วันนี้ (14 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่กองปราบปรามเกี่ยวกับคดีฟอกเงินทอนวัดล็อตที่ 3 ที่มีพระชั้นผู้ใหญ่ 3 วัดถูกจับกุมดำเนินคดีอยู่ในขณะนี้ ประกอบด้วย วัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร, วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร และวัดสามพระยาวรวิหารว่า ขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนพบข้อมูลในส่วนของวัดสามพระยาวรวิหาร เพิ่มเติม โดยพบว่าโฉนดที่ดินหลายแปลงที่ปรากฏ ชื่อของอดีตพระพรหมดิลก เจ้าอาวาสวัดสามพระยาวรวิหาร ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฟอกเงิน เป็นผู้ถือครองโดยหนึ่งในนั้นมีที่ดินใน อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นที่ตั้งของศูนย์ปฏิบัติธรรม สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ หรือวัดหลวงพี่แซม ซึ่งเป็นที่น่าสงสัย เนื่องจากตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่าที่ดินแปลงนี้ได้มาจากสีกาคนหนึ่งที่บริจาคให้กับวัดสามพระยาวรวิหาร เมื่อปี 2538 ครั้งที่สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ เป็นเจ้าอาวาสวัด ต่อมาอดีตพระพรหมดิลกเข้าเป็นเจ้าอาวาส ก็มีการไปทำเรื่องโอนโฉนดมาเป็นชื่อของตัวเอง โดยทางเจ้าหน้าที่จะลงตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งว่า ที่มาของการโอนชื่อที่ดินแปลงดังกล่าวถูกต้องหรือไม่
สำหรับความคืบหน้าของสำนวนคดีทั้ง 3 วัด ทางพนักงานสอบสวนกำลังเร่งรวบข้อมูลหลักฐานต่างๆ คาดว่าจะสรุปสำนวนเสร็จภายในสิ้นเดือนนี้ และจะทยอยส่งฟ้องเป็นรายวัด ทั้งนี้ ในส่วนของวัดสามพระยาวรวิหาร กับวัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร จะสรุปสำนวนเสร็จก่อน เหลือเพียงวัดสระเกศฯ ที่มีข้อมูลหลักฐานค่อนข้างมาก คาดว่าจะใช้เวลานานกว่าวัดอื่น อย่างไรก็ตาม หลังจากส่งสำนวนฟ้องเสร็จสิ้นทั้งหมดแล้ว ทางพนักงานสอบสวนยังคงต้องคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาทั้งหมดต่อไป เนื่องจากเกรงว่าจะเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน
ส่วนความคืบหน้าการติดตามตัวอดีตพระพรหมเมธี หรือพระจำนงค์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีเงินทอนวัด ที่หลบหนีไปยังประเทศเยอรมณีตั้งแต่วันที่ 24 มิ.ย.แต่จนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถนำตัวกลับมาดำเนินคดีได้ อีกทั้งทางการประเทศเยอรมันยังไม่มีคำตอบกลับมาว่า จะส่งมอบตัวอดีตพระพรหมเมธี ให้กับตำรวจไทยหรือไม่ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.นำคณะเดินทางไปประสานงานกับตำรวจสากลที่ประเทศฝรั่งเศส โดยได้ใช้ช่องทางตำรวจสากลในการติดต่อกับตำรวจเยอรมันเพื่อให้ได้ตัวผู้ต้องหารายนี้กลับมาดำเนินคดีที่ประเทศไทยโดยเร็วที่สุด
ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีที่ทางประเทศเยอรมัน ปฏิเสธที่จะส่งตัวอดีตพระพรหมเมธี อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร ที่หลบหนีไปยื่นของลี้ภัยอยู่ที่ประเทศเยอรมัน กลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยว่า ตนไม่ทราบ
เมื่อถามว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ที่เดินทางไปประเทศฝรั่งเศส ได้รายงานความคืบหน้าเรื่องการติดตามตัวอดีตพระพรหมเมธีมาบ้างหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ผบ.ตร. เขาไปดูเรื่องอาวุธปืนที่ฝรั่งเศส ไม่ได้ไปติดตามตัวพระพรหมเมธีที่เยอรมัน และยังไม่ได้รายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้มาที่ตน
วันเดียวกัน ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร นายวรกร พงศ์ธนากุล ประธานเครือข่ายทนายและประชาชนปกป้องพระพุทธศาสนา พร้อมสมาชิกกลุ่มปกป้องพระพุทธศาสนาเดินทางมาเข้าเยี่ยมอดีตพระผู้ใหญ่ 5 คนผู้ต้องหาคดีร่วมกันฟอกเงิน ในคดีทุจริตงบประมาณอุดหนุนโรงเรียนปริยัติธรรมและงบประมาณเผยแผ่ศาสนา หรือเงินทอนวัด ประกอบด้วยนายเอื้อน กลิ่นสาลี หรืออดีตพระพรหมดิลก เจ้าอาวาสวัดสามพระยา กรรมการมหาเถรสมาคม, นายสมทรง อรรถฤษณ์ หรืออดีตพระอรรถกิจโสภณ เลขานุการเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร, นายบุญทวี คำมา หรืออดีตพระศรีคุณาภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ , นายสมจิตร จันทร์ศรี หรืออดีตพระครูสิริวิหารการ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ และนายเทอด วงษ์ชอุ่ม หรืออดีตพระวิจิตรธรรมาภรณ์ หรือเจ้าคุณเทอด ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ
นายวรกร เปิดเผยภายหลังเข้าเยี่ยมอดีตพระทั้ง 5 คนว่า เดิมทีการมาเยี่ยมวันนี้ตั้งใจจะมาสอบถามเพื่อให้การช่วยเหลือในด้านคดีแก่อดีตพระทั้ง 5 คน แต่หลังจากได้เข้าไปพูดคุยกับอดีตพระทั้ง 5 ให้ข้อมูลว่าที่ผ่านมาทางตำรวจ รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติยังไม่เคยมีการเรียกทั้งหมดไปสอบสวน แค่มีการแจ้งข้อกล่าวหาที่กองปราบฯเท่านั้น ส่วนตัวไม่ขอยืนยันว่าเท็จจริงเป็นอย่างไร เพียงแต่นำข้อมูลที่ได้รับมาให้กระจายต่อให้สังคมรับรู้ ซึ่งหากจริงตามที่อดีตพระให้ข้อมูล ก็จะถือว่าการทำคดีนี้ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
"ส่วนเรื่องการช่วยเหลือในคดีนี้อดีตพระทั้งหมดบอกว่ามีทนายต่อสู้ในคดีนี้แล้ว คงไม่ไปรบกวนทางเครือข่ายฯ ส่วนการฟ้องร้องผู้เกี่ยวข้องในคดีนี้เพิ่มเติม คงไม่สามารถทำได้ เพราะทางเครือข่ายฯไม่ได้รับมอบอำนาจจากอดีตพระฯ จึงทำได้แค่เก็บข้อมูลไว้เป็นประโยชน์กับพระรูปอื่นที่อาจถูกดำเนินคดีในลักษณะเดียวกัน" นายวรากร กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี