72ตู้ลอยเกลื่อน
เรือสินค้าล่มที่ชลบุรี
คลื่นซัดแรงน้ำทะลัก
ลูกเรือ4นายรอดตาย
เจ้าท่าตั้งกรรมการสอบ
เกิดเหตุเรือภัทรมารีน 6 บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ 72 ตู้ มุ่งหน้าท่าเรือกรุงเทพฯเกิดเสียหลักจมกลางทะเลศรีราชา ช่วงกลางดึกคืนวันพุธที่ผ่านมา เกาะท้ายตาหมื่น อธิบดีกรมเจ้าท่าสั่งตั้งกรรมการสอบหาสาเหตุ พร้อมส่งเจ้าหน้าที่เร่งเก็บกู้ตู้บรรทุกสินค้าและซากเรือ คาด 1 สัปดาห์เก็บได้หมด ยังไม่พบคราบน้ำมันรั่วไหล ท่าเรือยันในตู้ไม่ใช่สินค้าอันตราย ขณะที่ลูกเรือ 4 นายปลอดภัย เบื้องต้นตั้งข้อหาคนขับเรือประมาท
เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน ที่สำนักควบคุมจราจรและความปลอดภัยทางทะเล เจ้าท่าแหลมฉบัง ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี นายพิทักษ์ วัฒนพงษ์ศาล ผู้อำนวยการสำนักควบคุมจราจรและความปลอดภัยทางทะเล เจ้าท่าแหลมฉบัง กรมเจ้าท่า เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 23.40 น. วันที่ 13 มิถุนายนที่ผ่านมา ศูนย์ควบคุมจราจรและความปลอดภัยทางทะเล รับแจ้งอุบัติเหตุทางทะเลว่า เรือภัทรมารีน 6 ของบริษัท ภัทรทรานสปอร์ต จำกัด ความยาวตลอดลำ 70.39 เมตร ยาวฉาก 66.80 เมตร กว้าง 12.80 เมตร ลึก 4.30 เมตร ตันกรอส 1,14.00 ตันเน็ต 334.00 และน้ำหนักบรรทุก 1,800.00 ตัน ออกเดินเรือออกจากท่าเรือแหลมฉบัง B2 ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี มุ่งหน้าไปท่าเรือกรุงเทพ แต่เกิดเสียการทรงตัวและจมลงที่พิกัด แลต 13 05.5 น. ลอง 100 48.6 อ. บริเวณ Area G หรือบริเวณเกาะท้ายตาหมื่น ทางทิศใต้ของเกาะสีชัง ต.ท่าเทวงษ์ อ.เกาะสีชัง จ.ชลบุรี ห่างจากฝั่งไม่กี่กิโลเมตร ทำให้เรือลำดังกล่าวจมน้ำไปพร้อมตู้คอนเทนเนอร์ 72 ตู้ มีทั้งตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 20 ฟุต 50 ตู้ และขนาด 40 ฟุต 23 ตู้ และลูกเรือ 4 นาย ซึ่งได้รับการช่วยเหลือปลอดภัยแล้ว
นายพิทักษ์กล่าวต่อว่า หลังเกิดเหตุ ตนและเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น ทราบว่าขณะนี้ บริษัทบีเอสแอล ลีสซิ่ง จำกัด เลขที่ 175 อาคารสาธรซิตี้ทาวเวอร์ ชั้น 19 ถนนสาทรใต้ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหนคร เป็นเจ้าของเรือ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องระดมกำลังช่วยเก็บกู้ตู้คอนเทนเนอร์ทั้ง 72 ตู้ โดยเก็บกู้ได้แล้วกว่า 20 ตู้ ทั้งในรูปแบบ ลากขึ้นฝั่ง และยกขึ้นเรือบาส
ส่วนเรือที่จมนั้น กรมเจ้าท่าประสานบริษัทเรือ ทำแผนกู้ซากเรือและตู้สินค้า ซึ่งเจ้าหน้าที่ของบริษัทดังกล่าวได้ดำลงไปตรวจสอบสภาพเรือและอุดรูน้ำมัน ไม่ให้คราบน้ำมันลอยออกมา นอกจากนี้กรมเจ้าท่าได้นำทุ่นไปล้อมตู้คอนเทนเนอร์ที่ลอยน้ำ รวมถึงออกประกาศแจ้งเตือนให้ระวังในการเดินเรือ ในเขตท่าเรือศรีราชา เพื่อความปลอดภัยทางทะเล ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุซ้ำ
“เบื้องต้นตั้งข้อกล่าวหานายเรือลำดังกล่าว ประมาท ส่วนข้อหาอื่นต้องให้คณะกรรมการตรวจสอบหาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง คาดว่าจะใช้ระยะเวลากู้ซากเรือ และตู้สินค้าประมาณ 1 สัปดาห์ ส่วนค่าเสียหายไม่น่าจะต่ำกว่า 50 ล้านบาท” นายพิทักษ์กล่าว
ด้านนายธเนศ มั่นน้อย ผู้อำนวยสำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 2 จ.ชลบุรี กรมทรัพยากรทางทะและชายฝั่งกล่าวว่า กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งได้ประสานกรมเจ้าท่า และท่าเรือแหลมฉบัง ได้รับการยืนยันว่าสินค้าภายในตู้ เป็นสินค้าทั่วไป ไม่ใช่สินค้าอันตราย โดยกรมเจ้าท่า และท่าเรือได้นำเรือ TUG ลากตู้มาได้แล้ว 3 ตู้ เพื่อเปิดพิสูจน์ แต่เนื่องจากจุดเกิดเหตุอยู่ใกล้กับเกาะค้างคาว งด้านทิศใต้ประมาณ 2 กิโลเมตร ที่มีแนวปะการังอยู่ อาจได้รับผลกระทบจากคราบน้ำมัน หรือตู้คอนเทนเนอร์ที่กระจัดกระจายในทะเล จึงส่งทีมเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ และเตรียมเฝ้าระวังปัญหาแล้ว และหากประเมินกระแสน้ำในทะเลช่วงฤดูลมมรสุมแนวโน้มตู้คอนเทนเนอร์น่าจะพัดเข้าหาชายฝั่ง จ.ชลบุรี
นายพิสุทธิ์ อมรยุทธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 6 จ.ชลบุรี เผยว่า หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าของเรือภัทรมารีน 6 วางมาตรการผลกระทบ โดยนำทุ่นมาล้อมจุดเรือจม เกรงน้ำมันดีเซลในเรือประมาณ 5,000 ลิตร ไหลลงทะเล จากนั้นขอให้ศูนย์ฯ ควบคุมการจราจรออกประกาศแจ้งเตือนเรือทุกลำให้ระวังตู้สินค้าที่อาจลอยอยู่บริเวณดังกล่าว ส่วนตู้สินค้าที่ลอยอยู่นั้นได้ลากมาไว้ชายฝั่ง และตามสะพานบริษัทน้ำมันในศรีราชา เพื่อไม่ให้ลอยไปไกล
ขณะที่นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมเจ้าท่า (จท.) สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนการเกิดเหตุเกิดเหตุเรือบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์จมลงบริเวณเกาะตาหมื่น จ.ชลบุรี และให้รายงานสาเหตุ มาตรการ แนวทางแก้ไข ป้องกันการเกิดเหตุภายใน 7 วัน ส่วนตู้คอนเทนเนอร์ 72 ตู้และเรือที่จมอยู่ใต้ทะเล ศูนย์ความปลอดภัยทางทะเล กรมเจ้าท่าตั้งศูนย์บัญชาการ พร้อมเรียกประชุมช่วงบ่ายวันเดียวกัน ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเร่งกู้ตู้คอนเทนเนอร์และเรือขึ้นจากทะเล ทั้งนี้ได้รับรายงานเบื้องต้น ยังไม่พบการรั่วไหลของคราบน้ำมัน
ผู้สื่อข่าวรายงาน สำหรับสาเหตุที่ทำให้เรือล่ม เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า ช่วงเวลาที่เกิดเหตุคลื่นลมแรง ทำให้น้ำเข้าเรือจำนวนมาก และรับน้ำหนักไม่ไหวจนจมลงสู่ทะเล ไม่ได้มีเหตุการณ์เรือสินค้าชน แต่เจ้าหน้าที่ก็จะตรวจสอบเพื่อความแน่ชัดอีกครั้ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี