เครือข่ายฯทวงคืนป่าแหว่งเดินหน้าจัดสัมมนาให้ข้อเท็จจริงกับชาวตำบลดอนแก้ว ในฐานะเจ้าของสถานที่ก่อสร้างบ้านพักฯ จับตา 18 มิ.ย.สิ้นสุดสัญญาต้องส่งมอบบ้านพักเพื่อรื้อคืนป่าดอยสุเทพ พร้อมขีดเส้นตาย 30 ครอบครัวขรก.ต้องย้ายออกไปทั้งหมดและยุติการก่อสร้าง เตรียมยื่นรายงานให้นายกฯพิจารณา
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 17 มิ.ย.61 ที่ศาลาวัดพระนอนขอนม่วง ต.ดอนแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เครือข่ายขอคืนผืนป่าเชิงดอยสุเทพฯ นำโดยนายธีระศักดิ์ รูปสวรรณ ผู้ประสานงานและแกนนำเครือข่ายขอคืนผืนป่าบ้านพักข้าราชการตุลาการ ศาลอุทธรณ์ภาค.5 นายบัณรส บัวคลี่ และนายชัชวาล ทองดีเลิศ ได้จัดสัมมนาเรื่องบ้าน ป่าแหว่ง โดยมีประชาชนในพื้นที่ตำบลดอนแก้วที่ให้ความสนใจเข้าร่วมจำนวน 80 คน
นายธีระศักดิ์ เปิดเผยว่า การที่เครือข่ายขอคืนผืนป่าเชิงดอยสุเทพฯ ได้เลือกวัดพระนอนขอนม่วง เป็นสถานที่จัดสัมมนาในครั้งนี้ เนื่องจากการสร้างบ้านพักข้าราชการตุลาการณ์ศาลอุทธรณ์ภาค 5 ตั้งอยู่ในเขตตำบลดอนแก้ว อ.แม่ริม แต่ขณะที่การก่อสร้างบ้านพักในครั้งนี้ ชาวชนในชุมชนตำบลดอนแก้วในฐานะเจ้าของพื้นที่ไม่ได้รับทราบจากทางการแต่ประการใด ไม่มีหน่วยงานของรัฐลงมาสอดถามหรือทำประชาชนมติกับชุมชนแต่อย่างใด ดังนั้นวันนี้ได้มาจัดสัมมนาในวัดพระนอนขอนม่วงในวันนี้เพื่อต้องการให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ตำบลดอนแล้วเจ้าของพื้นที่จะได้รับทราบปัญหาต่างๆ ได้เข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้นกับป่าในเขตตำบลดอนแก้วของเราในครั้งนี้อีกด้วย
ส่วนวันที่ 18 มิ.ย.61 ซึ่งเป็นวันสิ้นสุดสัญญาของบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างและเป็นวันที่จะต้องส่งมอบอาคารให้กับทางศาลอุทธรณ์ภาค 5 ทางเครือข่ายเราก็จะ ทางศาลจะต่อสัญญาให้กับบริษัทอีกหรือไม่นั้นต้องรอในวันพรุ่งนี้ (18 มิ.ย.) ทางเครือข่ายก็ติดตามอย่างใกล้ชิด และวันที่ 19 มิ.ย.61 ทางเครือข่ายจะไปยื่นหนังสือให้กับศาลฯ โดยมีข้อเรียกร้อง 2 ข้อ 1.ให้ยุติการก่อสร้างไว้ทั้งหมด 2.ให้เจ้าหน้าที่ที่ไปอยู่ในอาคารเรือนชุดจำนวน 30 ครอบครัว ให้ออกจากบ้านพักทั้งหมด และนำข้อเสนอดังกล่าวที่กลุ่มเครือข่ายเรียกร้องจะได้ส่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รับทราบเพื่อนำไปพิจารณาต่อไป
ด้าน พ.ท.ปิยะรัฐ ศรีสวัสดิ์ ผู้อาศัยอยู่โครงการหมู่บ้านสวัสดิการทหารบก (มทบ.33) หนึ่งในผู้เข้าร่วมสัมมนาในครั้งนี้ กล่าวว่า ได้เห็นโครงการบ้านพักตุลาการณ์ฯ การก่อสร้างตั้งแต่แรกเริ่ม ในระยะแรก เกิดความรู้สึกลึกๆ ว่าทำไมหน่วยงานรัฐก่อสร้างบ้านในพื้นที่เขตป่าไม่คำนึงถึงธรรมชาติ เกิดความเสียหายเด่นชัดมากยิ่งขึ้น และเข้าใจว่าทางศาลเป็นผู้รู้และเข้าใจกฎหมายดีกว่าชาวบ้าน คิดคงไม่ทำอะไรที่ผิดกฎหมายบ้านเมือง หลังจากนั้นได้เห็นข่าวทางโซลเชียลได้มีการคัดค้านกัน
ต่อมาทางศาลได้ออกมาแถลงฯว่าหากมีการออกสื่อฯต่างๆ จะมีการดำเนินคดีตามกฎหมาย กระแสข่าวดังกล่าวก็หายไประยะหนึ่ง ขณะนี้เมื่อเห็นเครือข่ายขอคืนผืนป่าเชิงดอยสุเทพออกมาคลื่นไหวและมีสมาชิกเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และมีหลายสาขาอาชีพทุกระดับการศึกษาได้เข้าร่วมไม่เห็นด้วยกับการก่อสร้างบ้านพักฯในเขตป่า จึงมีความหวังและเชื่อมั่นมากยิ่งขึ้น ตนพร้อมที่จะเข้าร่วมและให้กำลังใจและร่วมสนับสนุนเครือข่ายนี้อีกต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี