับกุมนายธนกฤต (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 52 ปี ซึ่งเป็นรองประธานสภา อบต.ชื่อดังแห่งหนึ่ง ที่ จ.นครราชสีมา ฐานแจ้งความเท็จ หลังจากเมื่อช่วงเที่ยงวานนี้ นายธนกฤต ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่าถูกคนร้ายเป็นชาย 2 คน ใช้อาวุธปืนไม่ทราบขนาด ดักจี้ชิงรถยนต์ ยี่ห้อมาสด้า 4 ประตู สีดำของตนเองไปตอนกลางวันแสกๆ ที่บริเวณถนนทางเข้าวัดชลประทานราษฎร์ดำริ ต.สูงเนิน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ขณะที่กำลังจะขับรถไปดูงานรับเหมาถมดินที่ จ.สุรินทร์
หลังได้รับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบได้ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุทันที พร้อมสอบถามข้อมูลจากนายธนกฤต ที่แจ้งความว่า ถูกคนร้ายจี้ชิงรถเพื่อเป็นข้อมูลเบาะแสในการติดตามตัวคนร้าย แต่ขณะเจ้าหน้าที่สอบถามข้อมูลรายละเอียดรูปพรรณคนร้าย รวมถึงลักษณะการลงมือก่อเหตุ และเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี แต่ทางนายธนกฤต กลับแสดงอาการพิรุธหลายอย่าง จึงได้เค้นสอบถามนายธนกฤต จนสุดท้ายก็ยอมรับสารภาพว่า เป็นเรื่องโอละพ่อ ที่ตนเองได้กุขึ้นเอง ไม่ได้มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเลย
แต่ที่เข้าแจ้งความกับตำรวจ เพราะต้องการใบแจ้งความว่าถูกจี้ชิงรถไปเป็นหลักฐานประกอบการยื่นบริษัทประกันภัย เพื่อต้องการเคลมประกัน เนื่องจากนายธนกฤต ได้นำรถยนต์ไปจำนำแต่หมุนเงินไปทำให้รถหลุดจำนำ จึงได้ออกอุบายสร้างเรื่องขึ้นดังกล่าว แต่สุดท้ายไม่รอดถูกจับกุมเสียเอง
พ.ต.ท.ประพันธ์ ขำอเนก สารวัตรสอบสวน สภ.กระสัง เผยว่า หลังได้รับแจ้งว่ามีเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนจี้ชิงรถยนต์ของประชาชนตอนกลางวันแสกๆ ที่บริเวณปากทางเข้าวัดชลประทานราษฏร์ดำริ ต.สูงเนิน ก็ได้รายงานให้ พ.ต.อ.สุชาติ ละลี ผกก.สภ.กระสัง รับทราบก่อนจะลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุตามที่ได้รับแจ้งทันที
เมื่อไปถึงก็พบนายธนกฤต ซึ่งแสดงตัวว่าเป็นผู้เสียหายที่แจ้งความว่าถูกจี้ชิงรถ ก็ได้ทำการสอบถามรายละเอียดเพื่อหาข้อมูลเบาะแสในการติดตามตัวคนร้าย
แต่ด้วยประสบการณ์ทำงานของชุดสืบสวนมาหลายปี สังเกตพบพิรุธหลายอย่างที่ค่อนข้างขัดแย้งกับข้อเท็จจริง จึงได้พยายามสอบถามอย่างละเอียด จนในที่สุดนายธนกฤต ก็ยอมเปิดปากรับสารภาพว่าไม่เป็นความจริง ตนเองกุเรื่องขึ้นทั้งหมด เพียงเพราะต้องการใบแจ้งความไปเป็นหลักฐานยื่นบริษัทประกันภัยเท่านั้น จึงได้ควบคุมส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยเบื้องต้นถูกแจ้งข้อหา “แจ้งความเท็จ”
ทั้งนี้ ยังได้ฝากเตือนประชาชน หรือผู้ที่คิดจะสร้างเรื่องแล้วมาแจ้งความเท็จ เพื่อหวังประโยชน์อย่างหนึ่งอย่างใดนั้น ไม่ควรกระทำเป็นอย่างยิ่ง เพราะนอกจากจะทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ต้องออกไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุ หาเบาะแสติดตามตัวคนร้ายทั้งที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริง แทนที่จะได้ใช้เวลาไปทำหน้าที่ดูแลทุกข์สุขประชาชน หรือติดตามคดีอื่นๆ ที่เกิดขึ้นจริงดีกว่า ซึ่งผู้ที่แจ้งความเท็จก็จะมีความผิดตามกฎหมายด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี